Skip to main content
sharethis


 




การเมือง


 


"สุรยุทธ์"นำเรื่องปรับครม.หารือพรุ่งนี้คาดเพิ่ม3ตำแหน่ง


เว็บไซต์คมชัดลึก - ทำบุญประเทศเหงา ปชช.หยุดเที่ยวสงกรานต์ยาว "ทิพาวดี" มั่นใจไม่เกิดเหตุวุ่นวายในการจัดงานรวมพลังไทยเทิดไท้องค์ราชัน เลื่อนจองพระเครื่องพระพุทธดวงใจไทยทั้งชาติเป็นบ่ายสามโมงเย็น คาดนายกฯนำเรื่องปรับครม.เข้าที่ประชุมพรุ่งนี้ ผบช.น.เผยห้ามกลุ่มผู้ชุมนุมที่แฝงตัวเข้า กทม.ไม่ได้


 



รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มีความคิดจะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพราะตำแหน่ง ครม.นั้น ยังเหลือ 4 ตำแหน่ง ฉะนั้นนายกฯ จึงจะปรับ ครม.เพิ่มขึ้น 3 ตำแหน่ง โดยไม่น่าที่จะปรับ ครม.ชุดปัจจุบันออกไป และไม่ปรับ ครม.ทีมเศรษฐกิจ เพราะประเด็นสำคัญในการปรับ ครม.ครั้งนี้คือ สถานการณ์การเมืองในช่วงจากนี้ไป นายกฯ ต้องปรับครม.เพื่อให้รัฐบาลอยู่รอด เรียกคะแนนนิยม ไม่ให้การเมืองกระเพื่อม และเกลี่ยภารกิจต่างๆ ของรัฐมนตรี ให้กระจายงานเพื่อที่จะทำงานได้เร็วขึ้น


 



รายงานข่าวระบุว่า 3 ตำแหน่งที่คาดว่าจะมีการปรับ คือ 1.รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เพื่อดูแลปัญหาภาคใต้และการชุมนุมต่างๆ ทั้งหมด โดยบุคคลที่มีโอกาสจะเข้ารับหน้าที่นี้ คือ พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนเตรียมทหาร และจปร.ของพล.อ.สุรยุทธ์ เพราะ พล.อ.วัธนชัย ทำงานด้านนี้มานานแล้ว ข้อมูลต่างๆ และทีมงานก็พร้อม สิ่งสำคัญคือต้องเข้ากับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ สิ่งสำคัญคือต้องเข้ามาช่วยงานนายกฯ ด้านความมั่นคงภายใน 2.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะต้องเข้ามาทำหน้าที่ควบคุมดูแลการเลือกตั้งและดูแลการชุมนุมต่างๆ เพราะต้องมองว่า แม้จะมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำหน้าที่บริหารจัดการเลือกตั้ง แต่กลไกต่างๆ ก็พึ่งพากระทรวงมหาดไทยเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นต้องมีบุคคลที่มีความรู้ความชำนาญด้านนี้เข้ามาทำงาน และต้องสามารถเจรจากับม็อบต่างๆ ได้ด้วย 3.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ต้องเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาเกษตรกร ภัยแล้ง และราคาสินค้าเกษตร รวมทั้งเกษตรกรที่อาจจะเข้ามาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ .....


 


คมช.ไม่ขวางตั้งรองนายกฯฝ่ายมั่นคง


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น -  พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองผบ.ทบ.และเลขาฯคมช. กล่าวถึงการปรับครม.ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มตำแหน่งรองนายกฯด้านความมั่นคง และรมช.มหาดไทยว่า เป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกฯในเรื่องของความจำเป็นและงานของกระทรวงนั้นๆ ที่เห็นว่าน่าจะต้องเพิ่มรัฐมนตรีช่วยเข้าไปเพื่อให้งานคล่องตัวถือว่าเป็นหลักง่ายๆ หากคิดว่ายังไม่เหมาะก็ใช้ครม.เดิมไปก่อน เนื่องจากครม.ยังไม่เต็ม ซึ่งถ้านายกฯจะปรับก็เพราะมีความจำเป็น


 


เมื่อถามว่าจำเป็นต้องมีรองนายกฯความมั่นคงหรือไม่ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่าเท่าที่ผ่านมาท่านนายกฯกับประธานคมช.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีบทบาทในเรื่องความมั่นคงที่เกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อย แต่ถ้าเกี่ยวกับความมั่นคงสายอื่นๆ นายกฯก็มีอำนาจในการแต่งตั้งอยู่แล้ว


 


ผบช.น.ไม่หวั่นม็อบแฝงตัวทยอยเข้ากรุง หากไม่พกอาวุธสร้างความวุ่นวาย


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในการทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยงาน " รวมพลังไทย เทิดไท้องค์ราชัน " บริเวณท้องสนามหลวง พร้อมกำชับการปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ โดยการทำหน้าที่ดังกล่าวตำรวจนครบาลได้สนธิกำลังกับหน่วยงานทหารและเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม. ระหว่างวันที่ 17-22 เมษายน คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก


 


ผบช.น.กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัยครั้งนี้เข้มงวดพอสมควรซึ่งดูแลทั้งด้านนอกและด้านใน โดยนำกำลังชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและสุนัขตำรวจ เข้าตรวจตราอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันความวุ่นวาย แต่จนถึงขณะนี้สถานการณ์อยู่ในภาวะปกติดีไม่มีรายงานเหตุแต่อย่างใด ที่เป็นห่วงขณะนี้มีเพียงกลุ่มคนเร่ร่อนที่มีอยู่กว่า 200 คนใช้ท้องสนามหลวงเป็นที่หลับนอน เกรงจะกระทำสิ่งไม่ปกติได้จึงประสานเจ้าหน้าที่เทศกิจให้ช่วยดูแลอย่างเข้มงวดด้วย


 


นอกจากนี้ ผบช.น.ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการชุมนุมทางการเมืองช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ บริเวณท้องสนามหลวง ว่า ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามีกลุ่มใดบ้าง จะมีก้แต่กลุ่มพีทีวีที่จะกลับมาชุมนุมวันที่ 27 เมษายน ซึ่งทาง กทม.ได้ประสานงานดูแลอยู่แล้วเรื่องการใช้สถานที่ ส่วนกลุ่มที่แฝงตัวมากับกลุ่มประชาชนที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ หลังสงกรานต์นั้น เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะไปไหนมาไหนได้ ตราบใดที่ไม่พกพาอาวุธหรือก่อความวุ่นวาย ตำรวจไม่สามารถป้องปรามหรือห้ามได้


 


กมธ.ยกร่างฯ อนุมัติงบฯ 5 ล้านพิมพ์เผยแพร่รัฐธรรมนูญทางหนังสือพิมพ์ 6 ฉบับ


กรมประชาสัมพันธ์ -  กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทบทวนร่างรัฐธรรมนูญครั้งสุดท้ายก่อนส่งพิมพ์เผยแพร่ โดยอนุมัติงบประมาณ 5 ล้านบาทในการจัดพิมพ์เผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ 6 ฉบับเป็นเวลา 5 วัน



การประชุมกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญวันนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อทบทวนและแก้ไขถ้อยคำให้เหมาะสมทั้ง 299 มาตรา และได้จัดทำตารางการทำงงานของคณะกรรมาธิการในระยะต่อไป ก่อนที่จะจัดพิมพ์ร่างแรก และส่งมอบให้ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะมีพิธีส่งมอบอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 เมษายนนี้ ซึ่งจะมีนายกรัฐมนตรี และประธาน คมช. เป็นสักขีพยานด้วย ส่วนงบประมาณที่จะให้บริษัทเอกชนจัดพิธีส่งมอบจำนวน 6 แสนบาทนั้น นาวาอากาศตรีประสงค์ เห็นว่า เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ ซึ่งอาจมีข้อครหาได้จึงไม่อนุมัติเงินงบประมาณ 6 แสนบาทในการจัดงานดังกล่าวที่จะจัดขึ้นเพียงชั่วโมงเดียว อีกทั้งเชื่อว่าจะไม่สามารถทำให้ประชาชนรู้จักรัฐธรรมนูญมากขึ้นได้ จึงให้ประสานใช้สื่อของรัฐที่มีอยู่ คือ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เป็นแม่ข่ายในการเผยแพร่ในวันที่ 26 เมษายนจะดีกว่า


 



ส่วนการเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปก็จะใช้งบประมาณ 5 ล้านบาทในการจัดพิมพ์ทางหน้าหนังสือพิมพ์ 6 ฉบับ ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าและเข้าถึงประชาชนได้ทั่วถึงเป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน คือ ระหว่างวันที่ 20 - 24 เมษายน และจัดพิมพ์แจกจ่ายไปยังประชาชนทั่วไป รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ จำนวน 1 ล้านชุด โดยจะแจกจ่ายไปตามจังหวัดต่างๆ จังหวัดละ 1 หมื่นชุด ในวันที่ 26 เมษายน ทั้งนี้ยืนยันว่า กระบวนการทุกขั้นตอนจะเสร็จสิ้นตามกรอบ 180 วันที่กำหนดไว้ คือภายในวันที่ 6 ก.ค. ก่อนจะทำประชาพิจารณ์ต่อไป


 



มท.เตรียมย้ายผู้ว่าฯไม่สนองงานรัฐบาล- คมช.


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น -  แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเสนอบัญชีรายชื่อโยกย้ายข้าราชการ เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในวันพุธที่ 18 เมษายน โดยจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด และ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่ภาคอิสาน จำนวน 7- 8 ตำแหน่ง โดยจะมีการย้ายผู้ว่าฯ เข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 2 ตำแหน่ง และ โยกย้ายผู้ตรวจราชการจังหวัดออกไปเป็นผู้ว่าฯ


 


ข่าวแจ้งว่า ในการโยกย้ายครั้งนี้ เป็นการย้ายเด็กในกลุ่มอำนาจเก่า ที่ได้รับการแต่งตั้งสมัยที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิชย์ เพราะไม่สนองงานรัฐบาล และ คมช. ปล่อยให้มีคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เขตอีสานใต้ เช่น สุรินทร์ ศรีษะเกษ หนองคาย บุรีรัมย์


 


กลุ่มข้าแผ่นดินฯ เตรียมชุมนุมค้านอัยการคดีทักษิณหมิ่นเบื้องสูง


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น  -  ตัวแทนกลุ่มข้าแผ่นดินผู้จงรักภักดี ที่ประกอบด้วยบุคคลในวงสังคมชั้นสูง และประชาชนทั่วไปได้เปิดเผยว่า ในเวลาประมาณบ่ายโมงวันพรุ่งนี้ ทางกลุ่มจะมีการจัดชุมนุมที่บริเวณหน้าสำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการคัดค้านคำวินิจฉัยของนายเสริมเกียรติ วรดิษฐ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กรณีที่ไม่สั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ....


         


อัยการพร้อมแจงไม่ฟ้อง"ทักษิณ"หมิ่นเบื้องสูง


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณี ที่กลุ่มราชนิกูล จะเดินทางเข้าประท้วงอัยการในวันพรุ่งนี้ เวลา 13.00 น. ที่ อัยการสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า ที่ผ่านมานายเสริมเกียรติ วรดิษฐ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ได้ให้เหตุผลในการสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วว่า แม้คำพูดของอดีตนายกฯ จะเป็นการไม่เหมาะสม ซึ่งหมิ่นเหม่ และอาจเข้าข่าย การหมิ่นสถาบันกษัตริย์ แต่ ก็ไม่ปรากฎหลักฐานว่าอดีตนายกฯ มีเจตนา จะอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ ที่จะเข้าองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายได้ ดังนั้น อัยการจึงได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรี ตามสำนวนของพนักงานสอบสวน ที่ได้มีความเห็นในครั้งแรกมาก่อนแล้วว่า สมควรสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ


         


อย่างไรก็ดี หากมีกลุ่มประชาชนฝ่ายใดต้องการทราบคำตอบจากอัยการในการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว อัยการก็พร้อมจะให้เข้าพบ และให้คำตอบ เพราะเมื่อมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องแล้ว อัยการต้องมีเหตุผล ชี้แจงให้สังคมรับทราบได้อย่างแน่นอน สำหรับการสั่งคดี ขณะนี้ขบวนการถือว่ายังไม่สิ้นสุด ตามขั้นตอน เพราะขณะนี้อัยการได้ส่งสำนวน พร้อมความเห็น กลับให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร.พิจารณาว่าจะทำความเห็นแย้งหรือไม่ ซึ่งตามขั้นตอน หาก ผบ.ตร.จะทำความเห็นแย้งแล้ว ก็จะต้องาส่งสำนวนให้นาย พชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด พิจารณาชี้ขาด ว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องอย่างไรต่อไป


 


ทรท.ปูดคมช.เคลียร์คดีแม้วแลกตัดท่อน้ำเลี้ยง


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - แหล่งข่าวจากพรรคไทยรักไทยเปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 12 - 17 เมษายน ที่ผ่านมาบุคคลสำคัญในสภานิติบัญญัติแห่งชาติและคมช.อันได้แก่ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานสนช. , นายวิษณุ เครืองาม , นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ และพล.อ.วินัย ภัททิยะกุล เลขาฯคมช.ได้เดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมีกำหนดการบางช่วงเป็นการนัดหมายพบปะกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งบินมาจากลอนดอนเพื่อรอพบ โดยสาระสำคัญในการพบปะหารือนั้น เป็นการคุยเรื่องคดีทุจริตที่รัฐบาลไทยรักไทยโดยเฉพาะตัวพ.ต.ท.ทักษิณกำลังถูกคตส.ตรวจสอบอยู่หลายคดี โดยมีแนวโน้มว่าตัวแทนคมช.ทั้ง 4 คนนี้จะเจรจาต่อรองกับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยขอให้พ.ต.ท.ทักษิณตัดท่อน้ำเลี้ยงกับกลุ่มม็อบซึ่งสังคมเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณให้การสนับสนุนและอยู่เบื้องหลัง โดยจะแลกกับการไม่ดำเนินคดีในคดีทุจริตที่คตส.กำลังดำเนินการอยู่


 


อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังคณะผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วยผู้หนึ่ง ได้รับการชี้แจงว่าคณะซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มบุคคลดังกล่าว รวมถึงสมาชิกสนช.อีกบางส่วนได้เดินทางไปจริง แต่เป็นการไปดูงาน และได้มีโอกาสพบกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระหว่างการดูโอเปร่าที่โรงละครลิโด ซึ่งได้มีการทักทายกันตามปกติ แต่ไม่ได้พบกับพ.ต.ท.ทักษิณแต่อย่างใด และยืนยันว่าทางคณะก็ไม่มีใครบินไปอังกฤษเพื่อพบกับพ.ต.ท.ทักษิณด้วย


         


"นึกแล้วเชียวว่าการได้พบกับท่านสมชายที่โน่น จะต้องมีการปล่อยข่าวว่ามีการต่อรองทางการเมืองเกิดขึ้นจนได้ แต่ขอยืนยันว่าไม่มี เพราะการเมืองเดินทางมาถึงตอนนี้มันเป็นสองขั้วอย่างชัดเจน การจะยอมความกันนั้นคงเป็นไปไม่ได้" หนึ่งในคณะผู้ร่วมเดินทางกล่าว


         


เช่นเดียวกับหนึ่งในทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ได้แสดงความเห็นภายหลังทราบข่าวที่ว่านี้ว่า ตนไม่เชื่อว่าคมช.จะสั่งการให้ไปคุยกันในลักษณะเคลียร์คดีต่างๆ เพราะถ้าทำอย่างนั้นจะเสียหายมาก เพราะคตส.เดินมาไกลมากแล้ว ถ้าทำเช่นนั้นเท่ากับมวยล้ม ซึ่งประธานคมช.ไม่ทำแน่ๆ


 


สนช.เตรียมถกญัตติจัดการม็อบล่าชื่อปลด "พล.อ.เปรม"


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติวันที่ 19 เมษายน มีการบรรจุวาระพิจารณาญัตติกรณีดำเนินการกับผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ผิดกฎหมาย และมาตรการป้องกันไม่ให้มีการกระทำหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่นายสำราญ รอดเพชร สนช.และคณะเสนอ โดยให้เหตุผลว่าขณะนี้มีบุคคลบางกลุ่มเคลื่อนไหวล่ารายชื่อถวายฎีกาปลดประธานองคมนตรีผ่านทางเวบไซต์ ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญถือเป็นพระราชอำนาจตามพระราชอัธยาศัย จึงเห็นว่าเป็นการไม่บังควรอย่างยิ่ง ส่อไปในทางที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้ โดยเฉพาะการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง แสดงให้เห็นชัดเจนถึงพฤติการณ์ลบหลู่สถาบันที่สำคัญของชาติ รวมทั้งกองทัพ


         


และบุคคลกลุ่มนี้ต้องงการยั่วยุรัฐบาลให้ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม เพื่อให้เกิดสถานการณ์บานปลายที่ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล คมช. ผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวม อันเป็นการชุมนุมที่มีลักษณะทำผิดต่อกฎหมาย ความไม่สงบเรียบร้อย แม้รัฐบาลและฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะพยายามแก้ไข แต่สถานการณ์โดยรวมยังไม่ดีขึ้น และสังคมยังหวั่นวิตกเกรงสถานการณ์จะพัฒนาไปในทางที่ไม่สงบเรียบร้อย จึงเห็นสมควรพิจารณาข้อเท็จจริง และหามาตรการป้องกัน ให้มีการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามหลักนิติธรรมโดยเคร่งครัดและเสมอภาค เท่าเทียมกันเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์มิให้ใครบังอาจล่วงละเมิดได้


 


สุริยะใส ชี้ควรต่ออายุ คตส. เพียง 3 เดือน


กระแสหุ้นออนไลน์ -  นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ให้ความเห็นกรณีการออกกฎหมายต่ออายุให้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ว่า ขณะนี้แม้คณะกรรมการคตส.เองก็ยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าคตส.ควรออกมาพูดให้ชัดเจนว่าจะปฏิบัติภารกิจให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี และไม่ควรปล่อยข่าวหรือให้ข่าวในลักษณะเกิดการท้อแท้ในการทำหน้าที่ อย่างไรก็ตามหากมีการต่ออายุให้คตส.จริงก็ควรให้มีการต่ออายุเพียง 3 เดือนหรือภายในรัฐบาลชั่วคราวเท่านั้น


 


"ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในคตส. แต่อย่าทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องทางการเมือง ถ้าจะมีการต่ออายุจริงก็อาจต่อไปอีก 3 เดือน ซึ่งเมื่อมีรัฐธรรมนูญใหม่และมีรัฐบาลใหม่แล้วก็ต้องให้องค์กรที่ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ต่อไป" นายสุริยะใส กล่าว


 


เลขาครป.เตรียมชำแหละร่างรธน.กรอบแรก


กระแสหุ้นออนไลน์ -  ระหว่างที่ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกแล้วเสร็จและกรรมาธิการเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนเสนอต่อสภาร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 26 เม.ย.นี้ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) แถลงข่าววันนี้ (17เม.ย.) โดยวิเคราะห์ร่างรธน.ฉบับดังกล่าว เห็นว่า ประเด็นที่มีการเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งมาใช้แบบแบ่งเขตเรียงเบอร์และให้มีระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนเพื่อเลือกผู้แทนระดับภาค จะเป็นการทำลายหลักความเสมอภาคในสิทธิของประชาชน ดังนั้นจึงเสนอให้กลับไปใช้ระบบการเลือกตั้งแบบเดิมคือเขตเดียวเบอร์เดียวและระบบบัญชีรายชื่อทั่วประเทศ พร้อมกับเห็นว่าควรให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้งแบบเดิมเพื่อป้องกันการแทรกแซงของฝ่ายการเมืองและระบบอุปถัมภ์ ขณะที่หากจะลดอัตราส่วนส.ส.และสว.ก็สามารถทำได้


 


 






 


ผู้จัดการ "การเมือง"


 


 


ปธ.คมช.ปฏิเสธหารือนายกฯ ถึงการปรับ ครม.


ผู้จัดการออนไลน์ - พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ยอมรับว่า วานนี้ได้ร่วมเล่นกอล์ฟกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้หารือถึงการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด ส่วนข่าวที่ระบุว่าอาจจะมีการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงเพื่อทำหน้าที่ประสานการทำงานระหว่างกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทยนั้น เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เนื่องจากในปัจจุบันได้มีการประสานการทำงานอยู่อย่างใกล้ชิดแล้ว แต่หากจะมีการแต่งตั้งเพื่อดูแลงานด้านความมั่นคง ก็ถือเป็นเรื่องดี เพื่อที่จะได้ทำหน้าที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน


         


ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้านพักย่านลาดกระบัง ตั้งแต่ในช่วงเช้า ก่อนที่ในช่วงเที่ยงจะเดินทางออกจากบ้านพักเพื่อไปทำธุระส่วนตัว โดยขอให้สื่อมวลชนไม่ต้องติดตามทำข่าวในวันนี้


 


"ป๋าเสนาะ-เสธ.หนั่น-บรรหาร" เห็นพ้องร่าง รธน.ยังมีจุดบกพร่อง


ผู้จัดการออนไลน์ - นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน และนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ระหว่างงานสงกรานต์ที่ จ.ปราจีนบุรี ว่ายังมีจุดบกพร่อง โดยเฉพาะการลดจำนวน และระบบ ส.ส. ซึ่งนายเสนาะ สรุปว่า ประชาชนอาจไม่ให้ผ่านประชามติ


 


"คำนูณ"แนะนายกฯ ปรับวิธีคิดดีกว่าปรับ ครม. - แฉค่าหัวจ้างม็อบป่วนกรุง


ผู้จัดการออนไลน์ -  "ยามเฝ้าแผ่นดิน"โฉมใหม่ "คำนูณ-ปานเทพ-สโรชา"ร่วมวิเคราะห์เหตุการณ์รายวัน เชื่อรัฐบาลขิงแก่ชิงปรับ ครม.ลดภาวะตึงเครียดทางการเมืองไม่ได้ผล แนะนายกฯ ปรับวิธีคิด-การทำงานจะดีกว่า จวก "สุรยุทธ์"เปรียบตัวเองเป็นพระแล้วเปิดโอกาสให้โจรกลับใจ เป็นการยกตัวอย่างที่อันตราย พร้อมแฉขบวนการจ้างม็อบรากหญ้าเข้าป่วนกรุงหัวละ 300 -500-1,000 คาดระดมได้ถึง 3 หมื่นแน่


 


ลือสะพัด "ยุทธตู้เย็น" คืนถิ่น/น้องสาวโต้-ยันพี่อยู่สหรัฐฯ


ผู้จัดการออนไลน์ -  ผบ.ฉก.ทหารพราน 31 เชียงราย ดอดเข้าบ้านพัก "ยงยุทธ ติยะไพรัช" พบแต่น้องสาว ระบุ พบปะกันธรรมดาฐานะคนบ้านเดียวกันตามประเพณีปี๋ใหม่เมือง โต้ข่าวลือ "ยุทธ ตู้เย็น" เคลื่อนไหวอยู่ตามแนวชายแดนยืนยันยังอยู่สหรัฐฯ


         


เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (17 เม.ย.) พ.อ.บรรณวัฒน์ พรหมจรรย์ ผบ.ฉก.ทหารพราน 31 จ.เชียงราย และคณะ ราว 5 นาย ในชุดนอกเครื่องแบบ ได้เดินทางไปที่บ้านพักของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต.สันทราย อ.แม่จัน จ.เชียงราย ติดถนนสาย อ.แม่จัน-เชียงแสน


 


ในบ้านพบว่า มี น.ส.ละออง ติยะไพรัช อดีต ส.ส.เชียงราย เขต 6 พรรคไทยรักไทย และน้องสาวนายยงยุทธ รอพบอยู่ในบ้าน ซึ่งเบื้องต้นทั้งหมด กล่าวว่า เป็นการพบปะกันปกติ และขอไม่ให้มีการถ่ายภาพ ซึ่งมีการพูดคุยกันนานราว 1 ชั่วโมง คณะของ พ.อ.บรรณวัฒน์ จึงมอบของที่ระลึกให้กับ น.ส.ละออง ก่อนจะเดินทางกลับ และกล่าวสั้นๆ ว่า จะเดินทางไปเปิดงานที่ กิ่วสะไต อ.แม่จัน จึงผ่านมาแวะที่บ้านดังกล่าว เพื่ออวยพรตามประเพณีสงกรานต์ หรือปี๋ใหม่เมือง ในฐานะที่ตนเองเป็นคนเมือง จ.ลำพูน และรู้จักกันกับครอบครัวนี้เท่านั้น


 


น.ส.ละออง ติยะไพรัช อดีต ส.ส.เชียงราย เขต 6 น้องสาวนายยงยุทธ กล่าวว่า ช่วงนี้ไม่ไม่ได้ทำกิจกรรมการเมืองใดๆ และนายยงยุทธ ติยะไพรัช พี่ชายของตน อยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ได้อยู่ตามแนวชายแดน จ.เชียงราย ตามที่มีข่าวลือ ซึ่งไม่อยากให้ลงข่าวคลาดเคลื่อน จะทำให้ครอบครัวตนเองเสียหายและเดือดร้อนได้


 


"สุริยะใส" ชี้ การเมืองหลังสงกรานต์จะเป็นสงครามมวลชนสมบูรณ์แบบ


ผู้จัดการออนไลน์ - นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการณรงค์เพื่อประชาธิปไตย หรือ ครป. กล่าวว่า ครป.ได้วิเคระห์การเมืองหลังสงกรานต์ว่าจะเป็นสงครามมวลชนสมบูรณ์แบบ โดยจะมีเคลื่อนไหวกลุ่มพลังมวลชน 4 กลุ่มหลัก ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มอำนาจเก่า กลุ่มที่วางตัวเป็นกลาง และกลุ่มที่ไม่เอาระบบทักษิณและต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งเงื่อนไขของแต่ละกลุ่มได้เดินทางมาถึงจุดแตกหักแล้ว ทั้งประเด็นการตรวจสอบการทุจริตคดียุบพรรค การสร้างรัฐธรรมนูญ และการสืบทอดอำนาจ อย่างไรก็ตาม ทางรอดของปัญหานี้รัฐบาลจะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ พร้อมกับปรับยุทธศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน


          


เลขาธิการ ครป.ยังกล่าวด้วยว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมเดินสายอภิปรายของ 5 แกนนำ ซึ่งจะเริ่มต้นที่ภาคตะวันออก คือ จังหวัดระยอง


 


กกต.ขู่นักการเมืองขวางประชามติ รธน.ถูกตัดสิทธิ 5 ปี


ผู้จัดการออนไลน์ -  กกต.ขู่ผู้บริหารพรรคการเมืองอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องปลุกม็อบก่อความวุ่นวาน ขัดขวางการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ


 


 


 


 






ความมั่นคง


 


ครอบครัวเหยื่อกรือเซะ พอใจ การเยียวยาจากภาครัฐ


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค -  การเยียวยาครอบครัวเหยื่อกรือเซะ 19 ราย  นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่าการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์กรือเซะเมื่อเดือนเมษายน 2547 ว่า หลังจากกระทรวงยุติธรรมได้เชิญครอบครัวเหยื่อมาพูดคุยร่วมกับคณะกรรมการกลางอิสลาม จ.สงขลา พบว่าการช่วยเหลือต่าง ๆ ที่ได้รับทำให้ครอบครัวเหยื่อพึงพอใจ โดยมีการให้ทุนการศึกษาสมาชิกในครอบครัวที่เรียนในระดับมัธยม 10,000 บาทต่อปี และค่าเล่าเรียนระดับประถม 6,000 บาทต่อปี


 


สำหรับความคืบหน้าของคดี การไต่สวนการตาย แต่ละครอบครัวก็พึงพอใจกับกระบวนการตรวจสอบในขั้นตอนของศาล โดยได้แจ้งความประสงค์ขอให้รัฐช่วยเหลือส่งสมาชิกครอบครัวเหยื่อ ครอบครัวละ 1 คน ให้ได้มีโอกาสไปร่วมพิธีฮัจญ์ในปลายปี 2550 นี้ เพราะถือเป็นการทำบุญและช่วยให้ญาติได้ขึ้นสวรรค์ตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม โดยรัฐจะดูแลค่าใช้จ่ายพร้อมที่พักตลอดการเดินทาง เป็นแพ็กเกจ 120,000 บาทต่อคน


 


ส่วนกรณีปัญหาอื่นในพื้นที่ภาคใต้ เช่น กรณีกลุ่มคนร้ายเข้าซุ่มยิงโรงเรียนปอเนาะที่สะบ้าย้อย กระทรวงยุติธรรมได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าพบปะหารือกับเจ้าของโรงเรียนและชุมชน และได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านแล้วว่า ขั้นตอนดำเนินการจับตัวคนร้ายจำเป็นต้องมีพยานหลักฐานและผู้เห็นเหตุการณ์


 


สำหรับการปรับทิศทางการทำงานยุติธรรมชุมชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายชาญเชาวน์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมกำลังเร่งปรับการทำงานของยุติธรรมชุมชนให้ตอบสนองนโยบายรัฐบาล โดยหลังจากนี้งานยุติธรรมชุมชนจะต้องสร้างพลังมวลชนได้จริง ไม่ใช่แค่งานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเท่านั้น ซึ่งงบประมาณกว่าครึ่งของกระทรวงยุติธรรมที่จะผลักดันลงไปในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะมุ่งเน้นให้กับงานพัฒนาเยาวชน รวมถึงมีโครงการนำร่องให้กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเข้าไปให้บริการบำบัดยาเสพติดแบบสมัครใจ


 


จัดพิมพ์พจนานุกรมมลายู-ไทย-มาเลเซียเชื่อดับไฟใต้ระยะยาว


เว็บไซต์คมชัดลึก - สกว.จับมือ ม.มหิดล-ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และนักวิจัยท้องถิ่น จัดทำพจนานุกรมภาษามลายูปาตานี-ไทย-มาเลเซีย พัฒนาระบบเขียนภาษามลายูปาตานีโดยใช้อักษรไทยและอักษรยาวี จัดการศึกษาระบบ 2 ภาษา



 


 


 






เศรษฐกิจ


 


ญี่ปุ่น - อาเซียน เริ่มเปิดเจรจาเอฟทีเอ รอบที่ 7 ระหว่างกันแล้ว


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค  - ความคืบหน้าการเปิดเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ) ระหว่างญี่ปุ่น กับสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น แถลงว่า เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศ การคลัง และการเกษตร ของทั้งญี่ปุ่น และ 10 ชาติสมาชิกอาเซียน ได้เริ่มเปิดเจรจาเอฟทีเอ รอบที่ 7 ระหว่างกันแล้วโดยการหารือจะมีขึ้นเป็นเวลา 2 วัน  เพื่อพยายามบรรลุข้อตกลงเอฟทีเอ ให้ได้ภายในปีนี้ โดยเนื้อหาสาระจะเน้นไปที่ข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างกัน


 


เจ้าหน้าที่กระทรวงการค้าญี่ปุ่น กล่าวว่า การทำข้อตกลงการค้ากับอาเซียนนับเป็นสิ่งสำคัญ และการเจรจากำลังอยู่ในขั้นสุดท้าย ก่อนมีการตกลงขั้นพื้นฐาน


 


ประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของผู้ผลิตในญี่ปุ่น เช่น ผู้ผลิตรถยนต์ และผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ญี่ปุ่นกำลังพยายามหาทางทำข้อตกลงการค้าในระดับทวิภาคี ขณะที่การเจรจาการค้าโลกประสบภาวะชะงักงัน เมื่อต้นเดือนนี้ ญี่ปุ่นได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีกับไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์แล้ว


 


ก.คลัง เตรียมหารือ 5 กระทรวงพรุ่งนี้ เร่งรัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - กระทรวงการคลัง เรียกผู้แทนธนาคารเฉพาะกิจ และอีก 5 กระทรวง ในวันพรุ่งนี้(18 เม.ย) เพื่อหารือกำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2550  นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า การหารือครั้งนี้ เกี่ยวกับแนวทางการช่วยเหลือประชาชนในทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เพื่อกำหนดเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2550 เมื่อได้แนวทางที่ชัดเจนจะเสนอให้นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจส่วนรวม พิจารณาต่อไป


         


โดย สศค. เห็นว่า การใช้นโยบายขาดดุลของรัฐบาล การเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ การเร่งรัดให้ธนาคารเฉพาะกิจขยายสินเชื่อรากแก้วและเอสเอ็มอีให้มากขึ้น รวมทั้งการลดดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.50 ยังไม่พอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวตามเป้าหมายที่ร้อยละ 4.5 ได้


         


ดังนั้น กระทรวงการคลังต้องเร่งประสานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ว่าจะมีแนวทางสนับสนุนได้อย่างไร ทั้งกระทรวงแรงงานฯ และกระทรวงเกษตรฯ ที่เกี่ยวข้องกับรากแก้วโดยตรง หรือกระทรวงมหาดไทย ที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณส่วนท้องถิ่นที่รัฐบาลจัดสรรให้ จะมีแนวทางขับเคลื่อนให้เงินงบประมาณลงไปสู่ท้องถิ่นโดยเร็วอย่างไร รวมถึงการนำเงินนอกงบประมาณออกมาสนับสนุนให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม


         


สำหรับมาตรการอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการปรับลดภาษีธุรกิจเฉพาะร้อยละ 3.3 การลดค่าธรรมเนียมการโอน และค่าธรรมเนียมการจดจำนอง กระทรวงการคลังได้พิจารณาให้เป็นการชั่วคราว ตามความจำเป็นและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ในขณะนี้สิ่งแวดล้อมได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ธปท. ก็จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจได้อย่างดีแล้ว


 


 


 






ต่างประเทศ


 


อเมริกาผวาหนัก!!มือดีขู่บึ้ม 3 มหา'ลัย หลังเหตุยิงกราดแค่วันเดียว


ผู้จัดการออนไลน์ /ซีเอ็นเอ็น - สหรัฐฯ ตกอยู่ในอาการขวัญผวาอย่างหนัก มือดีขู่วางระเบิด 3 มหาวิทยาลัยในมลรัฐเท็กซัส โอคลาโฮมา และเทนเนสซี เมื่อวันอังคาร(17) หลังเพิ่งเกิดเหตุน่าสลดนักศึกษาควงปืนยิงกราดในมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เทค ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 33 รายเพียงวันเดียว


         


นักวิชาการญี่ปุ่นแฉหลักฐานยืนยัน กองทัพซามูไรบังคับสตรี'ทาสกาม'


ผู้จัดการออนไลน์ / เอเอฟพี - นักประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแถลง พบหลักฐานใหม่หลายชิ้นจากเอกสารสอบสวนอาชญากรรมสงครามของญี่ปุ่นภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า กองทัพซามูไรเป็นผู้บังคับโดยตรง ให้หญิงเอเชียต้องตกเป็นทาสบำเรอกามทหารของตน นอกจากนั้นพวกเขายังได้ออกมาเรียกร้องเมื่อวันอังคาร(17)ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นควรชดใช้ให้แก่สตรีเคราะห์ร้ายเหล่านี้ที่มีจำนวนนับแสนคน


 


คาดจีนขึ้นเป็นผู้นำเข้าถ่านหินรายใหญ่ที่สุด


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค -  นายเฟง เฟ ประธานภาคอุตสาหกรรมของสภาศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งชาติจีนกล่าวระหว่างการเข้าร่วมประชุมอุตสาหกรรมว่า จีนคาดว่าจะก้าวเป็นผู้นำเข้าถ่านหินรายใหญ่ที่สุดภายใน 1-2 ปีข้างหน้า  โดยเมื่อปี 2549 จีนสามารถส่งออกถ่านหินที่ระดับ 62 ล้านตัน ปรับตัวลดลงร้อยละ  13 เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่ยอดการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ร้อยละ 46.1 แตะ 38.25 ล้านตัน  อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เหตุผลสำหรับการส่งออกที่ลดลงและการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น แต่กล่าวเสริมเพียงว่า มูลค่าการผลิตถ่านหินคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 50-70 หยวนต่อตันในปีหน้า เนื่องจากการกวดขันด้านนโยบายในการปกป้องสภาพแวดล้อมและความต้องการด้านความปลอดภัยที่สูงขึ้น


 


อดีตนายกฯบังคลาเทศจะถูกเนรเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวลูกชาย


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองในบังคลาเทศที่ยังคงตึงเครียด เนื่องจากรัฐบาลรักษาการที่มีทหารหนุนหลังอยู่ ได้ดำเนินการกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่มาตั้งแต่เดือนที่แล้ว ซึ่งมีผู้ถูกควบคุมตัวไปแล้วถึง 160 คนและมีบุตรชายทั้ง 2 คนของอดีตนายกรัฐมนตรีคาเลด้า เซีย รวมอยู่ด้วย สื่อในบังคลาเทศส่วนใหญ่ รายงานว่า รัฐบาลได้ใช้อำนาจในช่วงภาวะฉุกเฉิน เนรเทศอดีตนายกรัฐมนตรีคาเลด้า เซีย ออกนอกประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัว นายอารัต เราะห์มาน ลูกชายของอดีตนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งถูกจับกุม โดยอดีตนายกรัฐมนตรีคาเลด้า เซีย จะถูกเนรเทศไปซาอุดิอาระเบียภายใน 2 ถึง 3 วันข้างหน้า ซึ่งในช่วง 1 เดือนแรกจะเป็นการไปชั่วคราวเพื่อแสวงบุญและหาที่พักถาวร


        


ด้านหนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาลบังคลาเทศว่า ได้มีการแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ทางการซาอุดิอาระเบียทราบผ่านทางสถานทูตแล้ว ล่าสุดยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆจาก อดีตนายกรัฐมนตรีคาเลด้า เซีย ต่อรายงานดังกล่าว ทั้งนี้ มีการคาดว่าการกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ของรัฐบาลบังคลาเทศอาจดำเนินต่อไปจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนธันวาคมปี         


 


'ปารีส'แจ้งแผน'กออิดะห์'แก่USก่อน11กย.


ผู้จัดการ/ รอยเตอร์ - หน่วยสืบราชการลับฝรั่งเศสได้จัดทำรายงานออกมาทั้งสิ้น 9 ฉบับ ช่วงระหว่างเดือนกันยายน 2000 ถึงสิงหาคม 2001 ในเรื่องภัยคุกคามต่อสหรัฐฯของเครือข่ายอัลกออิดะห์ รวมทั้งทราบด้วยว่าอัลกออิดะห์มีการวางแผนจี้เครื่องบินโดยสาร ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เลอมงด์ ฉบับวันจันทร์(16)


 


 


  






สังคม- สิ่งแวดล้อม


 


 


"ปิยะบุตร"ชี้โรงงานมาบตาพุดใช้7.2พันล้านลดปัญหามลพิษ


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - "ปิยะบุตร"เผยโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ต้องลงทุนลดระดับการปล่อยไนโตรเจนไดออกไซด์และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ 7,200 ล้านบาท


 


นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหามลพิษในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยองว่า การแก้ไขมลพิษต้องดำเนินการอย่างจริงจัง การทำงานให้มีการประสานงานกันระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงานและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องมีธรรมาภิบาล 4 ข้อ คือ โรงงานทุกแห่งต้องมีข้อมูล ต้องเปิดเผยข้อมูล ต้องเข้าไปตรวจสอบให้ชุมชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและต้องให้โรงงานอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างสันติ


         


จากการสำรวจพบว่า มีโรงงานใหญ่ ๆ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่ต้องลดระดับการปล่อยไนโตรเจนไดออกไซด์ ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท ต้องลงทุนเพื่อลดระดับการปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์อีกกว่า 3,000 ล้านบาท จึงต้องใช้เงินลงทุนในการแก้ไขปัญหาเพื่อลดระดับมลพิษรวมประมาณ 7,200 ล้านบาท สำหรับโรงงานที่จะต้องลงทุนเพื่อลดระดับการปล่อยมลพิษส่วนใหญ่เป็นโรงแยกแก๊ส โรงไฟฟ้าและโรงกลั่นน้ำมันของ บมจ.ปตท และ บมจ.ไออาร์พีซี


         


ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดภาระให้กับโรงงานที่ต้องลงทุนในการลดระดับการปล่อยมลพิษมากถึง 7,200 ล้านบาท คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จึงให้สิทธิพิเศษ หากเป็นโรงงานเดิม เมื่อมีการนำเข้าอุปกรณ์ในการลดระดับมลพิษจะลดภาษีนำเข้าให้ 70% เป็นเวลานาน 3 ปี ส่วนโรงงานทั่วไปทั่วประเทศ จากการหารือกับกระทรวงการคลังจะลดหย่อนภาษีให้ 2 เท่าของวงเงินที่ได้ลงทุนเพื่อเป็นแรงจูงใจ


 


คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เตรียมถก ปัญหาโลกร้อน


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เตรียมเปิดการหารือเกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งจะนับเป็นครั้งแรก เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าปัญหานี้กำลังถูกมองว่า เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของโลกมากขึ้นทุกขณะ  โดยการหารือมีขึ้นตามการริเริ่มของอังกฤษ ซึ่งเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงในเดือนนี้ก็คือ พลังงาน ความมั่นคง และสภาพอากาศ  เจ้าหน้าที่อังกฤษกล่าวว่า การผลักดันให้มีการหารือในประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสมาชิกสำคัญหลายประเทศ เช่น สหรัฐ รัสเซีย และจีน ต่างเห็นว่า คณะมนตรีความมั่นคงไม่ใช่เวทีที่เหมาะสมสำหรับการหารือประเด็นภาวะโลกร้อน


         


แต่จากรายงานที่เปิดเผยโดยคณะนายทหารนอกราชการของสหรัฐ ระบุเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก อาจส่งผลคุกคามต่อทั้งชาวอเมริกัน การปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐ และทำให้สถานการณ์โลกตึงเครียดหนักขึ้น ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นหนึ่งในปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ โดยจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านภูมิรัฐศาสตร์ และกระทบต่อปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐทั่วโลก


 


สรุปสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วันอันตรายระหว่างวันที่ 11 - 16 เมษายน 2550


กรมประชาสัมพันธ์ - สรุปสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วันอันตรายระหว่างวันที่ 11 - 16 เมษายน 2550


 



ที่จังหวัดนครนายก  ประชาชนและนักท่องเที่ยวในจังหวัดนครนายกเดินทางกลับหลังจากเทศกาลสงกรานต์กันเป็นจำนวนมาก  ที่สถานีขนส่งจังหวัดนครนายกมีประชาชนจำนวนมากมารอขึ้นที่จะเดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ  หลังจากหยุดพักผ่อนมาหลายวันในช่วงเทศกาลสงกรานต์


 



สำหรับสถานการณ์การเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ  ของประชาชนและนัก      ท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางกลับเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ  หลังจากเที่ยวสงกรานต์ทำให้สถานี      ขนส่งเต็มไปด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยวที่รอรถเพื่อเดินทางกลับเข้าทำงานที่กรุงเทพฯ และทางสถานีขนส่งได้จัดรถเสริมเพื่อรอรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเดินทาง  และสำหรับศูนย์ป้องกันอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดนครนายก  ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์จังหวัดนครนายก  ได้สรุปการเกิดอุบัติเหตุในจังหวัดนครนายกตั้งแต่วันที่ 11 - 16  เมษายน  2550  มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้ว รวม 27  ครั้ง      มีผู้บาดเจ็บ  รวม  29  ราย  มีผู้เสียชีวิต จำนวน  4 คน  ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกดจากการเมาสุราและขับรถเร็วกว่ากฏหมายกำหนดส่วนใหญ่รถที่เกิดอุบัติเหตุมาที่สุดคือรถมอเตอร์ไซค์ อย่างไรก็ตามทางจังหวัดนครนายกได้จัดให้มีการตั้งจุดตรวจบนถนนทั้งสายหลัก สายรอง  จำนวน  12 จุด  ซึ่งได้ดำเนินการเรียกตรวจวัดแอลกอฮอล์   จำนวน  12,035  ครั้ง  พบผู้มีแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดและส่งดำเนินคดี  จำนวน 24  ราย  โดยปฏิบัติงานเคร่งครัดโดยเฉพาะ  มาตรการ 321 ร มีการเรียกตรวจวัดแอลกอฮอล์ประชาชนที่เป็นผู้ขับขี่ที่สงสัยว่าดื่มสุราทุกราย  นอกจากนั้นสำนักงานขนส่งจังหวัดนครนายก  ยังได้เข้มงวดและเรียกตรวจรถประจำทาง  รวมทั้งตรวจวัดแอลกอฮอล์พนักงานขับรถโดยสารที่ผ่านเข้าออก  สถานีขนส่งจังหวัดนครนายกทุกราย     เพื่อป้องกันการเสพสุราของพนักงานขับรถโดยสารด้วย


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net