Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 25 ม.ค.2550 หนังสือพิมพ์ออนไลน์ McClatchy Washington Bureau รายงานข่าวเมื่อวันที่ 24 มกราคม โดยอ้างถึงคำพูดของวุฒิสมาชิก "ไบรอน ดอร์แกน" ระบุว่าการที่สหรัฐฯ ทำสัญญาเขตการค้าเสรี หรือ FTA กับหลายประเทศทั่วโลกในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สถิติการก่อตั้งโรงงานนรกในประเทศกำลังพัฒนาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากข้อจำกัดในการลงทุนข้ามชาติถูกลดความเข้มงวดลง ประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่งจึงแห่กันไปลงทุนในประเทศที่มีแรงงานราคาถูกเพื่อลดต้นทุนการผลิต


 



ภายในโรงงานนรกแห่งหนึ่งในเอเชีย


ภาพจาก Commondreams.org


 


โรงงานนรก หรือ Sweatshop ที่ไบรอน ดอร์แกนกล่าวถึง ได้แก่ โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปหลายแห่งที่ไม่มีสวัสดิการให้พนักงาน ไม่มีเงินค่าล่วงเวลา แต่มีเพียงค่าแรงขั้นต่ำ และบังคับให้ทำงานหนักโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพความปลอดภัยใดๆ ของแรงงานที่ว่าจ้าง ซึ่งดอร์แกนได้ยกตัวอย่างโรงงานในประเทศจีนและจอร์แดนเป็นกรณีศึกษา พร้อมกับระบุว่าแรงงานเด็กที่อายุน้อยที่สุดและทำงานในโรงงานนรกเหล่านี้คือเด็กในวัย 5 ปีเท่านั้น และเด็กจำนวนมากที่ทำงานในโรงงานนรกก็มีอายุต่ำกว่า 14 ปี


 


นอกจากนี้ ดอร์แกนยังกล่าวอีกด้วยว่าเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศกำลังพัฒนาบางแห่งก็เป็นผู้ละเมิดข้อบังคับหรือกฏหมายแรงงานเสียเอง ทำให้สถิติแรงงานเด็กทั่วโลกพุ่งสูงถึง 250 ล้านคนในปีที่ผ่านมา


 


บริษัทในสหรัฐอเมริกาหลายแห่งที่เข้าไปลงทุนในประเทศกำลังพัฒนา มีส่วนโดยตรงในการส่งเสริมให้เกิดการละเมิดสิทธิแรงงาน ด้วยเหตุนี้ ไบรอน ดอร์แกน ร่วมกับวุฒิสมาชิกอีก 5 ราย จึงร่วมกันเสนอร่างกฏหมายเอาผิดผู้ประกอบการธุรกิจของสหรัฐฯ ที่ไปลงทุนในต่างประเทศ และมีส่วนเกี่ยวพันกับการใช้แรงงานเด็ก หรือเพิกเฉยต่อสวัสดิภาพ และการคุ้มครองแรงงานในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้ธุรกิจข้ามชาติเหล่านี้รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในโรงงานนรก


 


อย่างไรก็ตาม มีผู้คัดค้านร่างกฏหมายดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าอาจจะนำไปสู่การสร้างข้อมูลเท็จเพื่อตัดกำลังคู่แข่งทางธุรกิจ เพราะร่างกฏหมายฉบับนี้เปิดโอกาสให้บริษัทที่เป็นคู่แข่งทางการตลาดฟ้องร้องกันได้ ถ้ามีหลักฐานว่าอีกฝ่ายพัวพันกับกระบวนการผลิตสินค้าจากโรงงานนรก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net