Skip to main content
sharethis

แถลงการณ์


ขอสนับสนุนการชุมนุมของเครือองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด


และเรียกร้องให้รัฐบาลรีบแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน


 


เครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อ.จะนะ จ.สงขลา  ขอสนับสนุนการชุมนุมยืดเยื้อบริเวณหน้าศาลากลาง จังหวัดตรัง ของเครือองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด เพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐให้ถึงที่สุด และขอให้รัฐบาลมีความจริงใจรีบลงมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วนก่อนที่การชุมนุมจะขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น


 


สืบเนื่องจากพี่น้องเครือองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัดได้ชุมนุมยืดเยื้อหน้าศาลากลางจังหวัดตรังตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2550 ซึ่งเป็นการชุมนุมครั้งที่สอง เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ยอมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่อุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงที่วางไว้ คือ ระหว่างที่ยังหาข้อตกลงร่วมกันไม่ได้ ให้เจ้าหน้าที่ยุติการข่มขู่ คุกคาม และดำเนินคดีกับชาวบ้าน ตลอดจนยินยอมให้ชาวบ้านพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานในหมู่บ้านได้ หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ให้มีการลงโทษทางวินัย


 


แต่เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2550 ขณะที่ชาวบ้านในตระ หมู่ที่ 2 ตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ขนปูนไปซ่อมแซมเส้นทางเข้าหมู่บ้าน นายคม ชัยภักดี หัวหน้าหน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนเต๊ะ พร้อมเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่งได้ยึดปูนของชาวบ้าน อ้างว่าปฏิบัติตามคำสั่งของนายสนิท องศารา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด โดยให้เหตุผลว่าข้อตกลง ที่ลงนามร่วมกันระหว่างชาวบ้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่า ผู้อำนวยการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ไม่มีผลตามกฎหมาย ถ้าต้องการได้รับการยกเว้น ต้องให้ผู้มีอำนาจอนุญาต คือ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้สั่งการ


 


ต่อมาวันที่ 25 อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อ้างว่าตนไม่มีอำนาจในการสั่งย้าย และขอตรวจสอบอีก 7 วัน พฤติกรรมดังกล่าวส่อให้เห็นว่ารัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องขาดความจริงใจในการแก้ไขปัญหา พยายามหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับข้อตกลง และที่สำคัญกำลังปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาที่กระทำความผิดโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของชาวบ้าน


 


ทั้งที่ชาวบ้านเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัดได้ดำรงชีพ และหากินในพื้นที่ดังกล่าวมาอย่างยาวนาน ก่อนจะมีการประกาศเป็นเขตอุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น "รัฐต่างหากที่เป็นผู้บุกรุกพื้นที่ทำกินของชาวบ้านโดยการประกาศเป็นเขตอนุรักษ์ ไม่ใช่ชาวบ้านไปบุกรุกพื้นที่ป่า" ดังนั้นพวกเขาย่อยมีสิทธิที่จะดำรงชีพตามวิถีปกติอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างมีศักดิ์ศรีในฐานะที่เป็นคนไทยและเป็นเจ้าของที่ดิน มีสิทธิที่จะทำกินในผืนแผ่นดินที่บรรพบุรุษได้บุกเบิกและสร้างไว้ โดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปรบกวน กลั่นแกล้ง และทำการจับกุม


           


ดังนั้นเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย ขอสนับสนุน และให้กำลังใจกับพี่น้องเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด ในการชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกิน และการต่อสู้กับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น


 


สุดท้ายเรียกร้องให้รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และปฏิบัติตามข้อเสนอของเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัดโดยเร่งด่วน ก่อนที่สถานการณ์จะรุนแรงและบานปลายจนยากแก่การแก้ไข ได้แก่


            1) ต้องย้ายและลงโทษเจ้าหน้าที่ 2 คนที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงทันที


2) ยุติการจับกุม ข่มขู่ คุกคามชาวบ้านในพื้นที่


3) เจ้าหน้าที่ต้องยุติการทำลายทรัพย์สิน เช่น ตัดฟันต้นยาง เผาบ้าน


4) ยุติการดำเนินคดีชาวบ้านในเครือข่ายฯ อย่างขาดความชอบธรรม


5) หยุดขัดขวาง และสนับสนุนการพัฒนาสาธารณูปโภคของชุมชน


6.) เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านระยะยาว เครือข่ายฯจึงขอให้รัฐบาลมีคำสั่งยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 30 มิถุนายน 2541 เรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นทีป่าไม้


 


ด้วยสลามและดุอา


เครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อ.จะนะ จ.สงขลา


26 มกราคม 2550


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net