Skip to main content
sharethis

นายเบญจ อับดุลบุตร กำนันตำบลตาลีอาย อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวันที่ 24 ม.ค.50 ตนพร้อมกับทหารจากค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ได้นำชาวมุสลิมหมู่ที่ 1 ตำบลถ้ำทะลุ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ซึ่งเดิมเป็นชาวบ้านในตำบลตาลีอายกว่า 50 คน กลับเข้าพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลถ้ำทะลุ หลังจากอพยพกลับมาอยู่บ้านเดิมที่ตำบลตาลีอายนานเกือบ 3 เดือน เนื่องจากกลัวสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ หลังจากมีเด็กวัยรุ่นในหมู่บ้านถูกยิงเสียชีวิต 2 คน และบ้านพักถูกเผาเสียหาย 3 หลัง


 


 



 


นายเบญจ เปิดเผยต่อไปว่า เมื่อไปถึงหมู่บ้านปรากฏว่า บ้านพักของชาวบ้านกลุ่มนี้ถูกเผาเสียหายเพิ่มขึ้นอีก 1 หลัง ยังมีควันไฟลอยคลุ้งอยู่ ทางหน่วยทหารในพื้นที่รับจะเข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยให้ ขณะเดียวกัน ปลัดอำเภอบันนังสตารับจะหาเงินช่วยเหลือค่าทำศพให้กับญาติวัยรุ่นที่เสียชีวิตทั้ง 2 คน รวมทั้งจะเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้


 


นายเบญจ เปิดเผยด้วยว่า ขณะที่พวกชาวมุสลิมกลุ่มนี้ กลับถึงหมู่บ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ซึ่งเป็นชาวไทยพุทธให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และรับปากว่าระหว่างชาวไทยพุทธกับมุสลิม จะช่วยเหลือดูแลกันและกัน สำหรับพื้นที่ดังกล่าว มีทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจากนอกพื้นที่เข้าไปบุกเบิกทำกินเมื่อ 40 กว่าปีแล้ว


 


เขากล่าวว่า หมู่บ้านนี้มีทั้งไทยพุทธและมุสลิม โดยชาวมุสลิมจะอยู่ลึกเข้าไปข้างในติดภูเขา ปลูกบ้านในสวนยางพาราห่างๆ กัน ลักษณะเป็นกระท่อม ทางเข้าหมู่บ้านมีทางเดียว ตรงปากทางเป็นชุมชนชาวไทยพุทธ มีด่านตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านที่เข้มแข็งมาก เฝ้าตลอดเวลา มีข้อตกลงว่า ใครออกไปนอกพื้นที่จะต้องกลับเข้ามาไม่เกิน 18.00 น.


 


"วันที่เด็กวัยรุ่นมุสลิมอายุไม่เกิน 20 ปี 2 คนถูกยิงตาย ทั้งสองกลับเข้าหมู่บ้านหลัง 6 โมงเย็น โดยก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน หนึ่งในสองคนซึ่งมีใบรับรองแพทย์ระบุว่า พิการทางสมองเล็กน้อย ขับรถจักรยานยนต์ออกไปซื้อเสื้อมือสองในตลาดนอกหมู่บ้าน เมื่อกลับมาบ้านลองสวมเสื้อที่ซื้อมา ปรากฏว่าไม่พอดีตัว วันรุ่งขึ้นจึงชวนเพื่อนกลับไปเปลี่ยนที่ร้านเดิม กลับมาถึงด่านตรวจหลัง 6 โมงเย็น" นายเบญจ กล่าว


 


นายเบญจ เล่าว่า ขณะถึงด่านตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านให้ผ่านไปได้ จึงขับรถจักรยานยนต์กลับเข้าหมู่บ้าน สภาพถนนถัดด่านตรวจเป็นทางโค้งรู้ตัว U เมื่อพ้นทางโค้ง มีคนร้ายดักยิงวัยรุ่นมุสลิมทั้ง 2 คน ด้วยปืนขนาด 11 มิลลิเมตร เสียชีวิต ญาตินำศพวัยรุ่นทั้งสอง กลับมาทำพิธีทางศาสนาที่ตำบลตาลีอาย อำเภอยะหริ่ง จากนั้นอีก 2 วัน มีคนร้ายเข้าไปเผาบ้านของชาวมุสลิมในหมู่บ้านแห่งนี้ 3 หลัง ทำให้ชาวมุสลิมกว่า 50 คน หวาดกลัวไม่กล้ากลับเข้าหมู่บ้าน ต้องหลบมาอาศัยอยู่ที่ตำบลตาลีอายชั่วคราว พร้อมกับมาขอความช่วยเหลือจากตน ตนจึงประสานไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร และนายอำเภอบันนังสตา เพื่อขอให้ตัวแทนชาวบ้านได้หารือกับกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ที่มัสยิดบ้านถ้ำทะลุ อำเภอบันนังสตา เพื่อหาข้อตกลงในการอยู่ร่วมกัน แต่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลถ้ำทะลุ ไม่ได้มาหารือด้วย


 


นายเบญจ เปิดเผยอีกว่า ต่อมา ทางราชการได้ประสานไปยังกำนันและผู้ใหญ่บ้านในตำบลถ้ำทะลุอีกครั้ง ได้ข้อสรุปว่า คนไทยพุทธในพื้นที่ต้องการให้ชาวมุสลิมทั้งหมดกลับเข้าพื้นที่ โดยจะให้การต้อนรับและดูแลช่วยเหลือ เพราะต่างคนต่างก็เข้ามาทำมาหากิน ไม่เคยมีปัญหาต่อกันมาก่อน จนกระทั่งชาวมุสลิมกว่า 50 คน กลับเข้าหมู่บ้าน เมื่อเช้าวันที่ 24 มกราคม 2550 โดยชาวบ้านฝ่ายมุสลิมยืนยันว่า ไม่ติดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขอให้ได้ทำมาหากินอย่างปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว


 


นายเบญจ เปิดเผยด้วยว่า การที่ชาวมุสลิมกลุ่มนี้ไม่กล้ากลับเข้าหมู่บ้าน ส่งผลให้มีหนี้สินเพิ่มขึ้นมาก การกลับเข้าหมู่บ้านครั้งนี้ ส่วนหนึ่งต้องการกลับเข้าไปเก็บเกี่ยวผลผลิตนำมาขายชำระหนี้ นอกจากนี้ยังได้ขอให้ทางราชการช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัย รวมทั้งค่าทำศพวัยรุนทั้งสองคนด้วย


 


"จากการวิเคราะห์ของหน่วยทหารในพื้นที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นมือที่สาม ต้องการสร้างความแตกแยกให้กับคนในพื้นที่ แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีทางเข้า - ออกทางเดียว มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านที่เข้มแข็งมาก อีกทั้งเป็นพื้นที่ภูเขา ติดชายแดนมาเลเซีย ยากมากที่คนนอกจะเข้าไปสร้างสถานการณ์ได้ง่ายๆ" นายเบญจ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net