Skip to main content
sharethis

 


ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ออกแถลงการณ์เตือนระวังถูกล่อลวงขายเป็นแรงงานทาสบนเรือประมง เนื้อความระบุว่าได้รับแจ้งเหตุ มีคนถูกล่อลวงและลักพาตัวตามสถานีขนส่งต่างๆ  เพื่อไปเป็นแรงงานบนเรือประมง 


ทั้งนี้ วิธีการที่ใช้คือเข้ามาตีสนิทโดย ชักชวนว่า  มีงานให้ทำ  เป็นงานสบาย  และมีค่าตอบแทนสูง   จนทำให้เป้าหมายหลงเชื่อยอมไปทำงานตามที่แนะนำ  โดยกลุ่มเป้าหมายคือบุคคลจากต่างจังหวัดที่เดินทางมาเพื่อหางานทำในกรุงเทพ  


ส่วนสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกล่อลวงหรือถูกลักพาตัว คือ สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ และสนามหลวง  


ศูนย์ข้อมูลคนหายฯระบุอีกว่า เมื่อตรวจสอบในปัจจุบันพบว่ามีคนหายตัวไปจากสถานีขนส่งโดยไม่รู้สาเหตุเป็นจำนวนมาก  ทั้งๆ ที่ก่อนจะหายตัวไปได้บอกกับครอบครัวว่าจะมาทำงานกับเพื่อน หรือกับญาติ  แต่สุดท้ายก็กลายเป็นบุคคลสาบสูญที่ไม่ได้รับความใส่ใจจากสังคม


ศูนย์ข้อมูลคนหายฯจึงขอให้ประชาชนที่กำลังเดินทางเข้ากรุงเทพ  เพื่อมาหางานทำในช่วงที่ว่างเว้นจากฤดูการเก็บเกี่ยวระมัดระวังผู้ที่เข้ามาตีสนิท  ชักชวน  พร้อมทั้งเสนอเงื่อนไขว่า  มีงานสบายๆ ให้ทำ  และมีค่าตอบแทนสูง 


ทั้งนี้ เมื่อมีผู้หลงเชื่อไปทำงานตามที่ชักชวน  ปรากฏว่า  งานที่ต้องทำจริงๆ นั้น  ต่างจากที่ได้รับคำแนะนำมา  บางคนถูกหลอกให้ไปเป็นแรงงานบนเรือประมงโดยไม่สมัครใจ  ทั้งยังถูกทำร้ายร่างกาย  ถูกทุบตี  ถูกใช้แรงงานจนไม่มีเวลาพักผ่อน  แม้บุคคลเหล่านี้จะรอดชีวิตออกมาได้  แต่สภาพจิตใจและร่างกายนั้น  ได้รับความบอบช้ำเกินกว่าจะเยียวยาได้ 


สำหรับกรณีตัวอย่างได้แก่ เด็กชายวัย 15 ปี  ที่หายตัวไปตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2549  หลังจากลงจากรถทัวร์แล้วก็ขาดการติดต่อ  จนกระทั่ง เมื่อวันที่  26 มกราคม 2550  ได้เดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดบุรีรัมย์  


เมื่อสอบถาม  ทราบว่า  หลังจากที่ได้เดินทางด้วยรถโดยสารจากสถานีขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์  เพื่อมาทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2549  โดยมาถึงสถานีขนส่งหมอชิต ในเวลาประมาณ 05.00 น. ได้เดินมาเข้าห้องน้ำที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต  ในระหว่างที่อยู่ในห้องน้ำนั้น  มีชายแปลกหน้าเดินสวนเข้ามา หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย มารู้สึกตัวอีกครั้งก็อยู่บนเรือประมงซึ่งแล่นออกจากชายฝั่งมาไกลแล้ว  และผู้ควบคุมเรือประมงได้อีกบอกว่าเขาถูกนายหน้าขายให้กับเรือลำดังกล่าวด้วยค่าตัว 10,000 บาท  และต้องออกเรือเพื่อหาปลาเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 7 เดือน  ทำให้ต้องทนทำงานอยู่บนเรือประมงลำดังกล่าวทุกวันโดยไม่มีวันหยุด และได้รับประทานอาหารเพียงวันละ 2 มื้อ เท่านั้น  และนอกจากเขาแล้ว  ก็ยังมีชายอีก 2 คน ที่ถูกขายให้กับเรือลำดังกล่าวด้วยเช่นกัน 


กรณีของเด็กชายวัย 15 ปีงถือว่าโชคดีที่ไม่มีการโดนทำร้ายร่างกายอย่างกรณีของแรงงานคนอื่นๆ ที่ถูกล่อลวงไปเป็นแรงงานบนเรือประมงแล้วโดนทุบตี  โดนบังคับให้ทำงานโดยไม่ให้พัก  หรือไม่ให้ทานข้าวเลย  และบางรายนั้นนอกจากโดนทำร้ายร่างกายแล้ว  ยังโดนขายให้กับเรือประมงลำอื่น   จึงทำให้คนหายอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับบ้านอีกเลย 


ดังนั้นหากต้องการหางานทำสามารถติดต่อสอบถามที่กรมการจัดหางาน ตามสถานีขนส่งต่างๆ ได้   และขอให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้  เข้ามาตรวจสอบ  และดูแลประชาชนที่เข้ามาใช้บริการที่สถานีขนส่ง   รวมถึงการหามาตรการป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว 


ทั้งนี้ หากผู้ใด พบเห็นหรือรู้เบาะแส  สามารถโทรแจ้งได้ที่  ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์  มูลนิธิกระจกเงา โทรศัพท์  02-6427991  E-mail : info@backtohome.org  สามารถดูรายละเอียดได้ที่เวปไซค์ www.backtohome.org

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net