ประชาไท - 31 ม.ค. 50 เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น. พระชาวพม่า 4 รูป กลุ่มนักศึกษา และกลุ่มผู้รณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในพม่าทั้งชาวไทยและต่างชาติประมาณ 30 คน รวมตัวกันหน้าสถานทูตพม่าประจำประเทศไทย เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ให้เกิดสันติภาพ ปล่อยตัวนางอองซานซูจี นักศึกษาและนักโทษการเมืองที่ถูกจับในพม่า จากนั้นจึงร่วมกันจุดเทียนสวดภาวนาให้เกิดสันติภาพ ก่อนแยกย้ายกันไปในเวลา 10.30 น.
นายจารุวัฒน์ เกยูรวรรณ เจ้าหน้าที่คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในพม่ากล่าวว่า หลังจากนี้ พระภิกษุชาวพม่าทั้ง 4 รูป จะเดินเท้าไปจนถึงอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งฝั่งตรงข้ามแม่นำ้เมยเป็นเมืองเมียวดี ประเทศพม่า เพื่อเป็นการรณรงค์ให้มีสันติภาพเกิดขึ้น
อาสาสมัครชาวแม่สอดคนหนึ่งที่ประสานงานกับพระภิกษุทั้ง 4 รูป ตลอดเวลาที่ผ่านมา กล่าวว่า พื้นที่อำเภอแม่สอดเป็นจุดที่มีอาสาสมัคร องค์การทำงานทางสังคมและแคมป์ผู้อพยพจากพม่าตั้งอยู่จำนวนมาก พระภิกษุทั้ง 4 รูปอาศัยอยู่ที่เยอรมันมาก่อน โดยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 49 เคยเดินขบวนเพื่อสันติภาพที่ประเทศเยอรมัน จากนั้นจึงอยากเดินในประเทศอื่นๆด้วย การเริ่มเดินในวันนี้ตรงกับวันครบรอบวันเสียชีวิตของ มหาตมะ คานธี นักสันติวิธีผู้ใช้หลักอหิงสธรรมต่อสู้กับประเทศอังกฤษจนอินเดียได้รับเอกราช
สำหรับการเดินเท้าในวันแรกพระภิกษุได้หยุดพักที่รังสิต ถึงเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันพรุ่งนี้จะเดินต่อไปทางพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก สุโขทัย กำแพเพชร ตาก แล้วจึงเข้าสู่แม่สอดเป็นเป้าหมายสุดท้าย เพื่อทำพิธีกรรมทางศาสนาพุทธ อาทิ การสวดมนต์ การทำสมาธิเพื่อให้เกิดสันติเพราะปัญหาต่างๆในโลกทุกวันนี้มาจากความโลภที่มากเกินไป ความหลง ความโกรธ จึงทำให้ขาดสันติ ขาดความเมตานำมาซึ่งความรุนแรง เนื่องจากเชื่อไม่เหมือนกัน การเดินทางคาดว่าใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 30 วัน
อาสาสมัครคนเดิมกล่าวอีกว่า ในระหว่างการเดินทางของพระภิกษุทั้ง 4 รูป จะคอยประสานกับเครือข่ายทำงานทางสังคม( NGOs) ในพื้นที่ต่างๆให้ช่วยดูแลเพราะพระไม่รู้จักใครอีกทั้งพูดได้เพียงภาษาอังกฤษกับภาษาพม่า ไม่สามารถพูดภาษาไทยได้
สำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายในพม่า ณ ขณะนี้ คือ
1. รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกล้มล้างโดยคณะทหาร และมีการจับกุมตัวผู้นำพรรคประชาธิปไตยแห่งชาติ (อองซานซูจี) โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของพม่า
2. รัฐบาลทหารที่ยึดอำนาจและปกครองประเทศมาหลายสิบปี ทำสงครามกับชนกลุ่มน้อยอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อ และละเมิดสิทธิมนุษยชน
3. องค์กรและนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนถูกคุกคามอย่างรุนแรง แม้จะมีการเดินขบวนเรียกร้องอย่างสันติก็ถูกรัฐาลทหารปราบปรามอย่างรุนแรง
4. ผู้อพยพลี้ภัยต้องหนีตายกว่า 700,000 คน และก่อให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
5. รัฐบาลทหารรู้เห็นเป็นใจกับการค้ายาเสพติด และปัจจุบันพม่าเป็นแหล่งค้ายาเสพติดขนาดใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก