Skip to main content
sharethis

สัมภาษณ์โดย ประวิตร โรจนพฤกษ์


 


 


ข่าวกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มีคำสั่งปิดเว็บ YouTube ปิดห้อง "ราชดำเนิน" ในเว็บไซต์พันธ์ทิพย์ ตามด้วยเสียงเตือนเว็บไซต์ "ประชาไท" อย่างเข้มๆ เป็นกระแสข่าวที่มีการพูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศ สื่ออินเตอร์เน็ต และการถกเถียงใน "ชุมชนออนไลน์" นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดกระแส "เซ็นเซอร์ตัวเอง" อย่างกว้างขวางและรวดเร็วของสื่อและชุมชนออนไลน์


 


เพื่อให้เกิดบทสนทนาในสังคมไทยต่อเรื่องนี้ ประชาไทขอนำเสนอบทสัมภาษณ์ "ซีเจ ฮิงกิ" (C.J.Hinke) ผู้ก่อตั้งและผู้ประสานงานกลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย (FACT - Freedom Against Censorship Thailand) ซึ่งเป็นองค์กรประชาสังคมที่ "จับตา" การเซ็นเซอร์สื่ออย่างใกล้ชิด


 


 


 






"กระทรวงไอซีทีไม่รู้วิธีที่จะเซ็นเซอร์วีดิโอคลิปเดี่ยวๆ บนเว็บ YouTube และใช้วิธีที่ไม่ฉลาดโดยการบล็อคเว็บไซต์ทั้งหมด YouTube กำลังสอนรัฐบาลไทยว่ามีวิธีเซ็นเซอร์วีดิโอคลิปอันเดียวอย่างไร ในความเห็นผมแล้วนี่หมายความว่า Google กำลังสมรู้ร่วมคิดในการเซ็นเซอร์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย"


 


คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับปฏิกิริยาของรัฐบาลในเรื่องคลิปวิดีโอ YouTube


เอ่อ ผมคิดว่าการเซ็นเซอร์ในประเทศไทยมีมากเกินความจำเป็นในปัจจุบัน และผมก็คิดว่ารัฐบาลแสดงปฏิกิริยามากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อเห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นเรื่อง "เล็กนิดเดียว" ที่ไม่สามารถทำให้สังคมเกิดความโกลาหลวุ่นวายได้


 


 


สื่อไทยกระแสหลักแม้กระทั่งหนังสือพิมพ์บางฉบับก็ตัดสินใจไม่รายงานเกี่ยวกับกรณีนี้ คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้


การเซ็นเซอร์ตัวเองเป็นการเซ็นเซอร์ที่น่ากลัวและอันตรายที่สุด เพราะมันหมายความว่าประชาชนชาวไทยมีชีวิตอยู่ด้วยความกลัว เราจะไม่รู้เลยว่าอะไรถูกแบนหรือไม่ สภาพเช่นนี้ยากยิ่งที่จะแก้ไขเมื่อเทียบกับการเซ็นเซอร์จากบนลงล่าง


 


 


มาตรการที่รัฐบาลใช้ในปัจจุบันในกรณีนี้มีประสิทธิภาพหรือไม่ และคิดว่าจะมีผลกระทบทั้งที่คาดคิดไว้และไม่ได้คาดคิดอย่างไรในสังคมไทย


กระทรวงไอซีทีไม่ได้เป็นผู้จัดการเองโดยตรง แต่มีคำสั่งมาจากเบื้องบน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ได้ออกประกาศ (ประกาศ คปค.ฉบับที่ 5--ผู้สัมภาษณ์) หลังรัฐประหาร ซึ่งเป็นคำสั่งให้เซ็นเซอร์อินเตอร์เน็ต และเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดนี้ก็เป็นภาพสะท้อนความเชื่อของกลุ่มทหารว่า ไอซีทีทำงานยังไม่ดีพอ ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีที่คนเหล่านี้กำลังแสดงธาตุแท้ของตนออกมา ถึงแม้มันจะสร้างปัญหาไม่น้อยในปัจจุบันก็ตาม ในแง่นี้หมายความว่า ประชาชนจะเริ่มตาสว่างและเข้าใจว่าสภาพการเมืองที่แท้จริงซึ่งมีลักษณะกดขี่ ลิดรอนสิทธิเป็นอย่างไร


 


 


ถ้าเช่นนั้นแล้วหากอาจารย์เป็นผู้นำรัฐไทยและดูแลกระทรวงไอซีที อาจารย์จะจัดการอย่างไรในกรณี YouTube


ผมคิดว่าถ้าเราไม่ชอบอะไร เราก็เพียงแต่อย่าไปดูมัน ไม่ว่าจะเป็นในอินเตอร์เน็ต หรือทีวีก็เช่นกัน คุณก็แค่เปลี่ยนช่อง แล้วไปดูอย่างอื่นแทน มันไม่มีความจำเป็นจะต้องไปทำอะไรทั้งสิ้น


 


 


การเซ็นเซอร์กรณีนี้แสดงว่าสถาบันอ่อนแอหรือไม่ และถ้าเป็นเช่นนั้น มันมีสภาพอะไรที่อ่อนแอเกี่ยวกับสถาบันนี้หรือครับ


ผมคิดว่าพวกเขากังวลตั้งแต่เริ่มแรก (ก่อการรัฐประหาร--ผู้สัมภาษณ์) พวกเขารู้วิธีที่จะก่อรัฐประหารและอาจจะเป็นการก่อรัฐประหารด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง แต่ดูเหมือนเขาจะไม่มีความคิดว่าควรบริหารรัฐบาลอย่างไร เวลาคนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ คุณมักจะมีปฏิกิริยาโอเว่อร์ และมักตัดสินใจผิดพลาด


 


 


มีคนบางกลุ่มในเมืองไทยที่ยืนกรานว่า เสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพของสื่อ ไม่ว่าสื่ออินเตอร์เน็ตหรืออะไรก็ตาม เป็นแนวคิดของฝรั่งและแปลกแยกกับวัฒนธรรมไทย คุณเห็นด้วยกับความเชื่อเช่นนี้หรือไม่


ผมอยู่เมืองไทยมากว่า 20 ปี และได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างแท้จริง ลึกซึ้ง และอิสระกับคนไทยหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นพวกเสรีนิยม พวกปฏิกิริยานิยม พวกอนุรักษ์นิยม หรือแม้แต่คอมมิวนิสต์ รวมถึงผู้คนชั้นต่างๆ ของสังคมไทย คนไทยรู้จักที่จะคิดด้วยตัวเอง และรู้ว่าจะจัดการกับความจริงอย่างไร


 


 


คุณคิดว่าอนาคตเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นและสื่ออินเตอร์เน็ตนั้นสดใสหรือไม่  ทำไม


ผมว่ามันคงจะเลวร้ายลงไปกว่านี้ไม่ได้มาก เพราะฉะนั้นก็น่าจะมีแต่ดีขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้ผมไม่สบายใจมากที่สุดเกี่ยวกับการเซ็นเซอร์ก็คือ สภาพการณ์ปัจจุบันกำลังฉุดรั้งคนไทยไม่ให้มีโอกาสที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องการเมืองอย่างมีเหตุผล และแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างกันและกัน หากรัฐบาลมีเจตนาดีจริงก็คงไม่มีอะไรต้องกลัว


 


อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลรู้สึกว่าจำเป็นต้องหยุดยั้งไม่ให้พวกเราพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน นั่นก็เป็นดัชนีชี้ชัดของเผด็จการ 


 


การที่รัฐบาลใช้อำนาจของทั้งรัฐต่อกรกับบริษัทแห่งหนึ่งนั้น (Google ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์YouTube) เป็นเรื่องเขลาจริงๆ เขากำลังสาธิตให้เห็นถึงความอ่อนแอ ความรู้สึกไม่มั่นคงและความกลัว Google สัญญากับกลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย หรือ  FACT (Freedom Against Censorship Thailand) ว่าเขาจะไม่เซ็นเซอร์อินเตอร์เน็ตในเมืองไทย (พูดกับ FACT เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว—ผู้สัมภาษณ์) มาถึงวันนี้พวกเขาอาจจะไม่ถึงกับกลับลำ แต่ก็กำลังเลื่อนไหลผิดคำพูด มันชัดเจนแล้ววันนี้ว่า กระทรวงไอซีทีไม่รู้วิธีที่จะเซ็นเซอร์วีดิโอคลิปเดี่ยวๆ บนเว็บ YouTube และใช้วิธีที่ไม่ฉลาดโดยการบล็อคเว็บไซต์ทั้งหมด YouTube กำลังจะมาสอนรัฐบาลไทยว่า มีวิธีเซ็นเซอร์วีดิโอคลิปอันเดียวอย่างไร ในความเห็นผมแล้ว นี่หมายความว่า Google กำลังสมรู้ร่วมคิดในการเซ็นเซอร์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย


 


ทั้งนี้ กลุ่ม FACT มีกลยุทธ์ที่จะประณาม Google ต่อนานาชาติเร็วๆ นี้ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net