Skip to main content
sharethis

หลังจากที่มีรายงบประมาณในการเดินทางไปดูงานต่างประเทศของ คณะกรรมการบริหารบริษัทการท่าอากาศยานไทย  (ทอท.) จำกัด ซึ่งมี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นประธานฯ บอร์ด มีตัวเลขสูงถึง 7.2 ล้านบาท จนมีการวิพากษ์วิจารณ์และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบนั้น


 


 


สพรั่งเผยไปดูงานระบบรักษาความปลอดภัยสนามบินมิวนิก


วันนี้ (9 มี.ค.) พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า การโจมตีตนเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศเป็นการใช้วิธีสกปรกบิดเบือนของกลุ่มที่ไม่หวังดี ซึ่งการเดินทางไปครั้งนี้ได้รับเชิญจากการท่าอากาศยานมิวนิก ประเทศเยอรมัน ไปดูงานด้านระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนญาติที่เดินทางไปด้วยเป็นหลานที่เป็นตำรวจกองปราบปราม มีความรู้ความสามารถเรื่องของการสกัดปัญหาแก๊งลูกหมู ซึ่งตนให้เข้ามาปราบปรามปัญหาแก๊งลูกหมูที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


 


"คนที่ไปได้รับมอบหมายงานทั้งสิ้น แต่เราไม่ได้ไปโอ้อวด ผมต้องใช้คนที่ไว้ใจที่สุด ไม่เคยใช้คนทั้งคณะ ผมไม่ทำอะไรโง่ ๆ อยู่แล้ว ที่ผมไม่ได้พูดตอนลงจากเครื่องบิน เพราะคิดว่านักข่าวจะสัมภาษณ์เรื่องจะไปเป็นนักการเมือง ก็ไม่อยากให้สัมภาษณ์ เพราะไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนใครบิดเบือนว่า ผมพาครอบครัวไป มีบ้านที่สวิสฯ ก็ขอให้ฝันเป็นจริง"


 


 


มีผู้ติดตามไปเมืองนอกเป็นระเบียบของบอร์ด ทอท. ใครก็ทำได้


ส่วนที่มีบอร์ดบางคนนำภรรยาไปด้วย และบางคนแวะไปเยี่ยมครอบครัว พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า เรื่องที่มีผู้ติดตามไปด้วยเป็นไปตามระเบียบของบอร์ด เป็นสิ่งที่ทุกคนทำกันได้ ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดและไม่ใช่ทำกันครั้งแรก


 


 "หลังจากที่ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นศัตรูที่ผมถือว่าเป็นคนละชั้นกับผม ความจริง ผมไม่จำเป็นต้องพูดถึงทุกกิจกรรมที่เขาไปดูงานกันก็ได้ ถือเป็นระเบียบภายใน แต่อย่ามาเล่นกับผม เพราะผมไม่ใช่คนที่จะมาตักตวงอะไร ถ้าผมจะตักตวงก็ตักตวงมาตั้งแต่ต้นเริ่มชีวิตของผมไม่ดีกว่าหรือ เรื่องนี้เป็นเรื่องภายใน แต่มีนักการเมืองบางคนที่ไปคิดไม่ดี อาจเพราะตัวเองเป็นอย่างไร ก็คิดว่าคนอื่นเป็นเช่นนั้นด้วย"


 


 


ยินดีให้ ทรท. ตรวจสอบ ยกตน "ภูผาไม่สะเทือนลมพัดชายเขา"


พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ยินดีที่พรรคไทยรักไทยจะยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ตนพร้อมรับการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ไม่เคยหวั่นไหวต่อแรงกดดันทางการเมือง แต่ถ้าใครมาโจมตีเรื่องที่ไร้สาระและต้องป้องกันเกียรติยศ ตนจะสวนหมัดทันที แต่ไม่ใช่คนที่อยากไปทะเลาะกับใคร หากมีการส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรี ตนก็ยินดีไปชี้แจง ไม่เคยมีความลับกับผู้บังคับบัญชา ไม่เคยทรยศหักหลังผู้บังคับบัญชา


 


"ผมเหมือนภูผาที่ไม่สะเทือนต่อลมพัดชายเขา ผมเป็นคนที่ทำอะไรมาที่สำเร็จ เป็นผลงานที่ควรแก่ความภาคภูมิใจ ผมก็หนีสัมภาษณ์ แต่ตอนหลังที่ผมต้องเป็นศิลปินเดี่ยว เพราะความจำเป็น ผมไม่ได้อยากเป็นศิลปินเดี่ยว แต่ผมอยากเป็นวงออร์เคสตร้า ผมเคยพูดเสมอว่านักร้องต้องประสานเสียง แต่ผมมีบุคลิกอย่างหนึ่งคือเมื่อยามวิกฤติแล้ว ผมต้องยืนอยู่แถวหน้า ตอนนี้ที่ไม่มีวง ไม่ใช่เราแตกแยก เรายังแนบแน่น แต่ด้วยบุคลิกที่แตกต่างกัน ทุกคนมีสไตล์ของตัวเอง ผมไม่ได้อยากเป็นศิลปินเดี่ยว แต่บุคลิกเป็นพวกที่ปิดทองหลังพระ ถ้าประชาชนมีความวิตกกังวลต่อบ้านเมือง พวกเรา 8 คน พร้อมทำงาน ผมไม่ต้องการเป็นอะไรที่อยากเด่น อยากดัง"


 


 


ยันไม่ปฏิวัติซ้อน "รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่เราชื่นชม ผมไม่มีทางทำร้าย"


ส่วนที่มีข่าวว่า พล.อ.สพรั่ง จะปฏิวัติซ้ำหรือปฏิวัติซ้อนนั้น พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ไม่เคยคิดเรื่องนี้ ตนไม่เคยทรยศนาย ไม่เคยคิดแทงข้างหลัง ไม่ได้เป็นหอกข้างแคร่ ตนมีแต่ทุกข์แทนนาย ความคิดจะปฏิวัติซ้ำ ปฏิวัติซ้อนขอให้เลิกคิดได้ ไม่มีแน่ แต่ตนปฏิวัติความคิดทุกวัน อย่างไรก็ตาม ในหลักการหากบ้านเมืองเกิดเหตุกลียุค เกิดเหตุความชั่วร้ายต่อบ้านเมือง อำนาจรัฐใช้ไม่ได้ ทหารต้องออกมาดูแลความ สงบเรียบร้อย ไม่ออกมาคลี่คลายไม่ได้ พวกฝ่ายตรงข้ามที่ชอบปล่อยข่าวถือว่าโง่สิ้นดี


 


"รัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาลที่เราชื่นชม ผมไม่มีทางไปทำร้ายได้ เพราะ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นนายเก่าของผม ไม่มีทางไปทำร้ายนาย ท่านเป็นคนที่ผมยกย่อง ไม่มีทางที่ผมจะไปปฏิวัติ ใครมายุผมไม่ได้ เพราะเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด และไม่มีทางที่ใครจะมายุให้ผมต้องทำอะไร เพราะถ้ายุขึ้น ป่านนี้ผมก็ไปเป็นนักร้องแล้ว"


 


 


"อ๋อย" วอนสุรยุทธ์-สนธิปรับทัศนคติสพรั่งเลิกเห็น ทรท.เป็นศัตรู


ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.ช่วยไปทำความเข้าใจกับ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยเลขาธิการ คมช.เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติของ พล.อ.สพรั่ง ก่อนออกมาระบุว่าพรรคไทยรักไทยเป็นศัตรูภายหลังพรรคไทยรักไทยออกมาเปิดโปงการเบิกจ่ายงบประมาณกว่า 7 ล้านบาท เพื่อไปดูงานที่ต่างประเทศเนื่องจากถือเป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสมของผู้ที่มีอำนาจขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าพรรคไทยรักไทยไม่ได้มองว่า พล.อ.สพรั่ง เป็นศัตรูแต่มองว่าเป็นเพื่อนร่วมชาติและจะไม่เก็บไปเป็นความแค้น


 


"ประธานคมช.และนายกฯหากใครที่พอจะพูดกับพล.อ.สพรั่งได้ อยากขอให้ ช่วยไปทำความเข้าใจ ให้คำแนะนำ ให้ปรับความคิดเสียใหม่ แต่พรรคไทยรักไทยไม่เห็นพล.อ.สพรั่งเป็นศัตร เราเห็นท่านเป็นเพื่อนร่วมชาติ ที่บังเอิญมีความคิดที่ต่างกันในการแก้ปัญหาบ้านเมืองโดยเฉพาะเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ เมื่อมีรัฐธรรมนูญและมีการเลือกตั้งแล้วท่านก็ต้องกลับเข้ากรมกองของท่าน ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะมองท่านเป็นศัตรู"


 


อย่างไรก็ตามรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยเตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในวันจันทร์ที่ 12 มีนาคมนี้ เพื่อให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณไปต่างประเทศของ พล.อ.สพรั่ง


เพราะเรื่องนี้เป็นการทำหน้าที่ของพรรคการเมืองที่ ต้องรักษาประโยชน์ของรัฐและประชาชน เพื่อให้รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม และตรวจสอบ ซึ่งผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า


 


ส่วนกรณีที่พล.อ.สพรั่งระบุว่าเรื่องนี้ไม่ต้องชี้แจง ไม่มีปัญหา และไม่ผิดนั้น ตนไม่ติดใจอะไร แต่ติดใจตรงที่บอกว่าเป็นการกระทำของศัตรู คำก็นักรบ สองคำก็ศัตรู สำหรับผู้ที่มีอำนาจในการกำหนดความเป็นไปของบ้านเมืองในปัจจุบัน คำพูดเหล่านี้ ถือว่าไม่เหมาะสม การมองนักการเมืองที่ไม่ชอบเป็นศัตรูเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ควรปรับความคิดใหม่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net