Skip to main content
sharethis

ศาสตราจารย์ ดร.อิมรอน มะลูลีม ผู้แทนจุฬาราชมนตรี แถลงผลสรุปโครงการประชุมสัมมนาคณะผู้รู้ศาสนาอิสลามในประเทศไทย ในหัวข้อเรื่อง "อิสลามกับแนวทางในการสร้างความสามัคคีและสันติสุข" โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อสอบสวนและศึกษาสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร่วมกับสำนักจุฬาราชมนตรี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาคที่ 4 และศูนย์อำนวยการ บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดขึ้นที่โรงแรมพินนาเคิลวังใหม่ จังหวัดสตูล ระหว่างวันที่ 25 - 26 มี.ค. โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาที่เกี่ยวข้อง 200 คน


 


ศาสตราจารย์ ดร.อิมรอน แถลงว่า จากสถานการณ์การก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ ในขณะนี้ได้สร้างความทุกข์ความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างไม่อาจปฏิเสธได้จากความห่วงใยต่อสถานการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นในเวลานี้ สำนักจุฬาราชมนตรี กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ผู้รู้ทางศาสนาอิสลาม และประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศได้ร่วมกันประชุมปรึกษาหารือและมีข้อสรุปดังนี้


 


1.ในยามที่สังคมเกิดวิกฤต ผู้รู้และผู้นำศาสนาอิสลามต้องมีความกล้าหาญทางจริยธรรมในการชี้นำสังคมไปในทางที่ถูกต้อง ทั้งนี้ โดยรัฐให้การสนับสนุน ส่งเสริมให้ผู้นำและผู้รู้ทางศาสนามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาของสังคมมุสลิม และประเทศชาติโดยรวม


 


2.หลักคำสอนของศาสนาอิสลาม ยอมรับในความแตกต่าง และความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรม ตลอดจนความหลากหลายทางชาติพันธุ์ การกระทำหรือคำกล่าวใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าศาสนาอิสลามมีความเกลียดชังรังเกียจศาสนิกในศาสนาและชาติพันธุ์อื่นๆ ไม่ใช่หลักคำสอนของอิสลาม


 


3.อิสลามมีหลักคำสอนเรื่องญีฮัตชัดเจน และการญีฮัตมิได้หมายถึง การทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าบุคคลเหล่านั้นจะนับถือศาสนาใด การอ้างคำสอนเรื่อง ญีฮาดเพื่อนำมาทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม


 


4.การเรียกว่า ญีฮัต ใช่หรือไม่ จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าถูกกดขี่ และขับไล่อย่างอยุติธรรม ถูกลิดรอนด้านศาสนา และจะต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ทางจริยธรรมในการทำสงครามญีฮัต เพราะฉะนั้นการก่อความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ย่อมไม่ถือเป็นการญีฮัต อนึ่ง รัฐจะต้องไม่สร้างเงื่อนไขใดๆ อันจะนำไปสู่การอ้างความชอบธรรมของผู้ไม่หวังดีในการกระทำความรุนแรง


 


5.การวินิจฉัยว่า บุคคลจะเป็นชะฮีดหรือไม่จะต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของการทำญีฮัต แต่หากการเสียชีวิตที่อยู่นอกเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ดังกล่าวย่อมไม่ถือเป็นชะฮีดตามบทบัญญัติอิสลาม


6.การสาบาน (ซุมเปาะห์) จะสมบูรณ์ได้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามบทบัญญัติของอิสลาม และมีเป้าหมายในสิ่งที่ไม่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม หากผู้กล่าวสาบานไม่ได้ดำเนินการตามบทบัญญัติของอิสลามหรือมีเป้าหมายที่ขัดแย้งกับหลักคำสอนของอิสลาม การสาบานนั้นให้ถือเป็นโมฆะ


 


7.เงินที่ได้รับจัดสรรเยี่ยวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ถือว่าเป็นมรดก


 


8.การประกาศวันสำคัญในศาสนาอิสลาม (อีดิ้ลฟิตรี และอีดิ้ลอัดฮา ) ในประเทศไทย มีข้อเสนอให้จุฬาราชมนตรีประชุมร่วมกับประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จังหวัดทุกจังหวัด เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการประกาศวันสำคัญของศาสนาอิสลามให้เป็นเอกภาพ


 


9.การผ่าศพและการขุดศพ เพื่อชันสูตรหาข้อเท็จจริงความเป็นบุคคลสาเหตุการตาย เพื่อหาความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิต และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมสามารถกระทำได้ ทั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้คำวินิจฉัยของผู้รู้ทาง ศาสนาและได้รับการอนุญาตจากญาติของผู้เสียชีวิต อนึ่ง ในกรณีศพนิรนาม การดำเนินการให้อยู่ ในดุลยพินิจของสำนึกจุฬาราชมนตรี


 


10.คำวินิจฉัยของอดีตจุฬาราชมนตรี (นายประเสริฐ มะหะหมัด) เกี่ยวกับปัญหาการปฏิบัติตามหลักศาสนาของมุสลิมกับทางราชการ ยังไม่ได้รับการเผยแพร่สู่หน่วยงานราชการ สาธารณชนและสู่การปฏิบัติอย่างทั่วถึง รัฐจะต้องกำหนดเป็นนโยบายสำคัญ เร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว


 


นายสุริยา ปันจอร์ กรรมาธิการวิสามัญฯ กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวหลังการประชุมว่า เป็นการสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่สนใจ ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง และคลายความสงสัยของสังคม จากข้อสรุปของการหารือในครั้งนี้จะนำมาซึ่งความเข้าใจในหลักศาสนาอิสลามมากยิ่ง จะช่วยทำให้ผู้สนใจในเรื่องนี้ถูกต้องมายิ่งขึ้นและไม่มีการแอบอ้างบิดเบือน


 


อย่างน้อยการหารือในครั้งนี้อาจจะช่วยเป็นหนึ่งในร้อยหรือในพันให้สถานการณ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้เบาบางไม่มากก็น้อยตามลำดับได้ แต่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับมวลชน และสื่อที่จะช่วยกัน สื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากยิ่งขึ้น แทนที่ประโคมข่าวจนคนอ่านหรือผู้บริโภค ไม่สามารถแยกแยะและไปสรุปให้ เข้าใจว่าบุคคลนั้นคือตัวจริง ซึ่งเป็นการที่สรุปเร็วเกินไป อาจทำให้คนนั้นต้องตกเป็นจำเลยของสังคมได้เพราะการเสนอข่าวซึ่งต้องมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น


 


หลังจากการหารือจนได้ข้อสรุปในครั้งนี้ จะมีการนำสรุปผลการประชุมคณะผู้รู้ทางศาสนาอิสลามเข้าที่ประชุมสภา เพื่อรับทราบและเตรียมเสนอต่อสำนักจุฬาราชมนตรีลงนามประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องได้รับทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง


 


ส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันเดียวกัน ชาวไทยพุทธในอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา กว่า 1,000 คน รวมตัวชุมนุมบริเวณที่ว่าการอำเภอสะบ้าย้อย ยื่นข้อเรียกร้อง 7 ข้อ ต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อสอบสวนและศึกษาสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยเรียกร้องให้คงกำลังตำรวจตระเวนชายแดนและทหารพรานในพื้นที่ต่อไป บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม ให้ความสะดวกในการขออนุญาตมีและพกพาอาวุธปืน และให้กรรมการสิทธิมนุษยชน รวมทั้งองค์กรเอกชน มีความเสมอภาค เป็นกลางในการเรียกร้องสิทธิต่างๆ ให้ประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ


     


พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อสอบสวนและศึกษาสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้รับข้อเรียกร้องของชาวบ้าน และชี้แจงแนวทางที่สามารถดำเนินการได้ในแต่ละข้อ พร้อมจะเร่งประสานงานหน่วยงานที่มีอำนาจการตัดสินใจ พิจารณาดำเนินการตามข้อเรียกร้องต่อไป


 


สำหรับข้อเสนอดังกล่าวประกอบด้วย 1 ไม่ให้ถอนกำลังทหารพราน และตชด.ออกนอกพื้นที่ 2.ให้เพิ่มกำลังทหาร พราน และตำรวจเพื่อสนับสนุนการทำงานของ ชรบ. 3.ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด 4.การช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อรวดเร็วและเท่าเทียมกัน 5.สนับสนุน อาวุธให้กับชาวบ้าน 6.ให้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและผู้บริสุทธิ์ในการขออาวุธเพื่อป้องกันตัว 7.ขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีความเป็นกลาง และปฏิบัติกับชาวบ้านทุกลุ่มให้เท่าเทียมกัน


 


 


ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net