ตั้งกองทุน " ตามน้องกลับบ้าน…" สานต่อแก้ปัญหา 'เด็กหาย'

เมื่อมีใครสักคนในครอบครัวหายตัวไป คงไม่แปลกที่ทุกคนในครอบครัวจะรู้สึกเดือดร้อน และพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อนำตัวคนหายกลับมา ยิ่งถ้าคนที่หายตัวไปนั้นเป็นลูกของเราด้วยแล้ว ความรู้สึกเป็นกังวล ห่วงใยในสวัสดิภาพของเด็กยิ่งเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า รวมถึงความคิดที่ว่า ตอนนี้เด็กจะเป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน อยู่กับใคร จะได้กินข้าวหรือยัง โดนใครหลอกไปทำอะไรที่เลวร้ายหรือไม่ หรือตอนนี้เด็กยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แม้จะเป็นเพียงความคิด แต่ก็ทำให้คนในครอบครัวแทบขาดใจตายตามเด็กที่หายตัวไปได้

กรณีของน้องหนึ่ง (นามสมมติ) หนูน้อยวัย 6 เดือน ซึ่งทางศูนย์ข้อมูลคนหายได้รับแจ้ง ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2549 ซึ่งศูนย์ข้อมูลคนหายได้มีการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่คนร้ายใช้โทรกลับมาหาครอบครัว รวมถึงการประสานงานไปยัง ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี (ศดส.) เพื่อทำการสืบสวนติดตาม โดยใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ ก็สามารถนำตัวเด็กกลับคืนสู่ครอบครัว และจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้

แต่ใครจะรู้ถึงความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่ต้องทนทรมานอยู่กับความทุกข์ใจในระหว่างที่ลูกหายตัวไป เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกของตนจะเป็นเช่นไร และตนจะมีโอกาสได้เห็นหน้าลูกอีกหรือไม่ ความคิดเพียงแค่นี้ก็ทำให้คนเป็นแม่คนหนึ่งแทบจะขาดใจตายเมื่อคิดว่าตนอาจจะไม่ได้มีโอกาสพบหน้าลูกอีก

หรือกรณีของ ด..พงษ์เพชร จีนสุกแสง หรือน้องลาภ เด็กน้อยวัย 9 ขวบ ที่หายออกจากบ้าน ในเขตพื้นที่กระทุ่มแบน หลังจากขออนุญาตผู้ปกครองออกไปเล่นกับเพื่อนตามปกติ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นน้องต่ออีกเลย จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลา 1 เดือนกว่าแล้วที่ยังไม่มีใครทราบข่าวคราวของน้องต่อ

ส่วนทางด้าน นางสุนิสา จีนสุกแสง มารดาของน้องลาภที่ถูกลักพาตัวไปกล่าวว่า ตอนนี้สวดมนต์ทุกคืน ภาวนาของให้ลูกกลับมาอย่างปลอดภัย ปกติทุกวันอยู่กับลูกชายคนนี้เพียงสองคน ตอนนี้ไม่มีน้องลาภอยู่แล้วต้องนอนร้องไห้คิดถึงน้องลาภทุกคืน อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยตามหาน้องลาภด้วย นางสุนิสา กล่าวทั้งน้ำตา

ตั้งแต่ต้นปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ทางศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ได้รับแจ้งเหตุกรณีเด็กหายตัวออกไปจากบ้าน ถึง 400 ราย มีสาเหตุการหายตัวไปของคนในสังคมในหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ศูนย์ข้อมูลคนหายฯ ได้จำแนกสาเหตุการหาย ออกเป็นประเภทต่างๆ ทั้งสิ้น10 ประเภท ดังต่อไปนี้ คือ ลักพาตัว , ล่อลวงเพื่อทางเพศ , ติดแชทไลน์ทางโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต , ติดเกมส์ , ล่อลวงเพื่อแรงงาน , โรคสมองเสื่อม , ชู้สาว , สมัครใจ , ขาดการติดต่อ และกรณีการหายตัวไปประเภทอื่นๆ

โครงการศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ได้เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.. 2546 โดยมีบทบาทสำคัญในการเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทยที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรับแจ้งเพื่อให้คำปรึกษา ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามและให้ความช่วยเหลือคนหายซึ่งมีสภาวะความเสี่ยงต่อสวัสดิภาพ และความปลอดภัย โดยที่ศูนย์ข้อมูลคนหาย จะเข้าไปมีบทบาทโดยตรงในการให้คำแนะนำ ประสานงานช่วยเหลือครอบครัวคนหายให้สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอันเป็นกลไกสำคัญในการติดตามและช่วยเหลือคนหายให้กลับคืนสู่ครอบครัวด้วยความปลอดภัย

จากการทำงานมาเป็นเวลา 4 ปีเต็ม ในช่วง 2 ปีแรก ทางศูนย์ข้อมูลคนหายได้รับทุนสนับสนุนการดำเนินงานจากมูลนิธิเอเชีย และสถานทูตอเมริกา ส่วนในช่วงเวลา 2 ปีหลัง จนถึงปัจจุบันทางศูนย์ข้อมูลคนหายไม่ได้รับการสนับสนุนการทำงานจากหน่วยงานใดเลยทั้งที่ขอบเขตทำงานยังคงครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศอยู่เช่นเดิม

จากปัญหาดังกล่าว ทำให้ทางศูนย์ข้อมูลคนหาย เกิดแนวคิดที่จะตั้ง " กองทุนตามน้องกลับบ้าน " ขึ้นมา เพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้ในการดำเนินการสนับสนุนภารกิจ ในการติดตามคนหาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสงเคราะห์และบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้เสียหาย รวมถึงการคุ้มครองผู้เสียหายในการดำเนินคดีอาญา ทางศูนย์ข้อมูลคนหาย จึงอยากให้คนในสังคมได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลคนหาย ในการช่วยเหลือและติดตามเด็กให้กลับคืนสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย และจากการช่วยเหลือและติดตามเด็กนั้น ทางศูนย์ข้อมูลคนหาย สามารถนำเด็กกลับคืนสู่ครอบครัวได้กว่า 227 ราย

เมื่อมีคนหายออกจากบ้าน คงไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า ทุกวินาทีที่คนหายได้หายตัวไปนั้น จะเกิดอะไรบ้าง และคงไม่มีใครรู้ว่า วันไหนหรือเวลาไหนที่ลูกหรือคนในครอบครัวของท่านจะหายตัวไป ฉะนั้น ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายควรเข้ามามีส่วนร่วมกันพาน้องกลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือได้ด้วยการบริจาคทุนทรัพย์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพาน้องกลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยการโอนเงินเข้าชื่อบัญชี "กองทุนตามน้องกลับบ้าน" ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเซ็นจูรี่ ประเภทบัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 208-202378-3 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-26427991-2

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท