ประชาไท - 19 ก.พ.2550 ตามที่กลุ่มนักศึกษาโปรแกรมวิชาเอกชาติพันธุ์ศึกษาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ชั้นปีที่ 1 รุ่นที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2549 สถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย จำนวน 15 คน เข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติถึงพฤติกรรมของนาย
ความคืบหน้าล่าสุด นักศึกษาโปรแกรมวิชาสหวิทยาการบริหารท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ได้ทำหนังสือลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 เสนอไปยัง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เรื่อง การดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับสถาบันชาติพันธุ์ศึกษา โดยเนื้อหาในหนังสืออ้างว่า ได้เกิดปัญหาขึ้นในสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษาจริงและไม่ได้รับการเยียวยาแก้ไข ทั้งที่ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากผู้บริหารภายในสถาบันฯ มีความไม่โปร่งใสในการบริหารงบประมาณ
หนังสือยังระบุว่าแม้นักศึกษาโปรแกรมวิชาสหวิทยาการบริหารท้องถิ่น จะได้มีความพยายามเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ เพื่อที่จะสะท้อนปัญหาไปถึงผู้บริหารในมหาวิทยาลัยฯ แต่ทางสถาบันฯ ก็ได้พยายามกีดกัน และขัดขวางการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด
เช่น เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2549 ได้มีการเปิดเวทีเสวนาในเรื่องมาตรฐานการจัดการศึกษา โดยมีผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิชาการ และผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ เข้าร่วมเวทีเสวนาด้วย ซึ่งในครั้งนั้นได้มีการถกถึงปัญหาการบริหารงานของสถาบันฯ ที่เกี่ยวเนื่องกับความโปร่งใส ซึ่งกระทบกับคุณภาพ และการเรียนการสอนของนักศึกษาสหวิทยาการบริหารท้องถิ่นด้วย
ซึ่งได้มีการเสนอขอเข้ามามีส่วนร่วมตรวจสอบการทำงานของสถาบันฯ โดยอาจารย์ผู้สอน และนักศึกษา ซึ่งผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิชาการ ได้ให้สถาบันฯ สรุปประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ได้จากเวทีเสวนาในครั้งนั้น นำเสนอมหาวิทยาลัยได้รับทราบและดำเนินการต่อไป แต่ทางสถาบันฯ ก็ไม่ได้นำเสนอในเรื่องนี้ทั้งหมดต่อมหาวิทยาลัย แต่อย่างใด แต่กลับใช้ความพยายามปลดอาจารย์ผู้สอนที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องขอร่วมตรวจสอบให้พ้นไปจากสถาบันฯ หนังสือดังกล่าวระบุ
ในนามของนักศึกษาสหวิทยาการบริหารท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันชาติพันธุ์ศึกษา รู้สึกเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้ เรื่องนี้ได้ขยายวงกว้างและลุกลามออกไปสู่สังคมภายนอกตลอดรวมถึงปัญหาเรื่องส่วนตัวของผู้อำนวยการฯ ที่ถูกขุดคุ้ย
นักศึกษาโปรแกรมสหวิทยาการบริหารท้องถิ่น ทั้ง 3 รุ่น ขอเรียกร้องให้อธิการบดี ดำเนินการสอบสวนและสรุปข้อเท็จจริงโดยเร็ว หากพบมีผู้กระทำผิดจริงก็ควรลงโทษ เพื่อจักได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างและจะได้ไม่ถูกกล่าวหาว่าปกป้องคนผิด หากผอ.สถาบันฯ ไม่ผิด ก็จะได้ประกาศแจ้งให้สาธารณะชนได้รับทราบ และเร่งดำเนินการเรียกศรัทธากลับคืนมาสู่สถาบันการศึกษาแห่งนี้โดยเร็ว โดยขอให้ดำเนินการก่อนการเปิดภาคเรียนที่ 3 / 2549 "เพื่อเป็นการรักษาชื่อเสียงของสถาบันฯ ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย และชื่อเสียงของนักศึกษาสหวิทยาการบริหารท้องถิ่น ซึ่งล้วนเป็นผู้นำที่เป็นที่รู้จักและนับถือของประชาชนในพื้นที่ ไม่ให้ตกต่ำไปมากกว่านี้" หนังสือดังกล่าวระบุ
โดยตอนท้ายของหนังสือดังกล่าว มีรายชื่อของนักศึกษา 31 รายชื่อที่รวมลงนามในหนังสือได้แก่ นาย
นาย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)