ประชาไท - เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 50 คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ (Working Group on Justice for Peace) นำโดยนางอังคณา  นีละไพจิตร ออกแถลงการณ์กรณีการฆ่าผู้บริสุทธ์ รถตู้โดยสารสาธารณะ ที่จังหวัดยะลา

"ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อสังคมไทยรวมทั้งครอบครัวของผู้สูญเสียทุกคน  และเชื่อมั่นว่าสังคมไทยจะตั้งสติ  ยึดมั่นในธรรม   และอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุและความไม่ปรารถนาดีของบรรดาผู้ก่อความไม่สงบ  ที่หวังจะเห็นสังคมไทยเกิดการแตกแยก  เพื่อนำไปสู่ความรุนแรงและการลุกขึ้นเข่นฆ่าของพี่น้องคนไทยด้วยกันเอง"

และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยยึดวิธีการสันติและร่วมกันยุติวงจรความรุนแรง  ถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องช่วยกัน  ประชาชนคนไทยทุกคนรวมทั้งภาคประชาสังคมต้องถือเป็นภาระหน้าที่ในการที่จะต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา  และเยียวยาผู้สูญเสียทุกคนด้วยความเป็นธรรม" อังคณา นีละไพจิตร  ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ กล่าวในแถลงการณ์

ในแถลงการณ์ของคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายนำยึดมั่นในหลักคุณธรรม ความเป็นธรรม และวิธีการที่สันติ ภายใต้หลักนิติธรรมตามกฎหมายและการเคารพสิทธิมนุษยชน โดยมีข้อเสนอห้าประการ

หนึ่ง ขอให้ทุกฝ่ายยุติการฆ่า  การเผาทำลาย การวางระเบิด การทำลายศพ ทั้งการตัดคอ การเผาทำลาย และร่วมกันยุติวงจรความรุนแรงที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชนโดยทันที

สอง ขอให้ทุกฝ่ายเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย รวมทั้งเคารพต่อหลักสิทธิมนุษยชนและเคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียม

สาม ขอให้ดำเนินการเร่งรัดตามกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายเพื่อสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิด  มาลงโทษตามกฎหมาย และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

สี่ ขอให้ประชาชนทั่วไป  รวมทั้งภาคประชาสังคมออกมาแสดงจุดยืนในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นด้วยสันติวิธี  และเรียกร้องให้เปิดเผยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างโปร่งใส ไม่ปิดบัง ปราศจากอคติ  เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างยั่งยืน

ห้า ขอให้รัฐบาลเน้นย้ำและยึดมั่นแนวนโยบายปฏิบัติในทางสันติวิธี  ขอทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุของผู้ก่อการและผู้ไม่หวังดีต้องการสร้างความแตกแยกในสังคมจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศไทย

นอกจากนี้ คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ยังได้ประณามการฆ่าผู้บริสุทธ์ในเหตุการณ์โจมตีรถตู้โดยสารที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ว่า เหตุการณ์นี้เป็นการฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์โดยอุกอาจ  โหดเหี้ยม  ไร้มนุษยธรรม ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และเป็นความตั้งใจโดยเจตนาที่จะสร้างเกิดความแตกแยกในสังคม  สร้างความหวาดกลัวต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยของคนในพื้นที่ และสร้างความหวาดกลัวต่อคนไทยทั้งประเทศ  

คณะทำงานจึงประนามการฆ่าทั้งปวง การฆ่าผู้บริสุทธิ์  การฆ่านอกระบบกฎหมาย การทำลายศพ หมายรวมถึงการตัดคอ การเผาทำลาย และการทำให้บุคคลหายไป และขอเรียกร้องให้คนไทยทุกคนร่วมกันประณาม  ไม่นิ่งดูดายและไม่ละเลยเพิกเฉยต่อการฆ่าทุกรูปแบบที่กำลังเกิดขึ้น โดยใช้สติ  ยึดหมั่นในหลักธรรม และเคารพต่อการหลักมนุษยธรรม