ผู้จัดการรายวัน - นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พล พิชัยยุทธ สว.กก.4 บก.ป. ที่กองบังคับการกองปราบปราม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว โดยมีประชาชนจากเครือข่ายสลัม 4 ภาค และสหภาพแรงงานกว่า 20 คน คอยมาให้กำลังใจ พร้อมชูป้ายผ้าเขียนข้อความให้กำลังใจและตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น "ปกป้องเสรีภาพนักวิชาการ คือ รักษาภูมิปัญญาให้สังคม" และ "ทีคดีระเบิดไม่คืบหน้าแต่มาใส่เกียร์ห้ากับ อ.ธีรยุทธ" เป็นต้น

นายธีรยุทธให้สัมภาษณ์ก่อนพบเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เดิมคิดว่าคดีนี้ตำรวจจะสั่งไม่ฟ้องเพราะเป็นนักวิชาการซึ่งออกมาวิพากษ์วิจารณ์การเมืองเพื่อสังคม อีกทั้งพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ในเวลาต่อมาก็เป็นไปตามที่พูดไว้ ตำรวจจึงน่าจะมีวิจารณญาณในเรื่องนี้ ตลอด 20 ปีที่อยู่ในบทบาทนี้ก็วิจารณ์รัฐบาลมา ทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่สมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตำรวจก็น่าจะเข้าใจว่าเป็นการทำหน้าที่นักวิชาการเพื่อผลประโยชน์ของสาธารณะ และงานทั้งหมดก็อยู่บนพื้นฐานทางวิชาการผ่านการวิจัยและรวบรวมข้อมูล ไม่ได้เป็นการตั้งเป้าว่าจะเป็นบุคคลใด แต่จะแตกต่างจากงานวิชการอื่นๆก็คืองานของตนต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจึงใช้ภาษาที่ชาวบ้านเข้าใจง่าย แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจไม่ชอบเช่นคำว่า "โคตรานุวัตร"เป็นต้น

นายธีรยุทธได้แสดงความเห็นในเบื้องต้นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองหลังการปฏิวัติโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ว่า กำลังรวบรวมข้อมูล เพื่อนำเสนอความเห็นทางวิชาการอยู่ ซึ่งคาดว่าคงจะออกมาแถลงให้ประชาชนทราบได้ประมาณช่วงกลางเดือน ก.พ.นี้

"ผมรู้สึกกังวลว่ารัฐบาลชุดนี้คงจะไม่ใช่รัฐบาลขิงแก่ แต่ดูไปดูมาก็เหมือนเป็น ขมิ้นอ่อน ส่วน คมช. ก็เหมือนกับเป็นแป้งโกกิ ที่นำมาใช้ชุปอาหารทอด สรุปก็คือเป็นรัฐบาลที่ยังอ่อนเชิงทางการเมือง ไม่ทันกลุ่มการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ และนักการเมืองกลุ่มอื่นๆ"

นายธีรยุทธ กล่าวด้วยว่า คิดว่าขณะนี้รัฐบาลยังไม่เข้าใจทิศทางภารกิจใหญ่ ของตัวเอง จึงทำให้การทำงานไม่มีทิศทางจนประชาชนเกิดความกังวลใจ ไม่มั่นใจสูงมาก

เว็บไซต์คมชัดลึก - รายงานข่าวจากกระทรวงคมนนาคมแจ้งว่า นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.ที่มีพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานกรรมการทอท.วันนี้ (1ก.พ.) แล้ว โดยมีผลในวันที่ 2ก.พ.ถือเป็นผู้ที่ร่วมรับผิดชอบโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ลาออกเป็นรายแรก ขณะที่กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการตรวจสอบปัญหาการให้บริการ รวมไปถึงความเสียหายของ แท็กซี่เวย์และรันเวย์

กรมประชาสัมพันธ์ - พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. กล่าวว่า ไม่มีอำนาจในการพิจารณาตำแหน่งของ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ การตัดสินใจจะอยู่ที่นายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียว อย่างไรก็ดี เห็นว่า พลตำรวจเอกโกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นคนดี ตั้งใจทำงาน เพียงแต่อาจไม่ถนัดงานสืบสวนสอบสวน ส่งผลให้การทำงานด้านคดีระเบิดในกรุงเทพมหานครและนนทบุรีเมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา มีความล่าช้า ไม่ทันใจต่อกระแสสังคมที่ต้องการเห็นผลสรุปของคดีรวดเร็วกว่านี้ ซึ่งก็รู้สึกเห็นใจ

ประธาน คมช.กล่าวอีกว่า ได้มอบเอกสารผลสรุปความคืบหน้าคดีระเบิดในกรุงเทพมหานครฉบับที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินำมามอบให้ ให้กับ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. ไปดำเนินการต่อ และให้สรุปข้อมูลและชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง

กรมประชาสัมพันธ์ - นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ. 2540 มีปัญหา แต่อีกส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากวัฒนธรรมการเมืองที่ไม่ลงตัว ซึ่งการจะยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องพิจารณาต้นเหตุของปัญหาอย่างแท้จริง และทำให้สอดคล้องกับสภาพการเมืองและสังคมปัจจุบัน

รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควรให้ความสำคัญกับระบบการตรวจสอบพรรคการเมือง และนักการเมือง โดยเน้นย้ำที่การสรรหาองค์กรอิสระให้มีความยุติธรรม เป็นกลาง และเข้มแข็งอย่างแท้จริง ซึ่งอาจมีการหาแนวทางป้องกันการนำระบบอุปถัมภ์มาใช้ในการสรรหาองค์กรอิสระ เช่น มีการลงคะแนนในการสรรหาบุคคลเข้าสู่องค์กรต่างๆ อย่างเปิดเผย

กระบวนการสร้างความเข้าใจในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความเห็นต่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างเสมอภาคกัน เป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีการวางแผนตั้งแต่วันนี้ เพื่อนำไปสู่การทำประชามติที่ประสบผลสำเร็จ

กรมประชาสัมพันธ์ - พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งกำชับให้ตำรวจทุกพื้นที่วางมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศกาลตรุษจีน และวันวาเลนไทน์ เนื่องจาก เป็นช่วงวันหยุดยาวติดต่อกัน และมีการจัดงานเทศกาลรื่นเริงตามสถานที่ต่างๆ จึงให้ทุกพื้นที่ตั้งด่านตรวจค้นทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะการเฝ้าระวังคดีอาชญากรรมตามธนาคาร, ร้านทอง, สถานีบริการน้ำมัน, ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง, ที่พักอาศัย, สถานีขนส่ง แหล่งท่องเที่ยว และจุดล่อแหลมต่างๆ พร้อมทั้งประสานนายทะเบียนท้องที่พิจารณาการออกใบอนุญาตให้ผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายดอกไม้เพลิงเท่าที่จำเป็น และตรวจสอบสถานที่ผลิต เก็บ จำหน่ายดอกไม้เพลิงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้

อีกทั้งกวดขันสถานบริการให้ปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบสังคมโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ ให้เพิ่มความเข้มงวดและเพิ่มมาตรการป้องกันเป็นพิเศษ

กรุงเทพธุรกิจ - พ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง ผกก. สน.ปทุมวัน กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในระหว่างทีมฟุตบอลชาติไทยกับทีมชาติสิงคโปร์ซึ่งมีโปรแกรมฟาดแข้งกันเป็นครั้งที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 4 ก.พ.ที่จะถึงนี้ที่สนามศุภชลศัย ว่า ในวันที่ 2 ก.พ. เวลา 09.30 น. ที่ สน.ปทุมวัน จะมีการประชุมใหญ่ของทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 เพื่อวางมาตรการในการเตรียมกำลังรองรับการแข่งขันระหว่างทีมไทยกับสิงคโปร์ที่จะมีขึ้น โดยในการประชุมในครั้งนี้เราจะประสานผู้จัดการแข่งขัน ทางเจ้าหน้าที่สนามรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องในเรื่องต่างๆเพื่อเข้าประชุมหาข้อสรุปเกี่ยวกับรายละเอียดในเรื่องต่างๆก่อนที่จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าประจำจุดต่างๆ

ผกก.สน.ปทุมวันกล่าวด้วยว่า สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ของทาง สน.ปทุมวันซึ่งเตรียมไว้มีประมาณ 100 นายทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชายและหญิงรวมไปถึงเจ้าหน้าตำรวจสายธุรการด้วยซึ่งก็คงไม่เพียงพอในการที่จะรองรับฝูงชนที่จะหลั่งไหลเข้ามาชมฟุตบอลคู่ดังกล่าวจึงต้องสนธิกำลังกับทางบก.น.6 ในการเตรียมกำลังรักษาความปลอดภัยซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดูแลรักษาเหตุการณ์ไม่สงบได้

ผู้จัดการออนไลน์ -สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกมายืนยันถึงการปรับราคาบัตรเช้าชมในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอล "อาเซียนคัพ 2007" รอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 ระหว่างทีมชาติไทยกับสิงคโปร์ ที่จะแข่งขันกันในวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 19.00 น.ที่สนามศุภชลาศัยใหม่ จากเดิมราคา 50, 100, 200 บาท เป็น 100, 200, 300 บาท โดยที่นั่งด้านหลังประตูราคา 100 บาท อัฒจันทร์ฝั่งคบเพลิง 200 บาท และอัฒจันทร์ฝั่งที่ประทับ 300 บาท ซึ่งจะมีการออกบัตรมาจำหน่ายเพียงแค่ 30,000 ใบเท่านั้น แบ่งเป็น 100 บาท จำนวน 10,000 ใบ ส่วน 200 บาทจำนวน 12,000 ใบ และ 300 บาทอีกจำนวน 8,000 ใบ เพื่อป้องกันปัญหาคนล้นทะลักจนสนามแตก แต่วางกำหนดเปิดขายตั๋วล่วงหน้าเพียง 1 วัน คือ วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ เท่านั้น