ชาวบ้านปางโม่ขอดูแลผืนป่าต้นน้ำปิง หลัง อ.อ.ป.โค่นไม้สักไปแล้ว 4,813 ต้น

 

 

ประชาไท - 2 มี.ค. 2550 ตามที่ เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ตัวแทนชาวบ้านปางโม่ หมู่ที่ 8 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้ไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายกองเอกวิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ มารับหนังสือพร้อมรับฟังข้อร้องเรียน กรณีการสัมปทานตัดไม้สักขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ในพื้นที่บ้านปางโม่ ไปกว่า 4,000 ต้น นั้น

 

ล่าสุด มีรายงานว่านายชนะชัย เศรษฐพัฒน์ นายอำเภอเชียงดาว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ชม.5 (ปิงโค้ง) และเจ้าหน้าที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ได้เดินทางลงไปในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งตัวแทน อ.อ.ป.ได้รายงานว่า ได้ทำการตัดไม้สักไปทั้งหมด 4,813 ต้น และได้ทำการชักลากไปรวมไว้บริเวณที่พักไม้บ้านปางโม่ เพื่อรอการประมูลจำหน่าย และหลังจากนั้นจะเข้าไปดำเนินการปลูกป่าเสริมบริเวณดังกล่าวต่อไป ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก

 

นายประสิทธิ์ กันทาซาว สมาชิก อบต.ปิงโค้ง ตัวแทนชาวบ้านปางโม่ กล่าวว่า เมื่อเหตุการณ์มาถึงตอนนี้ ทาง อ.อ.ป.ได้ตัดไม้สักไปแล้วถึงกว่า 4,000 ต้นแล้ว ทางชาวบ้านก็อยากจะขอให้ อ.อ.ป.ยุติการดำเนินการทั้งหมด ขอให้ออกไปจากพื้นที่บ้านปางโม่ โดยไม่ต้องอ้างว่าจะมาทำการปลูกป่าเสริมอีก แต่อยากขอให้โอนความรับผิดชอบกลับคืนให้กรมป่าไม้เหมือนเดิม และชาวบ้านขอเข้าไปมีส่วนร่วมปลูกป่าดูแลป่ากันเอง

 

"จากการลงพื้นที่ของทางอำเภอและหน่วยงานต่างๆ ในครั้งนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งชาวบ้านต้องการให้ อ.อ.ป.คืนพื้นที่ป่า แล้วให้ชุมชนหรือ อบต.ปิงโค้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โครงการจัดการลุ่มน้ำปิง เข้าไปมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูสภาพป่า ปลูกป่า และดูแลป่าผืนนี้ เพราะถ้ายังให้ อ.อ.ป.เข้ามาปลูกป่า พอต้นไม้อายุได้ 9-10 ปี ก็เข้ามาตัดโค่นอีกเหมือนเดิม ซึ่งมันไม่ผลดีต่อชาวบ้าน แต่กลับจะกระทบปัญหาความแห้งแล้งต่อชุมชนในอนาคตมากกว่า"

 

นายประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ชาวบ้านปางโม่และหมู่บ้านใกล้เคียงได้มีมติร่วมกันว่า จะรักษาป่าบริเวณดังกล่าวนี้ไว้ และให้ชาวบ้านร่วมกันดูแลรักษาป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่ราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น มีการจัดทำป่าชุมชน มีการกำหนดขอบเขตที่ชัดเจน มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล มีกฎระเบียบที่ว่าด้วยเรื่องการดูแล รักษา ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากป่าในลักษณะที่ไม่ก่อให้เกิดการทำลาย ทั้งนี้เพื่อให้ผืนป่าเป็นแหล่งอาหาร สมุนไพร ไม้ใช้สอยของชุมชน และให้คงสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ต่อไป

 

นางสายสุนีย์ ชัยชนะ ชาวบ้านปางโม่ กล่าวว่า จริงๆ แล้วป่าผืนนี้ ชาวบ้านได้ช่วยกันดูแลกันมานาน หลังจากที่เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ซึ่งต้นสักที่ปลูกเริ่มเจริญเติบโต เพราะชาวบ้านช่วยกันดูแลรักษาทำให้สภาพป่านั้นอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตอาหารจากป่า โดยเฉพาะเห็ดชนิดต่าง ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จนสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านปางโม่

 

"แต่จู่ๆ อ.อ.ป.ก็เข้ามาตัดโค่นจนเตียน ซึ่งนอกจากกระทบต่อวิถีชีวิตชาวบ้านแล้ว ยังจะทำให้น้ำในลำห้วยแห้งขอดในอนาคตได้ ที่สำคัญลำห้วยสายนี้เป็นลำห้วยสาขาลงสู่แม่น้ำปิง ซึ่งไม่ใช่จะกระทบต่อชาวบ้านปางโม่เท่านั้น แต่จะกระทบถึงคนที่อยู่ทางลุ่มน้ำปิงทั้งหมดด้วย ดังนั้น ชาวบ้านขอให้ อ.อ.ป.ออกไปจากพื้นที่ปางโม่ และคืนผืนป่าให้ป่าไม้และชาวบ้านร่วมกันดูแลดีกว่า"

 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากในพื้นที่ว่า ทางเจ้าหน้าที่ อ.อ.ป.ยังได้ออกมาข่มขู่ชาวบ้านอีกว่า มีชาวบ้านหลายรายที่เข้าไปทำสวนทำไร่ในพื้นที่สวนป่า ซึ่งหากยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว จะแจ้งความให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการในข้อหาบุกรุก ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก

 

นายประสิทธิ์ กล่าวในกรณีที่มีการข่มขู่ชาวบ้านว่า จริงๆ ชาวบ้านปางโม่เพียง 7-8 ครอบครัว ซึ่งได้ใช้ทำการเกษตรกันมานานแล้ว กลับมีการข่มขู่ แต่เป็นเรื่องแปลก และอยากตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้ว ในเขตพื้นที่สวนป่าในขณะนี้ ได้มีกลุ่มนายทุนจากข้างนอกได้เข้ามาใช้พื้นที่ทำการปลูกสวนส้มในบริเวณกว้าง ซึ่งพอถามเจ้าหน้าที่ กลับบอกว่า ทำถูกระเบียบ และมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง

 

"ผมถือว่ามันผิดวิสัย ที่คนนอกพื้นที่ แต่มีสิทธิ์ สามารถเข้าไปทำสวนส้มได้ แต่ชาวบ้านซึ่งเป็นคนในพื้นที่กลับถูกข่มขู่เอาผิดว่าบุกรุกป่า ถือว่าไม่ถูกต้องและมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า"

 





ข้อมูลประกอบ

 

ชาวบ้านปางโม่ หมู่ที่ 8 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีจำนวนประชากร 140 หลังคาเรือน 395 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและค้าขาย ในอดีตหมู่บ้านปางโม่เป็นหมู่บ้านที่ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนที่มีความสำตัญทางระบบนิเวศน์และมีความหลากหลายทางชีวภาพ ชาวบ้านได้อาศัยผืนป่าบริเวณนี้ในการเก็บหาของป่า พืช ผัก สมุนไพร รวมไปถึงไม้ใช้สอยเพื่อการสร้างบ้านเรือน ที่สำคัญ แหล่งน้ำที่ไหลมาจากผืนป่าด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้านยังเป็นแหล่งต้นน้ำ  "ลำห้วยแม่ป๋อย" ด้วยก่อนจะไหลลงสู่ลำน้ำแม่ป๋าม ที่ชาวบ้านปางโม่และชุมชนใกล้เคียงใช้ประโยชน์ได้ทั้งปี ซึ่งลำน้ำเหล่านี้ล้วนเป็นลำน้ำสาขาที่สำคัญของลำน้ำปิงด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2523 ผืนป่าและลำห้วยที่อุดมสมบูรณ์ได้ถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อการปลูกป่าตามนโยบายรัฐบาลในสมัยนั้น ทำให้ลำห้วย ลำน้ำสาขาย่อยที่ชาวบ้านเคยใช้ประโยชน์ อาทิ ลำห้วยแม่ป๋อย ลำน้ำแม่ป๋าม และลำน้ำแม่มาส ประสบปัญหาแห้งแล้งจนชาวบ้านไม่สามารถใช้ประโยชน์ทั้งในการเกษตร การบริโภคในครัวเรือนได้ จนชาวบ้านบางส่วนต้องออกไปทำงานรับจ้างต่างถิ่น ต่อมาในปี 2526 ต้นสักที่ปลูกเริ่มเจริญเติบโต เพราะชาวบ้านช่วยกันดูแลรักษาทำให้สภาพป่าเริ่มฟื้น ลำห้วยต่างๆเริ่มมีน้ำคืนมาอีกครั้ง ชาวบ้านจึงเริ่มทำมาหากินได้ตามปกติ

 

ต่อมาในปี 2549 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้(ออป.) เข้ามาสัมปทานตัดไม้ในเขตหมู่บ้านปางโม่โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของชาวบ้านแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังสร้างความเสียหายแก่ชุมชนไม่ว่าจะเป็นถนนภายในหมู่บ้าน รถขนไม้ที่เข้า-ออกหมู่บ้าน ที่สำคัญการสัมปทานตัดไม้ของ ออป.ครั้งนี้ได้สร้างความวิตกแก่ชาวบ้านเป็นอย่างยิ่งเพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหาความแห้งแล้งเหมือนในอดีต  ที่ผ่านมาปัญหาดังกล่าวชาวบ้านได้มีการประชุมไปแล้วหลายครั้ง มีมติร่วมกันที่จะคัดค้านการดำเนินการดังกล่าวโดยขอให้ยุติการสัมปทานตัดไม้ครั้งนี้ พร้อมกับล่ารายชื่อชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยโดยมีชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านที่วิตกกังวลต่อปัญหาร่วมลงชื่อรวมทั้งหมด 292 คน

 

โดยชาวบ้านได้เรียกร้องให้มีการประสานงานกับหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องให้ยุติการสัมปทานตัดไม้ในพื้นที่ดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพื่อให้ผืนป่าเป็นแหล่งอาหาร สมุนไพร ไม้ใช้สอยของชุมชน และชุมชนจะช่วยกันดูแลรักษาให้คงสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ต่อไป

 

 

 

00000000

อ่านข่าวย้อนหลัง

คนเชียงดาวบุกศาลากลางยื่นหนังสือผู้ว่าฯ จี้ อ.อ.ป.หยุดตัดป่าสักต้นน้ำปิง 28-2-50

คนเชียงดาวโวย "ออป." โค่นป่าสักบริเวณต้นน้ำสาขาแม่น้ำปิงกว่า 2,000 ต้น 23-2-50

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท