ประชาไท - 12 เม.ย. 50 เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 11 เม.ย. ที่โรงเรียนชุมชนบ้านบ่อประดู่ ตำบลวัดจันทร์ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา บริษัท ซีสเปคตรัม จำกัด และบริษัท เอส ที เอส เอ็นจีเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรมและสิ่งแวดล้อม เพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนล่าง ของกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กระทรวงคมนาคม จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 มีชาวบ้านตำบลวัดจันทร์ เข้าร่วมกว่า 100 คน

นายมานะ ภัทรพานิช ผู้จัดการโครงการฯ แจ้งต่อที่ประชุมว่า กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ต้องการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกในฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เพื่อเชื่อมโยงกับท่าเรือน้ำลึกปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล ที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต รวมทั้งรองรับการขนส่งสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากขณะนี้ท่าเรือน้ำลึกสงขลา ไม่สามารถรองรับปริมาณการส่งออกสินค้าที่เพิ่มขึ้นได้ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถขยายต่อเติมท่าเรือได้อีกต่อไป

นายชาญชัย วงษ์ไทย ที่ปรึกษาบริษัท ซีสเปคตรัม จำกัด ชี้แจงว่า ที่ปรึกษาโครงการได้คัดเลือกพื้นที่ก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทั้งหมด 8 แห่ง ตั้งแต่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปจนถึงจังหวัดนราธิวาส พบว่า มี 3 แห่ง ที่มีสภาพพื้นที่เหมาะสม คือ พื้นที่หมู่ที่ 2 และ 4 ตำบลวัดจันทร์ พื้นที่หมู่ที่ 7 และ 11 ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา และพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านปากบางสะกอม ตำบลสะกอม อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จึงต้องการรับฟังความคิดเห็นจากคนในพื้นที่ก่อน หากพื้นที่ใดไม่ต้องการ จะได้ยุติไม่นำไปพิจารณาต่อไป

นายชาญชัย กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ตำบลวัดจันทร์นั้น หากก่อสร้างท่าเรือ ต้องสร้างเขื่อนกันคลื่นและขุดร่องน้ำด้วย เนื่องจากมีคลื่นแรงและทะเลตื้น มีพื้นที่สาธารณะบนชายฝั่ง 94 ไร่ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อที่ดินเพิ่ม ส่วนพื้นที่ตำบลนาทับ มีลักษณะคล้ายกับตำบลวัดจันทร์ แต่มีพื้นที่สาธารณะมากถึง 600 ไร่ และทางองค์การบริหารส่วนตำบลนาทับเห็นด้วยที่จะให้ก่อสร้างท่าเรือ

นายชาญชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับพื้นที่ตำบลสะกอม อำเภอเทพา มีข้อดีตรงที่มีเกาะขาม และเขาเขียว สามารถใช้กำบังลมมรสุมได้ดี และอยู่ใกล้ทางหลวงกับทางรถไฟมากที่สุด แต่อยู่ใกล้แหล่งชุมชน รวมทั้งมีสภาพแวดล้อมอุดมสมบูรณ์มาก ดังนั้นทางคณะที่ปรึกษาจึงให้คะแนนกับพื้นที่ตำบลนาทับเป็นอันดับ 1 ตำบลสะกอมเป็นอันดับ 2 และตำบลวัดจันทร์เป็นอันดับ 3

จากนั้น ได้ให้ผู้เข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งแจกแบบสอบถามว่าเห็นด้วยกับการก่อสร้างท่าเรือในตำบลวัดจันทร์หรือไม่

นายทวี เทพนาก ชาวประมงพื้นบ้านหมู่ที่ 1 ตำบลวัดจันทร์ กล่าวในที่ประชุมว่า ไม่เห็นด้วยที่จะให้สร้างท่าเรือน้ำลึกในตำบลวัดจันทร์ โดยยกตัวอย่างโครงการของรัฐที่สร้างริมชายฝั่งอ่าวไทย ไม่ว่าเขื่อนกันคลื่น ท่าเรือน้ำลึกสงขลา โรงบำบัดน้ำเสียของเทศบาลนครสงขลา ที่ชุมชนเก้าเส้ง ล้วนสร้างผลกระทบทั้งสิ้น โดยไม่มีใครออกมารับผิดชอบ

"ถ้ารัฐบาลต้องการสร้างท่าเรือก็คงห้ามไม่ได้ แต่ที่ผ่านมาโครงการของรัฐหากลงพื้นที่ไหน ก็จะสร้างความแตกแยกตรงนั้น เพราะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่นั่นก็เป็นสิทธิของแต่ละคน แต่ถามว่าหากมีการถมทะเลแล้ว ชาวประมงพื้นที่บ้านจะไปจับปลาที่ไหน" นายทวีกล่าว

 นายทวี เทพนาก ชาวประมง

นายทวี ยังได้ฝากคำถามไปยังกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ด้วยว่า โครงการที่กรมฯ ได้ดำเนินการมาแล้วในพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทย มีการประเมินผลหรือยัง ไม่ว่าโครงการเขื่อนกันคลื่น หรือท่าเรือน้ำลึกสงขลา กรณีที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีชลอแผนฟื้นฟูชายฝั่ง ก่อนที่จะสร้างโครงการขนาดใหญ่ ทางกรมขนส่งทางน้ำฯ ทราบข่าวนี้หรือไม่

จากนั้น มีตัวแทนชาวบ้านสลับขึ้นมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการสร้างท่าเรือน้ำลึกในตำบลวัดจันทร์ เมื่อนายนายมานะ ขอให้ผู้เข้าร่วมประชุมออกเสียง ปรากฏว่ามีผู้ออกเสียงสนับสนุนเพียง 3 คน ส่วนที่เหลือไม่เห็นด้วย

สำหรับเวทีครั้งที่ 2 และ 3 จะมีขึ้นในวันที่ 12 เม.ย.50 โดยช่วงเช้าจะจัดที่องค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม อำเภอเทพา ส่วนช่วงบ่ายจัดที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาทับ อำเภอจะนะ