Skip to main content
sharethis

"นพดล" วอน "สุรยุทธ์" หยุดให้ร้าย "แม้ว" ปูดมีคน "ตบทรัพย์" สุวรรณภูมิ-ช่อง 5


เว็บไซต์แนวหน้า : นายนพดล  ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวชินวัตร กล่าวถึงกรณีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีกล่าวกับผู้บริหารสื่อมวลชนที่ประเทศญี่ปุ่นโดยระบุว่าในช่วง 5 ปีที่ พ.ต.ท.ทักษิณดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีการรวบอำนาจทางการเมืองและทางการเงินเป็นสาเหตุให้มีการยึดอำนาจว่า  พล.อ.สุรยุทธ์ คงไม่มีประเด็นในเรื่องความสำเร็จของรัฐบาล จึงได้พูดย้ำแต่ในเรื่องที่ซ้ำซากเกี่ยวกับเหตุผลของการยึดอำนาจ การคอร์รัปชั่น การจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน แต่ทำไม่พูดถึงปัญหาภาคใต้ มาตรการเงินทุนสำรอง สิทธิมนุษยชน แม้กระทั่งความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีลดลงเพราะเชื่อว่าต่างประเทศต้องการฟังนโยบายทางเศรษฐกิจมากกว่า


 



ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายฯ กล่าวอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณเพิ่งกลับมาจากการเดินทางไปกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา และงดให้สัมภาษณ์กับสื่อทุกอย่าง หากพูดจะพูดเฉพาะเรื่องในเชิงบวกต่อประเทศไทยและรัฐบาล ซึ่งต่างกับ พล.อ.สุรยุทธ์ที่พูดโจมตีอดีตนายกฯและรัฐบาลเก่า ดังนั้น เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ หยุดพูดแล้วอยากเรียกร้องให้พล.อ.สุรยุทธ์ หยุดให้ร้ายเพื่อความสมานฉันท์


 



"สิ่งที่ พล.อ.สุรยุทธ์ระบุว่าในช่วง 5 ปีมีการทุจริตมาก ผมเห็นว่าปัจจุบันก็ยังมีการทุจริตอยู่มากเช่นกัน เคยมีนักธุรกิจ ระบุว่าในสนามบินสุวรรณภูมิพบการตบทรัพย์จากผู้มีอำนาจ รวมทั้งการทุจริตในสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ที่มีผู้จัดกรายการบ่นว่ามีหลังบ้านผู้มีอำนาจเรียนร้องขอแบ่งเปอร์เซ็นต์ จึงอยากเรียกร้องเข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว"นายนพดล กล่าว


 



นายนพดลกล่าวด้วยว่า รัฐบาลชุดนี้ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนคือการยึดอำนาจ ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากที่สุด เพราะเมื่อยึดอำนาจแล้วแล้วสถาปนาเป็นรัฐาธิปไตย, การออกกฎหมายย้อนหลัง ขัดกับหลักธรรมชาติของกฎหมาย ที่ไม่มีการออกกฎมายเอาผิดย้อนหลัง, การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ( คตส.) ที่มีนายนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธานได้สื่อให้เห็นถึงความลำเอียง


 


นอกจากนี้ในเรื่องการทำข้อตกลงร่วมหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ซึ่งเป็นผลงานของรัฐบาลที่แล้ว แต่รัฐบาลชุดนี้เพียงนำไปกินโดยไม่มีการปรับแก้หรือเพิ่มเติมจากรัฐบาลเก่าใดๆ แทนที่จะให้เครดิตรัฐบาลที่แล้วกลับมาดิสเครดิต


 



"เรายังไม่เห็นแนวโน้มของความสมานฉันท์ของคนในชาติ เพราะสิ่งที่ผ่านมา 6 เดือนแนวทางไม่สมานฉันท์ ยังมีการตอกลิ่ม กล่าวหา โจมตี ให้ร้ายอดีตนายกรัฐมนตรี หรือกลุ่มรัฐบาลเก่า  ไม่มีมาตรการใดที่จะก่อให้เกิดความสมานฉันท์ แต่อดีตนายกฯจะไม่ดำเนินการอะไร จะงดให้สัมภาษณ์สื่อต่อไปและพูดจาเป็นทางบวกต่อประชาชนและรัฐบาลไทย เรื่องนี้จะไม่ถือเป็นประเด็นที่จะนำมาแก้แค้นกัน"


 


 


"โฆษกคมช." ชี้ "นพดล" ปูดข่าวงาบหัวคิวช่อง 5 หวังผลเบี่ยงเบนประเด็นข่าว


เว็บไซต์แนวหน้า : พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) โต้ข่าว  หลังบ้านผู้มีอำนาจในบ้านเมืองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บค่าหัวคิวกับผู้จัดรายการทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ตามที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของตระกูลชินวัตร ออกมากล่าวหา โดยเฉพาะหลังบ้านคมช. เพราะไม่มีใครมีตำแหน่งในช่อง 5 ขณะที่การพิจาณาผังรายการจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการหลายขั้นตอน ซึ่งการออกมาเปิดโปงประเด็นดังกล่าวนี้ถือเป็นความพยายามที่จะเบี่ยงเบนประเด็น โดยนำเรื่องส่วนตัวมาโจมตี


 


 


โฆษก คมช.ไม่หวั่นข้อครหาขึ้นเงินเดือน-มั่นใจชี้แจงได้ทุกเรื่อง


ผู้จัดการออนไลน์ : โฆษก คมช. แจงงบเพิ่มเงินเดือนเป็นเงิน คมช. แค่ขอ ครม.อนุมัติสิทธิคนได้รับเพิ่ม รวมเป็นเงิน 2 แสนกว่าบาท ลั่น คมช. ชี้แจงได้ทุกเรื่อง ระบุงบ "ปฏิวัติ" 1,200 ล้าน ไม่ถึง 1 ใน 10 ส่วน "คดีซุกหุ้น" ตระกูลชินวัตร พ.อ.สรรเสริญ ยังกล่าวถึงกรณีการจดทะเบียนสมรสซ้อนของ พล.อ. สนธิ ว่า เป็นเรื่องปัญหาส่วนตัวในโลกมนุษย์นี้ ทุกคนมีเรื่องราวต่างๆ เป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนข้อมูลจริงเท็จแค่ไหน ตนไม่เคยสอบถาม พล.อ.สนธิ แต่ปัญหาที่ทุกคนกำลังเฝ้าจับตา คือ ประเด็นสาธารณะที่จะมีผลต่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ ส่วนกรณีการครอบครองที่ดินเขายายเที่ยงของนายรัฐมนตรีนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ พร้อมที่จะให้การตรวจสอบ และตรวจสอบได้ทุกเรื่อง


 


"สนธิ"แนะ คมช.เลื่อนวันเลือกตั้ง - ต่ออายุ คตส.ก่อนระบอบทักษิณฟื้นตัว


ผู้จัดการออนไลน์ : นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าวในรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 4 เม.ย. แนะ คมช.เลื่อนวันเลือกตั้ง พร้อมสร้างความเข้าใจหลักการ ปชต.


 


"ผมอยากให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ประกาศเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้ระบอบทักษิณ กลับเข้าสู่การเมืองอีกครั้ง โดยเฉพาะนักเลือกตั้ง พวกนี้มองแต่กลไกการเลือกตั้ง ไม่มองถึงหลักการการเลือกตั้งที่แท้จริง ขณะเดียวกันประชาชนในระดับรากหญ้าก็รอเพียงแต่รับเงิน หลงใหลกับสิ่งที่ตัวเองต้องได้รับ กลุ่มนักการเมืองทุกระดับจึงหวังที่กลับเข้ามา เข้าสู่วงจรเดิมๆ นักเลือกตั้งพวกนี้มองเห็นแต่ผลประโยชน์" นายสนธิ กล่าว


 


 


กกต.เข้าพบผู้นำศาสนา ขอให้ช่วยทำความเข้าใจ ปชช.ถึงความหมายของ คำว่า "คนดี"


เว็บไซต์แนวหน้า : นาย สุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  กล่าวภายหลังการเดินทางไปเยี่ยมคารวะ พระคาร์ดินา ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู พระสังฆราคาทอลิก ที่มิสซัง โรมันคาทอลิก ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งอดีตและปัจจุบัน คือการซื้อสิทธิ์ - ขายเสียง  การแจกเงิน แจกของ การจัดเลี้ยง ซึ่งเป็นเรื่องที่ กกต.ได้ให้ความสนใจและต้องการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ลดลงและหมดไปในที่สุด ดังนั้นเพื่อสร้างทัศนคติความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป กกต.จึงได้จัดทำโครงการเพื่อเผยแพร่ความหมายของคำว่า "คนดี" ตามหลักศาสนา พร้อมกับขอนิยามและความหมายของคำว่า "คนดี"ตามหลักการของศาสนาไปเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป โดยในวันที่ 5  เม.ย.50 ตนจะเดินทางไปเข้าเยี่ยมคารวะ และขอความกรุณาจากนาย สุเทพ สุริยาอมฤทธิ์ นายกสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา ที่ สมาคมศรีคุรสิงห์สภา ผู้นำศาสนาซิกข์ จากนั้นก็จะเดินทางไปพบนายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรี ผู้นำศาสนาอิสลาม และในวันที่ 6 เม.ย.จะเดินทางไปนมัสการ สมเด็จพระพุฒมจารย์ ประธานคณะผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนพระสังฆราช ที่ วัดสระเกศ ราชวรวิหาร


 



 ทั้งนี้ในโครงการดังกล่าวได้ อัญเชิญพระบรมราโชวาท "คนดี" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมเผยแพร่ด้วย โดยนำมาจัดทำเป็นสื่อต่างๆ


 


 


43 สหภาพฯรวมพลต้านยุบฟอกหนัง


ผู้จัดการรายวัน- สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ 43 องค์กร เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ ค้านยุบ "องค์การฟอกหนัง" ระบุขาดทุนปีละ 50 ล้าน เหตุต้องขายรองเท้าให้ 3 เหล่าทัพในราคาต่ำกว่าทุน ชี้หากในอนาคตต้องซื้อรองเท้าจากภาคเอกชน ต้องซื้อแพงกว่าหลายเท่า แถมจะมีผู้ใหญ่ในกระทรวงได้ประโยชน์จากการตั้งงบจัดซื้อแน่นอน ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจขององค์การฟอกหนังในปัจจุบัน ต้องผลิตรองเท้าคอมแบ็ทสำหรับทหาร เพื่อจำหน่ายให้กับกระทรวงกลาโหม จำนวน 200,000 คู่ต่อปี โดยยอดที่จำหน่ายให้กระทรวงกลาโหมคิดเป็น 97% และขายให้กับเอกชนประมาณ 3% สำหรับราคาขายให้แก่กระทรวงกลาโหมตกราคาคู่ละประมาณ 850 บาทเศษ แต่ต้นทุนในการผลิตรองเท้าอยู่ที่ประมาณ 1,100 บาทเศษ ดังนั้น ในการจำหน่ายรองเท้า 1 คู่ ต้องขาดทุนประมาณ 250 บาท หรือ มียอดการขาดทุนประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี โดยสรุปมียอดการขาดทุนสะสมนับตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบันเป็นเงินกว่า 500 ล้านบาท


 


 


ใต้เผา ร.ร.พื้นที่เคอร์ฟิวใน จ.ยะลา


เว็บไซต์แนวหน้า : ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรอำเภอยะหา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่โรงเรียบ้านสามัคคี ต.ปะแต และโรงเรียนปะเดรู ต.กาตอง ในพื้นที่อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจอยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ในเวลาใกล้เคียงยังได้รับแจ้งว่าได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงขึ้นที่โรงเรียนบ้านกาโสด  ต.บันนังสตา  อ.บันนังสตา จ.ยะลา รวมทั้งหมดในขณะนี้มีจำนวน 3 โรง สำหรับพื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้เป็นพื้นที่ที่มีการประกาศเคอร์ฟิวทั้ง 2 อำเภอ และขณะนี้เจ้าหน้าทหาร ตำรวจ กำลังเข้าตรวจสอบ ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นกลลวงของฝ่ายตรงข้าม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งคุ้มเข้มสถานที่ราชการทุกแห่งในพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นคาดว่าเจ้าหน้าที่กองวิทยาการเขต 45 ยะลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ ในเวลาไล่เลี่ยกัน ยังมีการวางเพลิงที่ ร.ร.คงคูแว หมู่ 5 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา เพิ่มอีก 1 แห่ง


 


 


ปราชญ์มุสลิมชำระศาสนายึด "คำวินิจฉัย 10 ประการ"


เว็บไซต์คมชัดลึก : คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อสอบสวนและศึกษาสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ร่วมกับสำนักจุฬาราชมนตรี คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย  กอ.รมน.และ ศอ.บต. วางกรอบนโยบาย "อิสลามกับแนวทางในการสร้างสามัคคี และสันติสุข" ซึ่งนำมาสู่คำวินิจฉัย 10 ประการ ซึ่งผ่านความเห็นชอบและกลั่นกรองโดยผู้รู้ทางศาสนา และโต๊ะครูระดับปัญญาชนจาก 36 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่พี่น้องมุสลิมทั่วประเทศ



 


1.ในยามที่เกิดวิกฤติ ผู้รู้ และผู้นำศาสนาอิสลามต้องมี "ความกล้าหาญในทางจริยธรรม" ในการชี้นำสังคมไปในทางที่ถูกต้อง



 


2.หลักคำสอนของศาสนาอิสลามยอมรับความแตกต่าง และความหลากหลายทางศาสนา และวัฒนธรรม ตลอดจนความหลากหลายทางชาติพันธุ์



 


การกระทำหรือคำกล่าวใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าศาสนาอิสลามมีความเกลียดชังรังเกียจศาสนิกในศาสนา และชาติพันธุ์อื่นๆ ไม่ใช่หลักคำสอนของอิสลาม



 


3.อิสลามมีหลักคำสอนเรื่อง "จิฮัด" ชัดเจน และการจิฮัดมิได้หมายถึงการทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าบุคคลเหล่านั้น จะนับถือศาสนาใด



 


การอ้างคำสอนเรื่องจิฮัดเพื่อนำมาซึ่งการทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม



 


4.การเรียกว่า จิฮัด ใช่หรือไม่จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าถูกกดขี่ และขับไล่อย่างอยุติธรรม ถูกลิดรอนด้านศาสนา และจะต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ทางจริยธรรมในการทำสงครามจิฮัด



 


5.การวินิจฉัยว่าบุคคลจะเป็น "ชะฮีด" หรือไม่จะต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และหลักเกณฑ์ของการทำจิฮัด



 


6.การสาบาน "ซุมเปาะ" จะสมบูรณ์ได้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามบทบัญญัติของอิสลาม และมีเป้าหมายในสิ่งที่ไม่ขัดต่อหลักการของอิสลาม



 


หากผู้กล่าวสาบานไม่ได้ดำเนินการตามบทบัญญัติของอิสลาม หรือมีเป้าหมายที่ขัดแย้งกับหลักคำสอนของอิสลาม การสาบานนั้นให้ถือเป็นโมฆะ



 


7.เงินที่ได้รับจัดสรรเยียวยาให้แก่ครอบครับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ไม่ถือว่าเป็นมรดก



 


8.การประกาศวันสำคัญในศาสนาอิสลาม (อีดิลฟิตรี และอีดิลอัดฮา) ในประเทศไทย



 


มีข้อเสนอให้จุฬาราชมนตรีประชุมร่วมกับประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการประกาศวันสำคัญของศาสนาอิสลามให้เป็นเอกภาพ



 


9.การผ่าศพ และการขุดศพเพื่อชันสูตรหาข้อเท็จจริงความเป็นบุคคลสาเหตุการตายเพื่อหาความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิต และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม "สามารถกระทำได้"



ทั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้คำวินิจฉัยของผู้รู้ทางศาสนา และได้รับการอนุญาตจากญาติของผู้เสียชีวิต อนึ่ง ในกรณี "ศพนิรนาม" การดำเนินการให้อยู่ในดุลพินิจของสำนักจุฬาราชมนตรี



 


10. คำวินิจฉัยของอดีตจุฬาราชมนตรี (นายประเสริฐ มะหะหมัด) เกี่ยวกับปัญหาการปฏิบัติตามหลักศาสนาของมุสลิมกับทางราชการยังไม่ได้รับการเผยแพร่สู่หน่วยงานราชการ สาธารณชน และสู่การปฏิบัติอย่างทั่วถึง รัฐจะต้องกำหนดเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว


 



ศ.ดร.อิมรอน มะลูลีม ผู้รู้ทางศาสนาคนสำคัญ ในฐานะตัวแทนสำนักจุฬาราชมนตรี ชี้ถึงความจำเป็นของคำวินิจฉัยทั้ง 10 ข้อนี้ว่า ณ วันนี้ยังไม่มีกรอบใดภายใต้หลักศาสนาอิสลามที่เจ้าหน้าที่สามารถนำไปใช้ในการชี้ขาดว่าสิ่งที่ผู้ก่อความไม่สงบกำลังทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ "ผิด" หรือ "ถูก"


 



ศ.ดร.อิมรอน ระบุว่า เหตุที่มิอาจชี้ชัดลงไปเลยนั้น เพราะความน่าเชื่อถือในตัวผู้นำศาสนาในพื้นที่ถูกฝ่ายตรงข้ามทำลายอย่างต่อเนื่อง จึงต้องระดมความเห็นของผู้รู้ทั่วประเทศมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หากพฤติกรรมใดต่างไปจากนี้ก็ถือว่าไม่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และ "ขัดต่อบทบัญญัติ" นี้



 


 


นักวิจัยค้นพบเอนไซม์ชนิดใหม่ แปลงกลุ่มเลือดได้ครอบจักรวาล


เว็บไซต์ไทยรัฐ : รายงานจากเนเชอร์ ไบโอเทคโนโลยี ออนไลน์ เมื่อ 1 เม.ย. แจ้งว่า ในช่วงเวลากว่า 2 ทศวรรษที่นักวิจัยเริ่มต้นทดสอบแนวคิดที่จะเคลื่อนย้ายผิวโปรตีนบนเซลล์เม็ดเลือดแดง เพื่อสร้างเซลล์เม็ดเลือดครอบจักรวาลขึ้นมา การทดลองเมื่อปี ค.ศ.2000 แสดงให้เห็นว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงชนิดบี สามารถแปลงไปเป็นเซลล์ชนิดโอได้ ซึ่งจะช่วยกับคนที่มีเลือดกลุ่มเอและโอ อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดว่าต้องใช้ปริมาณเอนไซม์จำนวนมากในการแปลงกลุ่มเลือด



 


 


สธ.เตือนระวังโรคลมแดดมาพร้อมอากาศร้อนล้างส้วมรับสงกรานต์


เว็บไซต์แนวหน้า : น.พ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ปีนี้สภาพอากาศในประเทศไทยร้อนจัดกว่าทุกปี เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคลมแดด หรือทางการแพทย์เรียกว่า ฮีทสโตรก (Heat stroke) เป็นภาวะวิกฤติของร่างกาย จะไม่สามารถควบคุมความร้อนได้ ซึ่งในสหรัฐอเมริกามีประชาชนเสียชีวิตจากสาเหตุนี้ปีละ 371 คน แต่ในไทยยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต


 


สำหรับอาการของโรคนี้ เกิดจากได้รับความร้อนมากจัดเป็นเวลานาน อาการสำคัญคือ ตัวร้อนจัด เพ้อ หรือหมดสติ ชีพจรเต้นเร็ว ความดันเลือดลดลง ช็อก ผิวหนังแห้งและร้อน การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลว กระสับกระส่าย หมดสติ เกร็ง ชัก โดยกลไกการทำงานของร่างกายหลังได้รับความร้อน จะปรับตัวโดยส่งน้ำหรือเลือดไปเลี้ยงอวัยวะภายใน ทำให้ผิวหนังขาดเลือดและน้ำไปหล่อเลี้ยง จึงไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น อุณหภูมิของร่างกายสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาเร่งด่วน เพราะมีโอกาสเสียชีวิตร้อยละ 17-70 ส่วนการช่วยเหลือผู้ที่เป็นลมแดด ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งเช็ดตัว ลดอุณหภูมิของร่างกาย และรีบนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน ผู้ที่อดนอน ผู้ดื่มแอลกอฮอล์



 


 


อิหร่านยอมปล่อยตัวทหารอังกฤษ 15 นายโดยทันที


ผู้จัดการออนไลน์ :  มาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ปธน.อิหร่าน เปิดเผยว่า ได้การอภัยโทษทหารอังกฤษ 15 นาย ที่ถูกจับกุมเมื่อเกือบสองสัปดาห์ก่อนและจะปล่อยตัวออกมาในทันที ขณะที่ โทนี แบลร์ นายกรัฐมนตรีผู้ดีแสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของเตหะราน "พวกเขาจะกลับบ้านในวันนี้" ปธน.อิหร่าน กล่าว อย่างไรก็ตาม อาห์มาดิเนจัด กล่าวโจมตีท่าทีของอังกฤษต่อวิกฤตในช่วง 13 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเสาะแสวงหาความช่วยเหลือจากนานาชาติเพื่อโดดเดี่ยวเตหะราน หลังจากนั่งฟังการแถลงข่าวของเตหะราน ด้านรัฐบาลของ โทนี แบลร์ ได้ออกมากล่าวแสดงความยินดีที่ทหารอังกฤษทั้ง 15 นาย จะได้รับการปล่อยตัว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net