ประชาไท—24 ม.ค. 2550 วานนี้ (23 ม.ค.) นายบารมี ไชยรัตน์ และนางสาวชนกาญจน์ พันธุ์เดิมวงศ์ อนุกรรมการสิทธิในการจัดการที่ดินและป่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงพื้นที่สำรวจปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนใน จ.เชียงใหม่ตามที่มีราษฎรร้องเรียนมา โดยในวันนี้มีการสำรวจ 2 กรณีจากทั้งหมด 11 กรณี ปัญหาคือกรณีราษฎรใน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ร้องเรียนได้รับผลกระทบจากโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และกรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับซ้อนที่ดินทำกินของชาวบ้านใน จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่เบื้องต้นของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐคุกคามราษฎรที่ร้องเรียนปัญหาไปยังองค์กรอิสระและหน่วยงานราชการ โดยนางดาหวัน เสาเสนา ราษฎรบ้านตองกาย ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จากการที่โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีดังกล่าวนำที่ดินขนาด 2 ไร่ 1 งาน 37 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินทำกินของเธอไปใช้ประโยชน์ในการทำอ่างเก็บน้ำ สถานที่เลี้ยงช้างในโครงการ จึงทำให้เธอไม่มีสิทธิในที่ทำกินตลอดได้รับค่าชดเชยที่ไม่เป็นธรรม

โดยพบว่าหลังจากที่นางดาหวันสูญเสียที่ดินทำกินให้กับโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและได้มีการร้องเรียนความไม่เป็นธรรมดังกล่าวไปยังองค์กรอิสระและหน่วยงานราชการ นับจากนั้นมาได้มีการส่งบุคคลคอยสังเกตความเคลื่อนไหวของเธอและคนในครอบครัว มีการเข้ามาสอบถามความเคลื่อนไหวของคนในบ้าน มีการดักฟังการสนทนา กระทั่งมีการปองร้ายนางดาหวันด้วยการวางยาพิษ แต่สุนัขที่เธอเลี้ยงรับประทานเข้าไปแทนจึงทำให้สุนัขเสียชีวิต

ซึ่งหลังการรวบรวมข้อมูลของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในวันนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนำเสนอต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในที่ประชุม เพื่อรับฟังปัญหาจากชาวบ้านและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตลอดจนหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาให้กับราษฎร โดยจะมีการนำกรณีปัญหาต่างๆ เข้าที่ประชุมในวันที่ 24 มกราคมนี้ ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่