Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 28 ก.พ. 50 นายจาตุรนต์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เปิดแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่ คมช.พิจารณาการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายจาตุรนต์ เห็นว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดคำสั่ง คปค.ฉบับที่15และ27 ที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินการประชุม หรือดำเนินกิจกรรมใดๆ ทางการเมือง และมีมติจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย


 


เขากล่าวว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ คงไม่ถูกมองว่าเป็นกิจกรรมทางการเมือง โดยการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งยืนยันว่าจะใช้ 20 นโยบายของพรรคที่ได้ดำเนินการจนประสบความสำเร็จ และจะดำเนินการต่อไปหากมีการผ่อนผันประกาศ คปค.ทั้ง 2 ฉบับแล้วนั้น ก็จะปรับปรุงนโยบายพรรคเพิ่มเติม แต่บางฝ่ายตกใจและวิจารณ์อย่างเข้มข้นว่า ไม่สมควรที่ประกาศนโยบายพรรคในช่วงนี้ เพราะตอนนี้ คตส.ยังตรวจสอบบางโครงการอยู่ และบางฝ่ายบอกว่า ตนไม่สมควรรักษาพรรคนี้ ควรไปต่อสูที่สนามหลวงแทน


 


เขากล่าวว่า เป็นการเข้าใจผิดอย่างมาก ที่ผ่านมาพรรคโดนมรสุมทางการเมือง และโดนดิสเครดิต นโยบายพรรคหลายโครงการก็ถูกรัฐบาลเปลี่ยนชื่อ ทำให้พรรคต้องยืนยันว่า นโยบายพรรคจะดำเนินการต่อไป ทำไมพรรคต้องไม่มีสิทธิเสนอนโยบาย และทำไมอ้างว่าประชาชนไม่ยอมรับ เรื่องนี้ต้องสอบถามประชาชนส่วนใหญ่ด้วย หากมองย้อนหลังไปก่อนวันที่ 19 ก.ย.หลายฝ่ายวิจารณ์ว่า นโยบายรัฐบาลไทยรักไทยไม่ดี จะปล่อยให้บริหารประเทศต่อไปไม่ได้ พรรคก็บอกว่า ควรให้ประชาชนตัดสินในการเลือกตั้ง


 


แม้จะมีการอ้างว่า พรรคกุมกลไกการเลือกตั้งไว้หมด และอาจทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ วันนี้ขอให้สังคมตั้งสติกันใหม่ พรรคนำเสนอนโยบายก่อนลงสนามเลือกตั้ง พรรคจะครอบงำประชาชนให้เกิดประโยชน์กับพรรคได้อีกหรือไม่ เพราะกติกาต่างๆ เกิดขึ้นจากการแต่งตั้งของ คมช. กลไกของรัฐก็ถูกควบคุมโดยรัฐบาลและ คมช. เมื่อเป็นแบบนี้จะอ้างว่าพรรคครอบงำไม่ได้ ทำไมไม่ให้เรามีสิทธิเสนอนโยบายที่เราคิดว่าดี และปล่อยให้ประชาชนตัดสินว่า ต้องการนโยบายของพรรคใดไปบริหารประเทศ


 


พรรคพร้อมรับฟัง เราไม่ขออะไรมากมาย ขอเพียงให้มีการเลือกตั้งตามกติกาที่ท่านกำหนด หากจะให้เรียกร้องในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น ขอเพียงว่าอย่าให้เกิดความอยุติธรรมกับพรรคก็พอ


 


เขากล่าวว่า คิดว่าพรรคมีนโยบายดี ประชาชนยอมรับ เขาจึงร่วมกับแกนนำพรรคในการสร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ไม่ได้รังเกียจการชุมนุมและเดินขบวน แต่ในวันนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะดำเนินการแบบนั้น ขอต่อสู้ตามระบบ ไม่ต้องการการเผชิญหน้าที่นำไปสู่ความขัดแย้ง และขอย้ำว่าจุดยืนของเขายังคิดและเป็นแบบนี้ตลอดไป ซึ่ง คมช.และครม.ไม่มีอำนาจหน้าที่ออกมติห้ามไม่ให้ตนไปต่างจังหวัด


 


"ขอยืนยันว่า สิ่งที่ผมและสมาชิกพรรคดำเนินการมาตลอด ตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.จนถึงปัจจุบัน ไม่มีการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหมายและประกาศ คปค.ทั้ง 2 ฉบับ ผมไม่ได้ต้องการกระทำสิ่งผิดกฎหมาย หากย้อนกลับไปดูภารกิจของตนในวันที่ 18-19 ก.พ.นั้น จะเห็นว่าผมไปเยี่ยมประชาชนตามคำเชิญ เช่น เชิญไปเยี่ยมชมการทำสวนสมุนไพร ปุ๋ยอินทรีย์ ไปบรรยายพิเศษตามคำเชิญของโรงเรียน ไปรับประทานอาหารเช้าในตลาด ไปเยี่ยมบ้านอดีต ส.ส. การเดินทางในครั้งนั้นประชาชนก็เข้ามาทักทาย ผมก็ต้องทักทาย เพราะเป็นสิ่งที่คนไทยคนหนึ่งพึงมีสิทธิเสรีภาพตามมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญ 2549"


 


"คมช.ไม่ใช่ผู้มีอำนาจให้อนุญาตบุคคลไปต่างจังหวัดได้หรือไม่ และมันไม่ใช่เรื่องต้องขออนุญาต ไม่มีกฎหมายใดเขียนไว้ว่า นักการเมืองต้องขออนุญาต คมช.ในการไปต่างจังหวัดเสียก่อน ยกเว้นแต่การเดินทางไปต่างประเทศที่ประกาศไว้ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่สมควรต้องเขียนไว้ คมช.มีอำนาจเพียงว่า หากจะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่สำคัญๆ นั้น ต้องเสนอให้ คมช.และครม.มีมติครม.แก้ไขประกาศ คปค.2ฉบับเสียก่อนซึ่งเรื่องนี้พรรคได้ส่งหนังสือไปหลายครั้งแล้วว่าควรแก้ไขโดยเร็ว"นายจาตุรนต์ กล่าว


 


นายจาตุรนต์กล่าวว่า การที่ คมช.ระบุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินคดีกับเขานั้น เป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะเป็นการดำเนินการกับเขาและพรรคไทยรักไทยเท่านั้น ทั้งๆ ที่กลุ่มต่างๆ และนักการเมืองส่วนใหญ่ก็ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เขาไม่ได้ตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ไปจัดการกับคนอื่น เขาตั้งคำถามว่า ทำไมมาจัดการกับเขาเพียงคนเดียว เป็นการเรียกร้องว่าไม่ควรดำเนินการแบบนี้กับพรรคหรือบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น ควรปล่อยให้พรรคการเมืองจัดกิจกรรมทางการเมืองมากๆ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า มติ คมช.ในครั้งนี้ เป็นการลุแก่อำนาจหรือไม่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า เป็นคำถามที่แรงไป วันนี้ยังต้องการสมานฉันท์กับ คมช. เราต้องเห็นใจ คมช.ที่ถูกวิจารณ์ว่าทำอะไรไม่ได้ บังคับใช้กฎหมายไม่ได้ แต่เขาคิดว่ามีเรื่องอื่นๆ ในบ้านเมืองอีกเยอะที่ต้องกระทำ แต่กลับไม่กระทำ กลับมาดำเนินการและใช้อำนาจผิดเรื่อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net