Skip to main content
sharethis


ที่มาของภาพ : เว็บไซต์สถาบันข่าวอิศรา


 


ประชาไท - 1 มิ.ย. 50 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 พ.ค. 50 ศูนย์ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนกว่า 3,000 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาชายและกลุ่มผู้หญิงจากที่ต่างๆ เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี และสำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังตำรวจ ทหาร ทหารพรานหญิงหลายร้อยนาย เตรียมรับสถานการณ์อยู่ตรงบริเวณรอบนอก พร้อมกับตั้งด่านตรวจค้นรถจักรยานยนต์ รถยนต์ ที่จะเข้าสู่ตัวเมืองปัตตานี และตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ


 


ต่อมา เวลาประมาณ  13.00  น. วันเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวภายในมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี พร้อมกับติดป้ายผ้าที่เขียนข้อความต่างๆ ที่แสดงเหตุผลและวัตถุประสงค์ของการชุมนุม พร้อมกับแจกเอกสารแถลงเจตนารมณ์การชุมนุมครั้งนี้ว่า เครือข่ายนักศึกษาและประชาชนมองเห็นถึงความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการกำหนดนโยบายและการบังคับใช้กฎหมายที่แข็งกร้าวของรัฐบาล ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรังแกประชาชน เช่น การใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถกลั่นแกล้งประชาชน โดยการจับกุมผู้บริสุทธิ์เพื่อสร้างผลงาน


 




ที่มาของภาพ : เว็บไซต์สถาบันข่าวอิศรา


 


ในเอกสารดังกล่าวยังระบุว่า การประกาศเคอร์ฟิวส์ เป็นการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่สร้างสถานการณ์ความรุนแรงได้ง่ายขึ้น เช่น การกราดยิงประชาชนในมัสยิด ปอเนาะ ร้านน้ำชา และบ้านพักของชาวบ้านในช่วงเวลาเคอร์ฟิวส์ การเสริมกำลังทหาร ตำรวจและอาสาสมัครทหารพราน โดยเฉพาะอาสามัครทหารพรานที่เป็นชาวพุทธในพื้นที่ ที่มีความโกรธแค้น และเกลียดชังชาวมุสลิมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  ทำให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้ใช้ความรุนแรงปฏิบัติต่อชาวมุสลิมในพื้นที่ โดยที่เหตุการณ์หลายครั้ง ที่เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครทหารพรานสร้างสถานการณ์ขึ้นเอง ไม่ว่าจะเป็นเหตุร้ายที่บ้านควนหรัน ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา, บ้านภักดี อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา, บ้านบานา อำเภอเมืองปัตตานี หรือที่บ้านตาเซะ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ล้วนแสดงให้เห็นถึงการใช้อำนาจที่เกินเลยของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่


 


จากเหตุร้ายที่เกิดขึ้น ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ ชีวิต และทรัพย์สินอย่างรุนแรง สิ่งเหล่านี้ทำให้เครือข่ายนักศึกษาและประชาชนเล็งเห็นถึงความสำคัญในการยืนหยัดต้อสู้เพื่อประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


 


ในเอกสารดังกล่าวยังมีข้อเรียกร้อง 10 ข้อที่เสนอต่อทางราชการ ประกอบด้วย ให้ถอนกำลังทหารและอาสาสมัครทหารพรานออกจากพื้นที่ทั้งหมด, ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวส์, ประกาศยกเลิกการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 ในพื้นที่ทั้งหมด, รัฐบาลต้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำความผิดอย่างเด็ดขาดและเที่ยงธรรม


 


รัฐบาลต้องชี้แจงข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องและเที่ยงตรง, รัฐบาลต้องไม่ครอบงำสื่อทุกชนิด, สื่อทุกชนิดต้องรายงานความเป็นจริงที่ปรากฏอย่างตรงไปตรงมา, รัฐบาลต้องปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์โดยเร็วและไม่มีเงื่อนไข, รัฐบาลต้องไม่จับตัวผู้บริสุทธิ์อีก, รัฐบาลต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความเห็นอย่างเปิดเผย


 


ทั้งนี้ แกนนำการชุมนุมบอกว่า จะปักหลักชุมนุมต่อไป โดยจะพักค้างคืนในมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี และจะแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ในเวลา 09.00 วันที่ 1 มิ.ย.50 ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ปิดถนนหน้ามัสยิดกลาง และหน้าสำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี รวมส่งผลให้ร้านค้าในบริเวณใกล้เคียง ต้องปิดร้านโดยปริยาย


 


พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์  รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี  กล่าวว่า เป็นสิทธิที่ประชาชนสามารถจัดชุมนุมได้ โดยไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน ในส่วนของความสงบเรียบร้อย ได้จัดกำลังตำรวจ ทหารหลายพันนายดูแลแล้ว ส่วนข้อเสนอของผู้ชุมนุมเป็นเรื่องระดับนโยบาย ต้องให้ผู้ใหญ่เป็นผู้พิจารณา ขณะนี้ได้แจ้งให้ทางผู้ใหญ่รับทราบแล้ว


 


นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ออกประกาศฉบับที่ 1 แจ้งว่า ประชาชนถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหลอกลวง อ้างว่าให้เดินทางมาร่วมงานแต่งงานและมาเที่ยวในตัวเมืองปัตตานี แต่กลับมาชุมนุมที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมจนเป็นที่เข้าใจ และเดินทางกลับบ้านไปบางส่วนแล้ว จึงขอเตือนประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อของผู้ก่อความไม่สงบ และรีบเดินทางกลับบ้านโดยเร็ว


 


จนถึงช่วงเย็นวันเดียวกัน ยังมีประชาชนปักหลักชุมนุมอยู่ประมาณ 300 - 400 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณมัสยิดอย่างเต็มที่


 


สำหรับนักศึกษาที่มาชุมนุมประท้วงครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เหมารถบัสโดยสารจากกรุงเทพฯ มารวมตัวที่ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี)  แล้วเคลื่อนขบวนไปชุมนุมที่มัสยิดกลางจ.ปัตตานี โดยกลุ่มผู้ชุมนุมแจกเอกสารแถลงการณ์ โดยระบุว่า เป็นเครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน ได้แก่ สมาคมนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง กลุ่มนักกิจกรรมรามคำแหงเพื่อสังคม เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนใต้ ศูนย์ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาและประชาชน เครือข่ายนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม องค์การนักศึกษา มอ.ปัตตานี สภานักศึกษา มอ.ปัตตานี และเครือข่ายนักศึกษาเพื่อสันติภาพ


 


 


ภาพประกอบ: จากสถาบันข่าวอิศรา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net