Biz-Review : DTAC สู้ด้วย/ขายด้วย ...และชะตากรรมของผู้บริโภคจากการแข่งขันของบรรษัทสื่อสาร

คนเรามิอาจที่จะหยุดหายใจได้ฉันใด นักธุรกิจก็มิอาจหยุดขายสินค้าได้ฉันนั้น เช่นกัน ดีแทคออกซิมใหม่พร้อมเดินหน้าฟ้องร้องศาลปกครองระงับการตัดการเชื่อมสัญญาณ ส่วนทีโอทีและกสท. ยังแสดงจุดยืนแข็งกร้าว

 

 

โดย  วิทยากร บุญเรือง

 

 

 

 

 

000

 

1. ซิมใหม่ ..

 

สำหรับการทำธุรกิจ ถ้ามัวแต่จะมานั่งจับเจ่ารอวันแห้งตายขณะเผชิญมรสุมนั้น คงจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ต่อไปอีกแล้ว ...

 

ขณะที่บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ได้ยื่นฟ้องบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ต่อศาลปกครอง ในวันนี้ (17 ม.ค. 50) เพื่อขอความยุติธรรมและขอให้ศาลปกครองสั่งให้ทีโอทีปฏิบัติตามกฎหมายและตามสัญญา โดยขอให้ทีโอทีดำเนินการให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์พื้นฐานของทีโอที สามารถใช้โทรศัพท์พื้นฐานของทีโอทีเพื่อติดต่อกับเลขหมายโทรศัพท์ใหม่ของบริษัทฯ จำนวน 1.5 ล้านเลขหมาย

 

โดยเลขหมายใหม่นี้ บริษัทฯ ได้รับการจัดสรรจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ในเดือนพ.ย. 2549 รวมถึงยังขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทีโอทีชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แก่บริษัทฯ อีกทั้งยังขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทีโอทีคงไว้ซึ่งการเชื่อมต่อโทรคมนาคมกับบริษัทฯ เพื่อประโยชน์ของประชาชนเฉกเช่นที่บริษัทฯ ยินดีที่จะทำการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมกับทีโอทีด้วยดีเสมอมา

 

ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกัน ที่เรามีโอกาสได้ต้อนรับซิมการ์ดแบบใหม่ (มีทั้งแจกฟรี และขายในราคา 199 บาท) เป็นซิมเลขหมายใหม่เฉพาะเลขหมายที่มีปัญหา ไม่สามารถรับสายโทรเข้าจากระบบโทรศัพท์บ้านของทีโอทีได้ โดยดีแทคจะเติมเงินฟรีให้แก่ลูกค้าที่ซื้อซิมเลขหมายใหม่เป็นจำนวนเงิน 200 บาทต่อเดือน ทุกเดือน ขั้นต่ำสองเดือนแรก หรือจนกว่าปัญหาจะยุติเป็นการปลอบใจ --- อันเป็นแผนการทางการตลาดขั้นแรกของเกมส์นี้

 

คนเรามิอาจที่จะหยุดหายใจได้ฉันใด นักธุรกิจก็มิอาจหยุดขายสินค้าได้ฉันนั้น เช่นกัน ..

 

ทั้งนี้ดีแทคเดินเกมส์การต่อสู้กับทีโอทีครั้งนี้ด้วยภาพของ "นักสู้ผู้แสนดีและซื่อสัตย์และใช้กฎหมายเข้าสู้"

 

ซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า "บริษัทฯ ดีแทคได้พยายามทุกวิถีทางแล้วที่จะให้ทีโอทีเห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวมแต่ความพยายามของบริษัทฯ ไม่เป็นผล บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์ของประชาชน โดยขอให้ทีโอทีปฏิบัติตามกฎหมายและสัญญาและทำตามหน้าที่ที่ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ดีจะพึงปฏิบัติ กล่าวคือ สนับสนุนให้ประชาชนสามารถใช้บริการโทรศัพท์ได้อย่างเต็มที่ และบริษัทฯ ยังได้ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทีโอทีเร่งเปิดให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์พื้นฐานของทีโอทีสามารถติดต่อกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้เลขหมายใหม่ของบริษัทฯ ได้โดยเร็ว"

 

แน่นอนว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ต้องรีบ "กุมหัวใจของผู้บริโภค" ไว้โดยด่วน ซึ่งดีแทคก็มักทำได้ดีเสมอเมื่อเจอวิกฤตที่ผ่านพ้นมาในอดีต

 

ทางด้านฝ่ายตรงข้าม ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน (16 ม.ค. 50) ทีโอที และ กสท. เพิ่งแถลงข่าวร่วมกันเพื่อจะจับมือสู้ บี้คู่กรณีให้ถึงที่สุด เนื่องจากบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค จำนวน 1.5 ล้านเลขหมาย และบริษัท ทรูมูฟ จำนวน 1.5 ล้านเลขหมาย ได้แจ้งงดชำระค่าเชื่อมต่อเครือข่าย (แอ็คเซ็สชาร์จ) ให้กับทีโอที ตั้งแต่เดือนพ.ย. 2549 เป็นเวลากว่า 3 เดือน เป็นเงินกว่า 3,540 ล้านบาท หรือ เดือนละ 1,080 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดงวดชำระเงินในวันที่ 18 และ 19 มกราคมนี้

นอกจากนี้ทีโอที ยังจะทำหนังสือส่งไปยัง ดีแทค และ ทรูมูฟ เพื่อให้ยืนยันว่าจะจ่ายค่า แอ็คเซ็สชาร์จ หรือไม่ หากในครั้งนี้ทั้ง 2 บริษัทยังยืนยันว่าจะไม่จ่ายค่าแอ็คเซ็สชาร์จอีก นอกจากจะปิดกั้นเลขหมายใหม่ ยังจะปิดกั้นเลขหมายเดิมของทั้ง 2 บริษัท ที่มีอยู่ประมาณ 25.77 ล้านเลขหมายด้วยโดยจะต้องตอบรับภายในวันที่ 18 มกราคมนี้ ซึ่งเป็นผลให้ ซิคเว่ เบรคเก้ ต้องหอบหิ้วเอกสารไปหาศาลปกครองในวันนี้อย่างรีบเร่ง

 

 

000

 

2. ตีกระทบเอไอเอส สุดท้ายจับมือ ..

 

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2549 ดีแทค ประกอบไปด้วย นายซิคเว่ เบรกเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ "ธนา เธียรอัจฉริยะ" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ ส่วนทางด้านทรูมูฟมี นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ออกมาแถลงข่าวร่วมเพื่อขอความเป็นธรรมด้วยกัน 4 ประเด็นหลัก คือ

 

(1) เอไอเอส ได้รับการเอื้อประโยชน์ โดยการปรับลดส่วนแบ่งรายได้ อันเป็นการจำกัดและกีดกันการแข่งขันในการให้บริการกิจการโทรคมนาคม

 

(2) เอไอเอสได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าเชื่อมโยงโครงข่ายโทรคมนาคม หรือ แอ็คเซ็สชาร์จ ในขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นต้องจ่าย

 

(3) กรณีการไม่ออกกฎเกณฑ์เรื่องการคงเลขหมายโทรคมนาคม หรือ Number Portability ทำให้เอไอเอสได้เปรียบเนื่องจากเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่และมีฐานลูกค้ามากที่สุด และ

 

(4) เอไอเอสสามารถใช้อำนาจครอบงำตลาด ด้วยการลดอัตราค่าบริหารที่ต่ำกว่าต้นทุนที่เป็นจริง ทั้งที่ขัดต่อการประกาศของ กทช.

เหตุการณ์นั้นเป็นอาฟเตอร์ช็อกลูกหนึ่งในวงการธุรกิจ อันเป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองครั้งล่าสุด ที่ทำให้ 2 ลูกไล่ในวงการมือถือ กล้าลุกขึ้นมาท้าชนกับบิ๊กเบิ้มอันดับหนึ่ง หลังจากนั้นไม่กี่วัน เอไอเอสก็แถลงข่าวโต้กลับไปทันควัน

 

แน่นอนว่าเป้าที่แท้จริงของทั้งดีแทคและทรูมูฟนั้น คือการหันหน้าเข้าหาภาครัฐเพื่อให้ช่วยเหลือในการแข่งขันนี้ การแข่งขันซึ่งพวกเขาเป็นรองตลอดมา

ต่อจากนั้นไม่นาน เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา ดีแทค และทรูมูฟ ร่วมมือกันช็อกวงการโทรคมนาคมอีกครั้ง ด้วยการลงนามข้อตกลงร่วมกันในการใช้อัตราค่าเชื่อมโครงข่าย (อินเตอร์คอนเน็คชั่นชาร์จ หรือไอซี) ของทั้งสองบริษัท แทนการจ่ายค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (แอ็คเซ็สชาร์จ) จำนวน 200 บาท ต่อเลขหมายให้กับทีโอที โดยหันมาจ่ายในรูปแบบไอซีแทนในอัตรา 1 บาท/นาที ทั้งการโทรเข้าและรับสายและคิดค่าสัญญาณวิ่งผ่านเครือข่าย หรือทรานสิตนาทีละ 20 สตางค์ ซึ่งข้อตกลงครั้งนี้ยังไม่ได้รับการยินยอมจากทางทีโอที

และทั้งๆ ที่เพิ่งแถลงข่าวด่ากันมาหยกๆ โลกก็ได้เห็นความจริงที่ว่า "เนื้อแท้แล้ว .. นายทุนทั้งหมดคือพวกเดียวกัน" เมื่อถัดจากนั้นในวันที่ 30 พ.ย. เอไอเอส โดย "วิเชียร เมฆตระการ" กรรมการผู้อำนวยการ และ ดีแทค โดย "ซิคเว่ เบรคเก้" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลงนามในข้อตกลงร่วมกัน ใช้ไอซีของทั้งสองบริษัท โดยเป็นอัตราที่ กทช. อนุมัติไว้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2549 จากนั้นทั้งสองบริษัทได้ส่งข้อตกลงดังกล่าวให้ กทช. ภายใน 15 วัน เพื่อให้ กทช. พิจารณาอนุมัติเป็นเป็นตอนสุดท้าย

สำหรับเนื้อหาหลักของสัญญาในครั้งนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 50 โดยจะจ่ายค่าไอซีในอัตรา 1 บาทต่อนาที ซึ่งเอไอเอสจะคิดค่าสัญญาวิ่งผ่านเครือข่ายนาทีละ 1 บาท  ส่วนดีแทคคิดนาทีละ 50 สตางค์ จากนั้นไม่นาน ทางเอไอเอสก็เซ็นสัญญาการใช้ไอซีร่วมกับทรูมูฟ

ซึ่งการลงนามข้อตกลงการใช้ไอซีครั้งนี้ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจสารสนเทศ สถาบันพัฒนาเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) แสดงความคิดเห็นว่า เกมส์นี้ ผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุด คือ ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่คนที่สูญเสียผลประโยชน์นั้น ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่า คือ ทีโอที ที่ต้องสูญเสียเม็ดเงินนับหมื่นล้าน แม้ภาครัฐจะเป็นฝ่ายร้องขอให้เลื่อนกำหนดการบังคับใช้ค่าไอซีออกไปอีก 1 ปี เพราะยังไม่มีความพร้อม แต่ในที่สุดเอกชนกลับฉีกสัญญาโดยอาศัยช่องโหว่ของกฏหมาย

 

         

000

 

3. บนความไม่แน่นอน นั่นแหละ "ชีวิตผู้บริโภค"

 

ทั้งนี้ หมัดเด็ดที่ ทีโอทีและกสท. จะนำมาใช้กับ ดีแทค และ ทรูมูฟ หากไม่จ่ายค่าแอ็คเซ็สชาร์จ จะทำให้เลขหมายใหม่ 3 ล้านเบอร์ของทั้ง ดีแทค และ ทรูมูฟ โทรเข้าระบบทีโอที ไม่ติด เท่านั้นไม่พอ เพราะคาดว่าจะขยายไปยังกลุ่มเลขหมาย เอไอเอส ทีทีแอนด์ที ไทยโมบาย ส่วนเลขหมายเก่า อีก 25.77 ล้าน หากไม่จ่าย ก็จะต้องโดนตามไปด้วย  

 

โดยสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกมากล่าวว่า ทางสคบ.จะให้ทั้งสองราย แจ้งกับลูกค้าก่อนขายซิมในกลุ่มใหม่นี้ ว่าสามารถใช้งานได้ในระดับไหนเพื่อไม่ให้ลูกค้าสับสน และมีข้อร้องเรียนถึงการใช้งานตามมา ที่คาดว่าจะต้องมีประชาชนเกิดข้อสงสัยและเข้ามาร้องเรียนในเรื่องนี้เป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ลูกค้าเลขหมายใหม่ ของดีแทคและทรูมูฟ หากพบว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้บริการ สามารถร้องเรียน กับ สคบ. ได้ที่หมายเลข 1166

 

ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมในอุตสาหกรรมการสื่อสาร ที่นับวันก็ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคขาดเสียไม่ได้ เราถูกยัดเยียดให้มันเป็นสิ่งจำเป็น แถมเรายังจะถูกยัดเยียดความไม่แน่นอนให้อีกหรือนี่?

 

ซึ่งในเกมส์นี้ เราก็ได้คำตอบแล้วว่า ภายใต้การแข่งขันของบรรษัทรายใหญ่ ผู้บริโภคย่อมไม่เคยได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ตราบใดที่บรรษัทเหล่านั้น ยังไม่ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดก่อนหน้าเรา ... มวลหมู่ผู้บริโภคทั้งหลาย ;-)

 

 

......................

 

แหล่งข้อมูล :

 

ดีแทคยื่นฟ้องศาลปกครองขอให้ทีโอทีเปิดสัญญาณเชื่อมโครงข่ายเลขหมายใหม่  ที่มา - www.thaipr.net Wednesday, January 17, 2007

 

ปรากฏการณ์ 3 บิ๊กมือถือฉีกสัญญาค่าเชื่อมวงจร ที่มา - ฐานเศรษฐกิจ Thursday, December 28, 2006 

 

ศึกบล็อคสัญญาณมือถือเดือด ที่มา - แนวหน้า Wednesday, January 17, 2007

 

ทีโอทีใช้ไม้เด็ดจับมือบริษัทสัมปทานไม่เชื่อมดีแทคทรูมูฟดัดหลังเบี้ยวเอซี ที่มา - ผู้จัดการรายวัน Wednesday, January 17, 2007

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท