Skip to main content
sharethis



การเมือง


 


ต่อตระกูลบอกเอง สุวรรณภูมิปลอดภัยไม่ต้องปิด


ผู้จัดการรายวัน : ผลตรวจสอบรันเวย์-แท็กซี่เวย์ชำรุด ไม่กระทบโครงสร้าง ปลอดภัยและไม่ต้องปิด นายต่อตระกูล ยมนาค กรรมการ ทอท.ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางตรวจสอบปัญหาการชำรุดบริเวณทางขับ (แท็กซี่เวย์) และทางวิ่ง (รันเวย์) ของสนามบินสุวรรณภูมิ เผยเหตุรันเวย์ แท็กซี่เวย์ชำรุดเพราะมีน้ำซึมเข้าอยู่ใต้พื้น ขณะที่ taxi lane เสียหายมากที่สุด เหตุไม่ออกแบบระบบระบบระบายน้ำ ต้องเร่งะบายน้ำออกโดยด่วน ซึ่งชัดเจนว่ามีมูลว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงานหรือผู้รับเหมา ทำให้ไม่สามารถไว้ใจทั้ง 3 ส่วน จึงเตรียมจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศตรวจสอบเชิงลึก พร้อมออกแบบเพื่อซ่อมแซมถาวร คาดซ่อมเบื้องต้นไม่เกิน 1 เดือน ระบุปัญหาอาคารผู้โดยสารไม่ปลอดภัยน่าห่วงกว่า


 


 


การบินไทยไม่ย้ายกลับดอนเมือง


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค : เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย ยอมรับว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงมากที่การบินไทยจะอยู่ให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยไม่ย้ายกลับไปที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ เพราะการบินไทยมีการลงทุนใน 6 กิจกรรมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปแล้วมูลค่าสูงถึง 16,000 ล้านบาท หากย้ายกลับมาที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือหากจะให้บริการควบคู่ทั้ง 2 ท่าอากาศยาน จะมีความยากลำบากในการบริหารและค่าใช้จ่ายที่จะสูงขึ้น ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้ท่าอากาศยานกรุงเทพเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ ก็มีโอกาสที่จะไม่เห็นการบินไทยกลับมาใช้ที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ ซึ่งจะแตกต่างจากนโยบายเดิมของคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่กำหนดให้ย้ายเฉพาะสายการบินเส้นทางภายในประเทศเท่านั้น


 


 


ราชนิกุลสอนมวยสุรยุทธ์-คมช.


ผู้จัดการรายวัน : กลุ่มสตรีผู้สูงศักดิ์และราชนิกุล นำโดย ม.ร.ว.รำพิอาภา เกษมศรี ประธานกลุ่มรักความจริงและความโปร่งใส ร่วมแถลงข่าวผลงานการบริหารงานของรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) หลังจากการยึดอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ระบุ รัฐบาลชุดปัจจุบันทำงานอย่างเชื่องช้า หน่อมแน้ม เหตุการณ์ลอบวางระเบิดหลายจุดใน กทม.เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2549 รัฐบาลและ คมช. ก็ยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ รวมทั้งปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัญหาข้าราชการใส่เกียร์ว่าง นอกจากนี้ ยังได้กล่าวประณามความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.?กษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าเป็นการแสดงออกถึงความไม่รักชาติ ไม่เคารพสถาบัน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเอาความผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตลอดจนให้รัฐบาลทำงานแก้ไขปัญหาเรื่องอื่นๆ และขอเรียกร้องต่อสื่อมวลชนด้วยว่า คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความสำคัญ ไม่มีค่า ไม่ควรนำมาเสนอข่าวหน้าหนึ่งบนหนังสือพิมพ์


 


 


คตส.เตรียมทุ่มงบฯ ซื้อเวลาออนแอร์พีอาร์ผลงาน


ผู้จัดการออนไลน์ : นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยว่า คตส. มีมติเห็นชอบในหลักการที่จะให้ซื้อเวลาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ เพื่อเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการทำงานของ คตส. เดือนละ 1 ครั้งๆ ละ 1 ชั่วโมง โดยใช้งบประมาณบางส่วนของ คตส. จากจำนวนที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลทั้งสิ้น 40 กว่าล้านบาท แต่รายละเอียดอยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานจะมีความชัดเจนมากขึ้น


 


 


"เสรีพิศุทธ์" ขีดเส้น 10 วัน ตร.โคราชล่ามือเผา


ผู้จัดการรายวัน :  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุเพลิงไหม้ อาคารเรียนของโรงเรียนรวมมิตรพัฒนา บ้านหนองช้างตาย ต.โนนเพ็ด อ.ประทาย จ.นครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ไปตรวจสอบและต้องให้ทราบผล หากเป็นเหตุลอบวางเพลิง ใครเป็นคนทำ มิเช่นนั้นจะต้องมีผู้รับผิดชอบ แต่ถ้าหากเป็นเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ก็จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่ามาจากสาเหตุดังกล่าวจริงๆ ไม่ใช่จับคนทำไม่ได้แล้วมาเหมาว่าเป็นไฟฟ้าลัดวงจร โดยได้ให้เวลา 10 วันในการทำงาน หากจับคนร้ายไม่ได้จะมีการลงโทษตั้งแต่ตัวเล็ก ตัวใหญ่ จนถึงผู้บังคับบัญชา แต่ถ้าหากเป็นเหตุไฟฟ้าลัดวงจรก็จะต้องให้เจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามายืนยันด้วยวิธีทางเทคนิค


 


 


 "นพดล" โวยแทน "ทักษิณ" คมช. ปิดกั้นการนำเสนอข่าว


เดลีนิวส์ : เมื่อวันที่ 12  ก.พ. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า ไม่กลัวคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งพูดมากเท่าไหร่ คมช.ยิ่งทำงานง่ายขึ้นเท่านั้น ว่า ขอขอบคุณที่ คมช.และรัฐบาล เข้าใจการให้สัมภาษณ์ ไม่หวาดระแวงอดีตนายกฯ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะทำตามที่บอกไว้ คือ ลดการให้สัมภาษณ์สื่อ โดยขณะนี้มีสื่อต่างๆ รอคิวให้สัมภาษณ์มากมาย ทั้งไฟแนนเชียล ไทมส์ เดลี่ เทเลกราฟ สเตรตส์ ไทมส์ นิวยอร์ก ไทมส์ และอีกหลายฉบับ แต่จะชะลอไว้ก่อนเพื่อความสมานฉันท์



อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราเป็นห่วง คือ การปิดกั้นการนำเสนอข่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตัวแทน พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำพรรคไทยรักไทยในประเทศ โดยเฉพาะสื่อวิทยุและโทรทัศน์ จึงอยากให้ คมช.ยกเลิกนโยบายนี้ โดยเปิดให้เสนอข่าวของทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน เพราะ คมช.เป็นคนบอกเองว่าประชาชนมีวิจารณญาณตัดสินข้อมูลข่าวสารต่างๆ อยู่แล้ว การเปิดโอกาสให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารทุกด้าน จะเป็นผลดีต่อบรรยากาศสมานฉันท์



 


เสนอโอน ตม.และ สคบ. มาไว้กับกระทรวงยุติธรรม


กรมประชาสัมพันธ์ : นายชาญชัย  ลิขิตจิตถะ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังประชุมปรับโครงสร้างกระทรวงยุติธรรมว่า ที่ประชุมมีความเห็นให้โอนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มาเป็นกรมหนึ่งของกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากรัฐบาลมีแนวคิดว่า ไม่ควรมีหน่วยงานที่เป็นหน่วยปฏิบัติ อยู่ภายใต้สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนสำนักข่าวกรองแห่งชาติที่ถือเป็นหน่วยปฏิบัติที่อยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี นั้นยังไม่มีการหารือว่าจะรับโอนมาสังกัดหน่วยงานใดหรือไม่ อย่างไรก็ตามจะต้องประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความรอบคอบที่สุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวอีกว่า การปรับโครงสร้างตำรวจขณะนี้ก็เช่นกัน  ที่มีการพิจารณาว่าหากหน่วยงานใดไม่ใช่งานหลักของตำรวจก็อาจโอนย้ายไปยังหน่วยงานอื่น



 


ประธาน คมช.ยอมรับ ยังไม่สามารถยกเลิกประกาศ คปค.ฉ.ที่ 15- 27 ได้เนื่องจากเกรงมีผลกระทบต่อการร่างรัฐธรรมนูญ


กรมประชาสัมพันธ์ :  พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.กล่าวว่า กรณีพรรคการเมืองใดมีความจำเป็นในการดำเนินการในส่วนของพรรคเพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้งที่จะขึ้นภายหลังได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้มาประสานกับทาง คมช.ได้เป็นรายๆไป ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยปฏิเสธคำขอ สำหรับเหตุผลที่ยังไม่สามารถทำการยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ ประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 และ 27 ซึ่งเกี่ยวกับการห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้นั้น เพราะต้องหารือในปัญหาที่กว้างไกลกว่าปกติ และส่วนหนึ่งยอมรับว่า เนื่องจากยังเกรงว่า อาจจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้ง ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการในขณะนี้



 


สนช. เสนอรณรงค์การเลือกตั้งเพื่อชาติ


กระแสหุ้นออนไลน์ : นายประพันธ์  คูณมี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ในฐานะรองประธานคณะปฏิรูปการเมืองสนช. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤตและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ที่มีนายธีรภัทร์  เสรีรังสรรค์ เป็นประธานว่าได้เสนอในที่ประชุมให้มีการเตรียมแผนรณรงค์การเลือกตั้งเพื่อชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยมีการทำงานร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รัฐบาล สนช. และถือเป็นโอกาสครบ 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ที่ทุกฝ่ายจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินงานปฏิรูปการเมือง เพื่อให้ได้มาซึ่งนักการเมืองที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ใช่การทำเพื่อสืบทอดอำนาจ เนื่องจากเรื่องนี้รัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนอยู่แล้ว แต่เป็นการเตรียมเพื่อการเลือกตั้งเท่านั้น เพื่อความพร้อมของประชาชน


 


 


อัยการฟ้องแล้วม็อบเชียร์ทักษิณตื้บม็อบต้าน


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น : นายกิตติศักดิ์ กิติศมานนท์ อัยการพิเศษฝ่ายอัยการศาลแขวงปทุมวัน ได้นัด นายชัยสิทธิ์ ลอมะ อายุ 42 ปี นายสุเมธ บุญยะรัตพันธ์ อายุ 54 ปี และนายสุขสันต์ แก้วกลาง อายุ 27 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ประชาชนที่มาชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์ ถ.ราชดำริ เมื่อวันที่ 21 ส.ค.49 มาฟังการสั่งคดี โดยอัยการพิจารณาพยานหลักฐานและสำนวนคดีแล้วมีความเห็นให้สั่งฟ้องนายชัยสิทธิ์ และ นายสุเมธ รวม 2 ข้อหาคือทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ และข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง ผู้อื่ให้ปราศจากเสรีภาพโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนนายสุขสันต์ อัยการสั่งฟ้องในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้ อื่นเพียงข้อหาเดียว จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลแขวงปทุมวัน


 


โดยศาลได้สอบคำให้นายชัยสิทธิ์ นายสุเมธ และนายสุขสันต์ ว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่าจำเลยทั้งหมดแถลงให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี ศาลจึงนัดแถลงเปิดคดีในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น. อย่างไรก็ตามศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้งหมดโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์คำ ประกัน เนื่องจากจำเลยได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเองตั้งแต่ต้น


 


 



ความมั่นคง สถานการณ์ภาคใต้


 


ไทย-มาเลย์สัญญาร่วมมือแก้สามจังหวัดใต้


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีเปิดเผยผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีอับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี ของมาเลเซียว่าไทยและมาเลเซียจะร่วมมือช่วยรักษาเสถียรภาพในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยจะมอบหมายให้รัฐมนตรีทั้งสองประเทศที่เกี่ยวกับรักษาความปลอดภัยได้มีการหารือกันอย่างใกล้ชิดและสามารถนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อขอรับการตัดสินใจต่อไป


 


 



เศรษฐกิจ


 


ตั้งแท่นหม่อมอุ๋ย อนุมัติเบี้ยกุดชุม


เดลินิวส์ : รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้รับหนังสือตอบรับจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการตีความเรื่องการใช้เบี้ยกุดชุมในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการแทนเงินตราเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เสนอให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอให้สนับสนุนการใช้เบี้ยกุดชุมในหมู่บ้านท่าลาด, โสกขุมปูน, สันติสุข, กุดหิน อำเภอกุดชุม และหมู่บ้านโคกกลาง อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร เพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในชุมชน อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผลการตีความของกฤษฎีกา ทั้งนี้ความเห็นของ ธปท. ยังเป็นห่วงว่า พ.ร.บ.เงินตรา มีเจตนารมณ์ให้มีระบบเงินตราของรัฐบาลเป็นระบบหลักเพียงระบบเดียว หากยินยอมให้มีการอ้างเจตนาว่า ไม่ได้มุ่งประสงค์นำออกใช้แทนเงินบาทเพราะใช้เพียงระหว่างสมาชิกแล้ว ในอนาคตถ้ามีรายอื่นออกใช้วัตถุใดแทนเงินบาทในทำนองเดียวกันและมีการใช้ในเขตพื้นที่กว้างขึ้น รัฐจะไม่สามารถควบคุมดูแลได้ ธปท.จึงได้เสนอให้ รมว.คลัง พิจารณาอนุญาตให้ใช้เบี้ยกุดชุมแทนเงินบาทได้โดยมีขอบเขตและเงื่อนไขหลายข้อ เช่น ให้ใช้เบี้ยกุดชุมได้เฉพาะภายใน 5 หมู่บ้าน, ต้องมีข้อความปรากฏบนเบี้ยกุดชุมให้ชัดเจนว่า มิใช่เงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย,ปริมาณเบี้ยที่จะออกใช้ และจำนวนสูงสุดที่จะออกให้แก่สมาชิกแต่ละราย


 


 



การศึกษา คุณภาพชีวิต


 


ยูเอ็นเอดส์ชมรัฐบาลไทยประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร


ผู้จัดการออนไลน์ : นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า นพ.ปีเตอร์ ปีออต (Dr.Peter Piot) ผู้อำนวยการโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) ส่งหนังสือจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวชื่นชมความพยายามของ นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลไทย ที่ได้ประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร ในมาตรการที่จะนำเข้ายาสามัญชื่อ เอฟฟาไวเรนซ์ (Efavirenz) ที่มีราคาจำหน่ายในประเทศไทยแพงกว่าประเทศอื่น เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยเอดส์ในกลุ่มที่ดื้อยาสูตรพื้นฐาน ซึ่งยาดังกล่าวเป็นยาที่มีคุณภาพดี ผลข้างเคียงน้อย เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2549 รวมทั้งการให้โรงงานในไทยผลิตยาสามัญ ระหว่างการนำเข้ายาดังกล่าวจนกว่าไทยจะผลิตยาได้เอง ทั้งหมดนี้ นพ.ปีเตอร์ ปีออต กล่าวว่า เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วน และต่อเนื่อง ในการลดต้นทุนการให้ยาต้านไวรัสเอดส์ในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาได้ และมีความยั่งยืน


 


 


สปสช.ทุ่มงบเฉียด 20 ล้าน ตั้งกองทุนเยียวยาแพทย์-พยาบาล


ผู้จัดการออนไลน์ : มติบอร์ด สปสช.เห็นชอบจัดสรรเงินเกือบ 20 ล้านบาท ตั้งกองทุนเยียวยาแพทย์-พยาบาล ที่ได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติงาน ชดเชยสูงสุดไม่เกิน 2 แสนบาท ยกเว้นพื้นที่เสี่ยงภัยอาจได้สูงถึง 4 แสนบาท เริ่มดำเนินการ 1 มี.ค.นี้ "หมอมงคล" เผย ระบบหลักประกันสุขภาพให้การเยียวยาทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งแพทย์-ผู้ป่วย และสร้างขวัญกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติงานให้เจ้าหน้าที่


 


 


เผยวัยรุ่นไทยกว่า 90,000 คน ติดเชื้อเอดส์แล้ว


ผู้จัดการออนไลน์ :  กรมควบคุมโรค นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผลการสำรวจล่าสุดปี 2549 ในเด็กนักเรียนระดับ ปวช.20 จังหวัด พบเยาวชนชาย ร้อยละ 36 และหญิงร้อยละ 28 เคยมีเพศสัมพันธ์อายุเฉลี่ยครั้งแรก 15 ปี และใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 35 ซึ่งถือว่าต่ำมาก ทำให้วัยรุ่นไทยติดเชื้อเอดส์แล้วกว่า 9 หมื่นคน และมีแนวโน้มจะติดเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้พบอีกว่า วัยรุ่นทั้งชายและหญิง อายุระหว่าง 10-24 ปี เป็นกลุ่มที่มีอัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 31.5 ในปี 2545 เป็นร้อยละ 42.5 ในปี 2549 คิดเป็นจำนวนผู้ป่วยเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรที่ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด


 


 


มหันตภัยกุหลาบ แค่ดมอาจถึงตาย


เว็บไซต์คมชัดลึก : สำนักข่าวเอพี รายงานเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ว่า ในวันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ คนส่วนใหญ่อาจคาดไม่ถึงเวลาซื้อดอกกุหลาบให้คนรัก เพราะกุหลาบเหล่านี้จะถูกฉีดด้วยสเปรย์ ถูกจุ่ม หรือฉีดพ่นด้วยสารเคมีที่อาจทำให้ผู้รับเสียชีวิตได้ รายงานข่าวแจ้งว่า กุหลาบมรณะเคลือบสารพิษเหล่านี้ ส่วนใหญ่มาจากแถบซาวันนา แปลงดอกไม้ที่อยู่รายรอบกรุงโบโกตา ประเทศโคลัมเบีย ซึ่งมีอุตสาหกรรมดอกไม้ตัดดอกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากเนเธอร์แลนด์แดนทิวลิป โดยโคลัมเบียผลิตดอกไม้ได้มากถึง 62% ของดอกไม้ตัดดอกที่ขายอยู่ในสหรัฐ


 


อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมดอกไม้ซึ่งสร้างรายได้จากการส่งออกให้โคลัมเบียมหาศาลถึงปีละ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น เกิดขึ้นบนสุขภาพที่ย่ำแย่ของคนงาน ส่วนใหญ่เป็นแม่ที่เลี้ยงลูกคนเดียว และสภาพแวดล้อมของประเทศ เพราะมีการใช้ยาฆ่าแมลงในระดับที่สูงมากถึงขั้นอันตรายตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (ฮู) เพราะรัฐบาลโคลัมเบียไม่ได้ออกกฎหมายควบคุมการใช้ยาฆ่าแมลงในเรือนกระจกที่ปลูกดอกไม้ ทำให้ระดับการใช้สารพิษมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น



 


ผู้บริหาร มธ.เรียกพบ "เอมี่" ถามเหตุหวิว


ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวให้ความคิดเห็นกรณีเอมี่ว่า น.ส.โชติรส เป็นนักศึกษา มธ.คณะศิลปศาสตร์ ปีที่ 4 ซึ่งโดยหลักการของ มธ.ถือว่า นักศึกษาทุกคนเป็นผู้ใหญ่เพียงพอที่จะรับผิดชอบต่อตัวเอง แต่ส่วนหนึ่งในความเป็นนักศึกษาต้องรับผิดชอบต่อมหาวิทยาลัยและสังคมด้วย ดังนั้นหากสังคมรู้สึกว่า เรื่องนี้เสื่อมเสียคิดว่าคงต้องเข้าไปดูเป็นกรณี ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี ฝ่ายการศึกษาไปเชิญ น.ส.โชติรส มาพบเพื่อถามถึงเหตุผลของการแต่งตัวดังกล่าว


 


"เราอาจจะต้องตักเตือน แต่คงยังไม่ถึงลงโทษทัณฑ์บน หรือพักการเรียน คงต้องให้รองอธิการบดีเป็นผู้เจรจาและดูความเหมาะสมจากคำอธิบายของนักศึกษาด้วย แต่ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสถาบัน แม้ว่าเมื่ออยู่มหาวิทยาลัยนักศึกษาคนนี้ก็แต่งตัวเรียบร้อย และผลการเรียนดีก็ตาม" ศ.ดร.สุรพล กล่าว


 


ด้านนายปริญญากล่าวว่า การแต่งกายเป็นเรื่องของวินัยนักศึกษา ซึ่งจากข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่เห็นในรูปได้เห็นตรงกันกับอธิการบดีว่า น่าจะตักเตือน ส่วนจะดำเนินการทางวินัยในเชิงข้อเท็จจริงคงไม่ถึงขั้นพักการเรียน หรือไม่ให้รับพระราชทานปริญญาบัตร อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเห็นว่า การแต่งตัวแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่พึงกระทำ เพราะมันโป๊ มีการเปิดเผยเนื้อตัวมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาของธรรมศาสตร์ หรือมหาวิทยาลัยไหนก็ไม่สมควรทำ


 


ขณะที่ รศ.ดร.สิทธิโชค วรานุสันติกุล คณบดีคณะศิลปศาสตร์ มธ. กล่าวว่า ไม่ว่าเรื่องการรับงานหรือการแต่งกายของ น.ส.โชติรส คงไม่มีผลกระทบต่อการเรียน และมหาวิทยาลัยคงไม่มีมาตรการลงโทษใดๆ อย่างที่มีข่าวลือออกมา แต่เรียนตามตรงว่าไม่ค่อยสบายใจ ทั้งนี้ในที่ประชุมผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวบ้างเล็กน้อย เพราะมีความเป็นห่วงกับข่าวที่ปรากฏ แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการลงโทษหรือตัดสิทธิเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เนื่องจากนักศึกษาเพิ่งเก็บหน่วยกิตได้ 115 หน่วย จากทั้งหมด 140 หน่วยกิต ดังนั้นนักศึกษาคงยังไม่จบในปีการศึกษานี้แน่ และในวันที่ 13 กุมภาพันธ์คงจะเรียกนักศึกษาเข้าพบ เพื่อพูดคุยตักเตือน



ด้าน น.ส.โชติรส กล่าวในเรื่องดังกล่าวว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่ได้ตัดสิทธิห้ามรับพระราชทานปริญญาบัตรแต่อย่างใด


 


"อาจารย์ยังบอกเลยว่าถ้าไม่สบายใจ ไม่มีอารมณ์จะเรียนก็ไม่ต้องเข้าเรียนก็ได้ ฉะนั้นไม่มีทางที่มหาวิทยาลัยจะซีเรียสกับเรื่องนี้เลย เขาก็ไม่ได้เรียกเอมี่ไปเตือนด้วย แต่เอมี่ก็ชี้แจงให้ฟัง ซึ่งเขาก็เข้าใจเรา ฉะนั้นในเดือนกรกฎาคมนี้ เอมี่ก็ยังรับปริญญาเหมือนเดิม" ดาราสาวกล่าว


 



 



ต่างประเทศ


 


ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดต่อเนื่องครั้งล่าสุดในอิรักอาจสูงถึง 59 คน


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค : เหตุระเบิดต่อเนื่องใจกลางกรุงแบกแดดของอิรัก เมื่อเวลาประมาณ 12 นาฬิกา ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 17.00 น. ตามเวลาในไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 59  คนและผู้ได้รับบาดเจ็บอาจสูงถึง 150 คน


 


 


เหยื่อหวัดนกอินโด เพิ่มเป็นรายที่ '64'


เดลินิวส์ :  เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในเมืองการัต บนเกาะชวาตะวันตกของอินโดนีเซียกล่าวว่า หญิงสาววัย 20 ปีรายหนึ่งที่ประกาศเมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ว่า ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดนกนั้น ปรากฏว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา นับเป็นเหยื่อโรคไข้หวัดนกรายที่ 64 ของอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่บอกว่า หญิงสาวดังกล่าว เคยสัมผัสกับไก่ป่วยมาก่อนที่จะเสียชีวิต และยังมีเพื่อนบ้านหญิงอีก 2 คน ที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพราะมีอาการป่วยเหมือนกัน


 


 


นายกฯโปรตุเกส ยืนยันผลักดันการทำแท้งเป็นสิ่งที่ถูกกฏหมาย


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค : ปัญหาการทำแท้งในโปรตุเกสที่ได้มีการลงประชามติไปเมื่อวานนี้ ซึ่งปรากฏว่า แม้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธ์เพียงร้อยละ 40 แต่ในจำนวนนี้มีถึงร้อยละ 53 ที่เห็นว่า การทำแท้งของสตรีทีมีอายุครรภ์ไม่เกิน 10 สัปดาห์ ควรเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมาย นายกรัฐมนตรี โฆเซ่ โซคราเตส ของโปรตุเกสได้กล่าวว่า ขณะนี้ ประเด็นดังกล่าวจะต้องได้รับการพิจารณาและผ่านการรับรองโดยรัฐสภาเพื่อกำจัดการลักลอบทำแท้งให้หมดไปและเป็นการเคารพต่อผลประชามติ


 


 


ฟิลิปปินส์ พร้อมร่วมมือกับผู้แทนพิเศษยูเอ็น ในการสอบสวนคดีฆาตกรรมนักการเมือง


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค : นายอิกนาซิโอ บุนเย โฆษกประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ผู้นำฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ ยินดีต้อนรับและให้ความร่วมมือกับคณะของนายฟิลิป อัลส์ตัน ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติ ในกิจการยุติธรรมที่เดินทางถึงกรุงมะนิลา เพื่อเริ่มการสอบสวนคดีฆาตกรรมนักการเมืองในฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ จากข้อมูลของผู้สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนฟิลิปปินส์ ระบุว่า นักการเมือง เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชน เจ้าหน้าที่สหภาพแรงงาน และผู้พิพากษาในฟิลิปปินส์ ถูกฆาตกรรมไปมากกว่า 830 คน นับตั้งแต่นางอาร์โรโย ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเมื่อปี 2544


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net