ประชาไท - 8 เม.ย. 2550 ตามที่วานนี้ (7 เม.ย.) ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ ร.ร.เดอะ ไทด์ รีสอร์ท ต.บางแสน อ.เมือง จ.ชลบุรี ในช่วงเช้านั้น (อ่านข่าวย้อนหลัง--กรรมาธิการฯ ยันที่มานายกฯ "แต่งตั้งมาจาก ส.ส." ไม่ต่างกับ "มาจาก ส.ส." แบบ รธน.40) ผู้สื่อข่าวได้ถาม น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ว่าการโหวตลับจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่ง น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ในฐานะตนเป็นประธานฯ ตอบไม่ได้ ถ้าตนร่างคนเดียวถึงจะตอบได้ ตนต้องรับฟังทุกฝ่าย เพราะความเห็นของทุกฝ่ายต้องเป็นความเห็นที่ต้องนำมาพิจารณาว่าในที่สุดแล้วอะไรจะเป็นผลดี และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมของบ้านเมือง ตอนที่ประชุมที่ชะอำก็บอกแล้วว่าวันไหนที่มีประเด็นละเอียดอ่อนจะขอประชุมลับก็ได้ขอกันแล้ว ขอให้สบายใจได้เลยว่ากรรมาธิการยกร่างทั้ง 35 คน ทุกคนหวังดีต่อบ้านเมืองทั้งนั้น และความเห็นของเขาก็มาจากคนที่มีทั้งความรู้ทางวิชาการและประสบการณ์

น.ต. ประสงค์ยังกล่าวว่า "การประชุมลับไม่มีความหมายอะไร เพียงแต่ว่าขอเวลาให้พวกผมทั้ง 35 คน ได้ทำงานในลักษณะที่เราจะแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างชนิดที่เรียกว่าตรงไปตรงมาในประเด็นบางอย่างที่ละเอียดอ่อน และยังไม่ได้ข้อยุติ" นั้น

ต่อเรื่องนี้ นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ หนึ่งในคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญกล่าวว่า ถ้าเรื่องนี้ถ้าไม่ชอบมาพากล ตนเองก็อาจจะออกมาทำอะไร โดยเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะปิดลับ ควรจะโหวตโดยเปิดเผย แต่บัดนี้ก็ยังไม่มีการคุยถึงเรื่องนี้

ส่วนนางอังคณา นีละไพจิตร หนึ่งในคณะกรรมาธิการฯ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสการสนับสนุนการโหวตลับว่า เชื่อว่าคงมีเสียงสนับสนุนเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย การโหวตลับทำให้เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ใครแสดงความเห็นอย่างไรคนก็จะไม่รู้ แต่คิดว่าน่าจะมีกรรมาธิการฯ สัก 10 คนที่ไม่เห็นด้วยกับการโหวตลับ

นางอังคณากล่าวอีกว่า คงมีหลายคนที่ไม่ยอมพูดในเวทีที่เปิดเผย แต่ตนเองเห็นว่าการร่างรัฐธรรมนูญควรจะทำด้วยความเปิดเผยถ้าจะเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน และก็ไม่เคยมีการคุยเรื่องการเปิดประชุมลับ ส่วนของตนเองก็คงพยายามพูดต่อว่าต้องโหวตอย่างเปิดเผย เพราะทุกคนจ้องตามองอยู่ ตนเองพยายามต่อรองอยู่ตลอด แต่บางคนในคณะกรรมาธิการไม่เคยพูดอะไรในที่ประชุมก็มี ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร