ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 15 มิ.ย. 50





การเมือง

"สพรั่ง"ด่าพวกชุมนุมถ่อย-กักขฬะลั่นไม่ปล่อยให้กำเริบเสิบสาน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกและ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)ให้สัมภาษณ์ทางรายการวิทยุว่า ในการประชุม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ได้รับการรายงานข่าวจากหน่วยข่าวของทหาร ตำรวจ กทม. และพื้นที่กองทัพภาคต่างๆ ว่าเขามีความพยายามจะลักลอบเข้ามาชุมนุมในกทม. โดยใช้กลวิธีเช่นเดียวกับการรณรงค์เลือกตั้งหาเสียง เพื่อเพิ่มปริมาณเงิน ซึ่งการประชุมก็เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าความพยายามนั้นจะสำเร็จหรือไม่ และ ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐด้วย ในต่างจังหวัดพอเวลามีการเคลื่อนตัวเรารู้ไม่ยาก เพราะแตกต่างจากสังคมในเมือง คือ จะดูง่ายกว่าพวกโจรใส่เสื้อนอกในเมืองกรุง

 

เมื่อถามว่า เท่าที่มีการวิเคราะห์จะมีการก่อการรุนแรงขนาดใด พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า เจตนารมณ์เราดูได้จากที่ออกมาทางเว็บไซด์ ที่ต้องการให้เกิดความรุนแรง เพราะเขาใช้ทีมข้างหน้าที่มัน กักขฬะ หรือ เรียกได้ว่าพวก ถ่อย ตามที่ภาษาธรรมะ เรียกไว้ พวกนี้ไม่เคารพกติกาแต่อ้างความเป็นประชาธิปไตย พวกนี้ต้องการให้เกิดความรุนแร ง แต่ไม่ใช่หมายความว่าเราไม่กล้าทำอะไร ปล่อยให้มันกำเริบเสิบสาน พวกนี้มุ่งหมายให้ รัฐบาล และ คมช. หมดสภาพไป คิดว่าเงินจะซื้อได้ทุกอย่าง แต่สังคมเรามีจุดอ่อนคือเป็นสังคมเอาตัวรอด เพราะฉะนั้นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดทั้งหมด

 

 ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่ามีความต้องการในการเร่งให้มีการรบแตกหักจากวันเสาร์ที่จะถึงมาเป็นเมื่อคืนวันที่ 13 มิ.ย.หรือไม่ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ข่าวที่รายงานเข้ามา ว่าไว้อย่างนั้น แต่ความสามารถที่เขาจะปรับระดับในการร่นเวลาเข้าตี เหมือนกับทหารที่ประเมินวันที่ข้าศึกอ่อนแอนั้นก็อยู่ที่ความพร้อมของเขาด้วย ในขณะเดียวกัน เขาประเมินสถานการณ์ฝ่ายเราด้วยว่าเราแตกแยกความสามัคคี ปั่นป่วนกัน แต่ทั้งหมดจะเป็นอย่างที่ประเมินหรือไม่ ไม่รู้ เป็นเรื่องของการอ่านเกมการต่อสู้กัน เกมเบื้องหน้าเป็นแค่ the first wave ต่อไป second wave จะเป็นอย่างไร

 

เราก็ต้องดูด้วยว่าไอ้คลื่นที่จะตลบหลังจะเป็นอย่างไร เพราะเขารู้ว่าคนส่วนใหญ่สนใจแต่ข่าวเฉพาะหน้า ดูแค่ว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างไร ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย เห็นว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปหรือเปล่า ทหารจะปฏิวัติหรือไม่ มองกันอย่างนั้น แต่ไม่ได้มองเรื่องข้างหลัง ที่ต่างคนต่างก็ถือไพ่ในมือ

 

เหวง วอน สพรั่ง เลิกคิดใช้ความรุนแรงกับประชาชน

ไอ.เอ็น.เอ็น. - นพ.เหวง โตจิราการ แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการปราบกบฎ ได้เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับการชุมนุม ของกลุ่มประชาชนที่ท้องสนามหลวงที่ท้องสนามหลวงในวันนี้ว่าจะยึดมั่นในความสันติและอหิงสาในรูปแบบประชาธิปไตย ทั้งนี้จะมีการชูคำขวัญ สันติ อหิงสา ประชาธิปไตย บนเวทีปราศัยในวันนี้ด้วย ผู้ชุมนุมยังได้ฝากไปถึง พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ว่าไม่ควรใช้กำลังทหารทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่จะมาชุมนุม หากจะทำให้มาทำกับแกนนำจะดีกว่า ทั้งนี้แกนนำพร้อมจะให้จับแต่โดยดีขณะที่ พ.อ.อภิวรรณ วิริยะชัย แนวร่วมอีกคน กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า มีการจ้างผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ให้ไปทำลายหลอดไฟฟ้า และทำลายสถานที่ราชการนั้นเป็นการพยายามที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มผู้ชุมนุม ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

 

ม็อบพีทีวียังไม่ตัดสินใจ เคลื่อนขบวนชุมนุม16มิ.ย.

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ -  แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ประกอบด้วย น.พ.เหวง โตจิราการ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายชูวงศ์ ถี่ถ้วน และนายชัยวัฒน์ หาบุญพาด ร่วมแถลงข่าวแสดงจุดยืนในการเคลื่อนไหวเดินขบวนเรียกร้อง คมช.คืนอำนาจให้ประชาชน โดยการแถลงครั้งนี้ ไม่มีนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานบริษัทเพื่อนพ้องน้องพี่ น.พ.สันต์ หัตถีรัตน์ และนางประทีป อึ๊งทรงธรรมฮาตะ เข้าร่วมด้วย

          

น.พ.เหวง กล่าวว่า ในการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในวันเสาร์ที่ 16 มิ.ย.นี้ ที่จะมีการเคลื่อนขบวนไปยังกองทัพบก ทาง นปก. ยังไม่ยืนยันว่า ยังคงที่จะต้องเดินเคลื่อนขบวนต่อไป เนื่องจากขณะนี้มีกระแสข่าวลือมาก ดังนั้นคงต้องมีการหารือร่วมระหว่าง 7 แกนนำของ นปก. เพื่อทำการประเมินสถานการณ์ว่า กลุ่มจะมีการเคลื่อนขบวนไปยังกองทัพบกหรือไม่เคลื่อน แต่เบื้องต้นได้หารือกันแล้วว่าจะชุมนุมอย่างสันติ หากเคลื่อนขบวนก็จะทำอย่างสันติ โดยรูปแบบของขบวนที่จะเคลื่อนไหวขณะนี้ยังไม่สมบูรณ์แต่มีรูปแบบคร่าวๆเอาไว้แล้ว

 

"ม็อบพีทีวี"ป่าเถื่อนรุมกระทืบหนุ่มนิรนาม คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าว

ผู้จัดการออนไลน์ - เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ระหว่างที่นายวีระ มุสิกพงศ์แกนนำขึ้นเวทีปราศรัย ปรากฎว่าได้มีเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายขึ้น เมื่อกลุ่มวัยรุ่นและผู้ร่วมชุมนุมม็อบพีทีวี วิ่งไล่รุมทำร้ายและกระทืบ ชายนิรนาม อายุประมาณ 25 ปี ซึ่งสะพายเป้ทหาร ตัดผมเกรียน สวมเสื้อยืดสีดำ ด้านหน้าสกรีน คำว่า ( LEVIE) จนเกือบหมดสติ ขณะกำลังถ่ายรูปบริเวณบริเวณด้านข้างเวที ซึ่งคาดว่าเป็นเพียงเจ้าหน้าที่หน่วยข่าว ที่เดินทางมาทำหน้าที่ตามปกติ แต่กลับถูกกลุ่มผู้ชุมนุมรุมทำร้ายอย่างป่าเถื่อน นานเกือบ 5นาที แต่ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ ได้เข้ามากันตัวออกไป หลังจากนั้นผู้กำกับสน.ชนะสงครามได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์และนำตัวขึ้นรถสายตรวจไป ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงยืนจับกลุ่มและส่งเสียงด่าทอด้วยความไม่พอใจ เพราะผู้ชุมนุมต้องการให้นำตัวชายคนดังกล่าวขึ้นไปบนเวทีปราศรัย

 

"ไข่แม้ว"แยกพวง "ประชา"อ้างลูกพี่ใหญ่กลับไทย 22 มิ.ย.

ผู้จัดการออนไลน์ - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย คงสับสนในชีวิตไม่น้อย เมื่อนายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัว แถลงว่า จะไม่ให้กลับไทยภายในเดือนมิถุนายนนี้ แน่นอน เพราะคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และนายกรัฐมนตรีไม่รับรองความปลอดภัยให้ แต่ขณะเดียวกัน นายประชา ประสพดี อดีตส.ส.สมุทรปราการ กลุ่มคนรักทักษิณ ไม่เอาเผด็จการ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลจากคนไทยในต่างประเทศว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่กลัวการกลับประเทศไทย และจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ด้วยสายการบินไทย มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ

         

ขู่ 24 มิ.ย.นองเลือด!

สยามรัฐ - นายประชา ประสพดี อดีตส.ส.สมุทรปราการ กลุ่มคนรักทักษิณ ไม่เอาเผด็จการกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะทำการเคลื่อนไหวในวันที่ 15-16 มิ.ย.นี้ ว่า คาดว่าจะมีประชาชนออกมาหลายหมื่นหรืออาจถึงแสนคน จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะเปิดโอกาสให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา แล้วหาคนกลางมาประสานจับเข่าคุยกัน เพื่อหาทางออกให้ประเทศไทยเพราะถ้ายังเอาแต่จ้องจะเผชิญหน้ากันอย่างนี้ ฟันธงได้เลยว่าไม่เกินวันที่ 24 มิ.ย.นี้จะมีการนองเลือดเกิดขึ้นทั้งนี้ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศไทยในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ด้วยสายการบินไทย มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ

 

2.3หมื่นล.ซุกบัญชี'โอ๊ค-เอม'

ไทยโพสต์ -  นายนพดล  ปัทมะ เปิดแถลงข่าวอีกครั้งว่า ภายหลังการหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับทราบข้อมูลชี้แจงการขายหุ้นของครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์  โดย พ.ต.ท.ทักษิณต้องการชี้แจงให้เกิดความชัดเจน เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อการปล่อยข่าวของ คตส. ในส่วนของเงินที่ คตส.อ้างว่าหายไปจำนวน  20,387  ล้านบาทนั้น ข้อเท็จจริงแล้วเงินจำนวน 23,400 ล้านบาท ถูกนำไปซื้อหุ้นและยังคงอยู่ตามรายละเอียด ดังนี้  1.ในส่วนของครอบครัวชินวัตร  ได้ซื้อหุ้นในบริษัท  พี ที คอร์ปอเรชั่น จำกัด ภายใต้การถือหุ้นของ  น.ส.พิณทองทา  มูลค่า  1,000 ล้านบาท, บริษัท เวิร์ท ซัพพลายส์ จำกัด ถือโดย น.ส.พิณทองทา  มูลค่า 1,000 ล้านบาท และนายพานทองแท้ 1,000 ล้านบาท, บริษัท ประไหมสุหรี  พร็อพเพอร์ตี้  จำกัด ถือโดย น.ส.พิณทองทา 900 ล้านบาท และนายพานทองแท้  1,100 ล้านบาท และบริษัท เอสซี  ออฟฟิศ  พลาซ่า ถือโดย น.ส.พิณทองทา 1,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท

 

2.ครอบครัวดามาพงศ์  ประกอบด้วย บริษัท โอเอไอ แมนเนจเม้นท์ 5,000 ล้านบาท  บริษัท บีบีดี ดีเวลลอปเม้นท์ 3,400 ล้านบาท และบริษัท บีบีดี พร็อพเพอร์ตี้ 2,000 ล้านบาท โดยทั้ง 3 บริษัทถือหุ้นโดยนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร รวมเป็นเงิน 10,400 ล้านบาท

 

3.ในบัญชีเงินฝากของนายพานทองแท้  ประกอบด้วยบัญชีเงินฝากประจำ  3 เดือน ธนาคารกรุงไทย  จำนวน 1,000 ล้านบาท บัญชีเงินฝากประจำ 6 เดือน ธนาคารกรุงไทย  1,000 ล้านบาท และในบัญชีเงินฝากของ น.ส.พิณทองทา  ประกอบด้วยบัญชีเงินฝากประจำ  6 เดือน ธนาคารนครหลวงไทย 2,000  ล้านบาท บัญชีเงินฝากประจำ 12  เดือน ธนาคารนครหลวงไทย 2,000 ล้านบาท และบัญชีเงินฝากประจำ 9 เดือน ธนาคารธนชาติ 1,000 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 7,000 ล้านบาท

 

นายนพดลชี้แจงต่อว่า   สำหรับเงินในบัญชีเงินฝากของนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา  จำนวน 7,000 ล้านบาทนั้น ไม่ได้ถูกอายัดจาก คตส. และ คตส.ทราบดีว่ามีบัญชีนี้อยู่ เพราะได้แจ้งต่อ คตส.แล้ว  โดยเงินจำนวนดังกล่าวเตรียมซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนฯ  ซิตี และอสังหาริมทรัพย์  ในนามของ น.ส.พิณทองทาและนายพานทองแท้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีเงิน

 

ป.ป.ช.ลงมติเชือดวัฒนา ออกโฉนดคลองด่านมิชอบ

ข่าวหุ้น - นายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)แถลงผลการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ชี้มูลความผิดนายวัฒนา อัศวเหม ในขณะดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดิน ประกอบไปด้วย เจ้าพนักงานช่างรังวัด หัวหน้าสำนักงานรังวัดนายช่างรังวัด และเจ้าหน้าที่จากฝ่ายปกครอง รวมทั้งสิ้น 9 คน โทษฐานกระทำความผิดร่วมกันในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 84 คณะกรรมการปปช.

         

"การพิจารณาสำนวนการไต่สวน ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกรมควบคุมมลพิษที่เป็นผู้เสียหาย กล่าวหาร้องเรียนว่า นายวัฒนาและพวก เกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิ์ ในท้องที่จ.สมุทรปราการ ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบบังคับข่มขืนใจ หรือจูงใจให้ราษฎรขายที่ดิน และบีบบังคับให้เจ้าหน้าที่ที่ดินออกเอกสารสิทธิ์โดยการออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่สงวนหวงห้าม ทับที่สาธารณะประโยชน์และเอาเอกสารจากที่ดินแปลงอื่นมาอ้างในการออกโฉนดที่ดิน"นายกล้านรงค์กล่าว

         

ศาลรับคำร้องโกวิท นายกฯสั่งย้ายมิชอบ

ข่าวหุ้น - 14 มิ.ย. ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งรับฟ้องคดีที่พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยพ.ต.ท.อังกูร วัฒนรุ่ง และ/หรือ นายนรินทร์ วงศ์ไทย ผู้รับมอบอำนาจ ยื่นฟ้อง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในความผิดเรื่องคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 122 / 2550 ลงวันที่ 22 เมษายน 2550 แต่งตั้งพล.ต.อ.โกวิท ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำระดับ 11 สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี

 

โดยศาลนัดไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ในวันนี้(15มิ.ย.) เวลา10.30 น. เพื่อพิจารณาในประเด็นที่ผู้ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ระงับการกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พล.ต.อ.โกวิท พ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร. และแต่งตั้งไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฯ และแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ที่ปรึกษา ผบ.ตร.(สบ.10)ซึ่งรักษาการ ผบ.ตร. ดำรงตำแหน่งผบ.ตร.

 

"บิ๊กบัง"ลั่น"แม้ว"กลับต้องแจงคมช. ตลท.พร้อมร่วมมือติดตามเงิน

กระแสหุ้น - พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรว่า การเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นอยู่กับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แต่ถ้าจะเดินทางกลับมาจริงก็ต้องแจ้งให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ทราบ เพราะกองทัพรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัย จะต้องเพิ่มความระมัดระวัง

 

 





คุณภาพชีวิต

ดันประกันสังคม"องค์กรมหาชน"

สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.50 ธุรกิจบัณฑิตย์โพล ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ประกันสังคม หัวข้อ "คิดอย่างไรต่อกองทุนประกันสังคม" โดยสอบถามผู้ประกันตน 954 คน จากทุกอาชีพในกทม.ระหว่างวันที่ 9-10 มิ.ย.50 ซึ่งผลสรุปได้ดังนี้ ผู้ประกันตน ร้อยละ 62.4 คิดว่ารัฐบาลที่ผ่านมามีการล้วงลูกหรือแทรกแซงการบริหารของกองทุน ขณะที่ร้อยละ 37.6 คิดว่าไม่มี

 

สำหรับเงินกองทุน 4 แสนล้านบาท ควรจะมีรูปแบบบริหารจัดการอย่างไรนั้นร้อยละ 55.4 เห็นว่าคงเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คือเป็นคณะกรรมการประกันสังคมซึ่งมาจากส่วนราชการและตัวแทนภาคเอกชนที่รัฐมนตรีแต่งตั้ง และร้อยละ 44.6 เห็นว่าควรเปลี่ยนเป็นองค์กรมหาชน แต่ประเด็นนี้พบว่าผู้ประกันตนระดับการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไปและผู้ส่งเงินสมทบรายเดือน 500 บาทขึ้นไป ต้องการให้มีรูปแบบบริหารเป็นองค์กรมหาชนมากกว่าบริหารโดยคณะกรรมการประกันสังคม ขณะที่ผู้มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีและส่งเงินสมทบรายเดือนต่ำกว่า 500 บาท ต้องการให้บริหารในรูปแบบเดิม

 

ตะลึง!รพ.เอกชนโขกกำไรค่ายา200% พาณิชย์สอบต้นทุนขีดเส้น15วัน

ไทยโพสต์ - นายศิริพล    ยอดเมืองเจริญ   อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน  และผู้แทนภาคอุตสาหกรรมยา ว่า กรมได้ขอความร่วมมือโรงพยาบาลเอกชนให้ร่วมกันดูแลใน 2 ส่วน คือ เรื่องราคายา และเรื่องการดูแลการรักษาพยาบาล

 

โดยในเรื่องราคายา กรมจะทำหนังสือถึงผู้ผลิต ผู้นำเข้ายา ให้แจ้งราคายาที่ขายให้กับร้านค้าทั่วไป   คลินิก   โรงพยาบาลรัฐและเอกชน  เพื่อนำมาจัดทำเป็นฐานข้อมูลราคายา โดยจะคัดเลือกรายการยาที่จำเป็นในเบื้องต้น   200  รายการ  ทั้งจากยาในบัญชีทั่วไปที่มี 12,000  รายการ และยาจากบัญชีหลัก  882  ราย เนื่องจากเห็นว่าเป็นยาที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ มีการใช้มาก และมีราคาแพง

 

ทั้งนี้  กรมจะมีหนังสือถึงผู้ผลิตประมาณ 100 ราย และผู้นำเข้าประมาณ 400 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ผลิตและผู้นำเข้ารายใหญ่ประมาณ  30-40  รายในสัปดาห์หน้า และให้เวลา  15 วันในการแจ้งข้อมูลต้นทุนราคายา  พร้อมกับขอความร่วมมือให้แจ้งราคาก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงราคายาภายใน 15  วันด้วย ซึ่งหากไม่ให้ความร่วมมือ มีโทษตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ  พ.ศ.2542 จำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

"จากข้อมูลที่กรมมีอยู่  โรงพยาบาลเอกชนบางแห่งมีกำไรจากราคายา  30-200%  ขณะที่โรงพยาบาลของรัฐ  หรือร้านขายยาทั่วไปมีกำไรแค่   15-30%  ส่วนค่าตรวจรักษาพยาบาลพบว่า โรงพยาบาลเอกชนมีการปรับเพิ่มราคาจากปี  2545 สูงถึง 66% ขณะที่โรงพยาบาลของรัฐเพิ่มขึ้นแค่ 11%  และเมื่อเทียบอัตราค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนกับรัฐ แตกต่างกันถึง 194% ซึ่งหากมีการเข้าไปดูแลแล้วสถานการณ์ไม่ดีขึ้น คงต้องบังคับใช้กฎหมายต่อไป" นายศิริพลกล่าว

 

ส่วนการดูแลค่ารักษาพยาบาล   กรมจะขอความร่วมมือไปยังกระทรวงสาธารณสุขให้เข้ามาช่วยดูแล  โดยขอให้มีเกณฑ์มาตรฐานในการคิดค่ารักษาพยาบาลประเภทต่างๆ  ในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมดูแลโดยตรง  และมีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้มีอัตราค่าบริการมาตรฐาน พร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังสมาคมให้แจ้งข้อมูลแก่สมาชิก   ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงกับผู้ที่มาใช้บริการ ไม่ใช่เข้ามารับบริการแล้ว ค่าใช้จ่ายแตกต่างจากที่แจ้งไว้ในตอนแรก ซึ่งไม่เป็นธรรมกับผู้ใช้บริการ

 

ค้านผุดโรงเหล็ก "แม่รำพึง" ยังไม่จบ

สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.50 นางจินตนา แก้วขาว ประธานกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมายังหน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการถมที่ดิน บริเวณหมู่ 7 บ้านทุ่งลานควาย ในโครงการสร้างโรงงานถลุงเหล็ก ของบริษัทในเครือสหวิริยาฯ โดยมีนายชยะ เจียมจรัสรังษี นายก อบต.แม่รำพึง เป็นผู้รับมอบหนังสือดังกล่าว จากนั้นกลุ่มอนุรักษ์ฯได้ใช้เครื่องขยายเสียง เดินสายกล่าวปราศรัยโจมตีการสร้างโรงงานถลุงเหล็ก พร้อมประกาศเชิญชวนชาวบ้านให้ไปรวมรับฟังการบรรยายด้านสิ่งแวดล้อมของนักวิชาการ ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ณ ที่ว่าการอำเภอ

 

"มะกัน" ฉะไทยแก้ปัญหาค้ามนุษย์ตกมาตรฐานสากล

ผู้จัดการออนไลน์ - สหรัฐฯเผยแพร่รายงานการค้ามนุษย์ประจำปี 2007 ระบุไทยปฏิบัติตามกฏหมายยังไม่ถึงระดับมาตรฐานสากล แต่มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะการคุ้มครองเหยื่อ ด้านกระทรวงการต่างประเทศยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องนี้มาโดยตลอด

 





ภาคใต้

ต่างชาติฟันธงไฟใต้โยงมุสลิมหัวรุนแรง

สยามรัฐ - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ซาคารี อาบูซา คณะรัฐศาสตร์ วิทยาลัยซิมมอนส์ ในนครบอสตัน ประเทศสหรัฐฯเปิดเผยว่า จากหลักฐานใหม่ทำให้มีความวิตกกังวลว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย มีความเกี่ยวข้องและได้รับอิทธิพลมาจากกลุ่มก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงระหว่างประเทศ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการก่อการร้าย จึงส่งผลให้ระดับความรุนแรงในการก่อเหตุเพิ่มมากขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ด้วยการก่อเหตุโจมตีกลุ่มบุคคลที่ทำหน้าที่ผู้แทนส่วนพระองค์ และฆ่าตัดคอต่อเหยื่อที่ถูกสังหาร

        

นอกจากนี้ นายอาราบินดา อาชาร์ยา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางในสิงคโปร์ กล่าวว่า กลุ่มก่อการร้ายสามารถเพิ่มศักยภาพในปฏิบัติการก่อเหตุความรุนแรงด้วยการเข้ารับการฝึกฝนจากกลุ่มก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงในฟิลิปปินส์หรือไม่ก็ในอินโดนีเซีย

 

รับวันสถาปนาปัตตานีเผา14รร.บึ้มสนามบอล

ไทยโพสต์ -  โจรใต้ก่อเหตุรับวันสถาปนารัฐปัตตานี เผาโรงเรียนใน จ.ยะลาพร้อมกัน 14 แห่ง  ซุ่มยิงทหาร-ตำรวจ 4 จุด  ระเบิดสนามฟุตบอลยะหริ่ง ปัตตานี หนีตายอลหม่าน ตำรวจเจ็บระนาว 5 เผยขบวนการแบ่งแยกดินแดนกว้านหาแนวร่วมเพิ่ม  ตั้งเป้าให้สมาชิก 1 คนหาให้ได้ 5 โดยมีเงินแสนล่อ  คาดเตรียมปฏิบัติการใหญ่ ขณะที่นักวิชาการเชื่อรัฐดับไฟใต้ไม่สำเร็จเพราะการเมืองร้อน

 

นายศรีสมภพ จิตรภิรมย์ศรี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี ให้สัมภาษณ์ถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลและ คมช. ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรงขณะนี้ว่า เข้าใจถึงสภาพความเป็นจริงที่รัฐบาลและ  คมช.กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาการเมือง   ทั้งการร่างรัฐธรรมนูญ   และการต่อสู้ของกลุ่มอำนาจเก่า  จึงทำให้ลดความสนใจในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ลงไป และแก้ปัญหาไม่เต็มที่

 

"ผมมองว่าปัญหาภาคใต้จะยิ่งทวีความรุนแรงเป็นปัญหาใหญ่ขึ้น   มองจากสภาพเหตุการณ์การก่อเหตุในช่วง   2-3   เดือนที่ผ่านมา จึงเห็นว่าหากรัฐบาลและ คมช.ประคับประคองสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ให้อยู่ในระดับที่ไม่แย่ไปกว่านี้ได้  ก็ถือว่าการทำงานสำเร็จระดับหนึ่ง  แม้จะไม่บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้  เพราะเชื่อว่ารัฐบาล-คมช. จะไม่สามารถทำให้สถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ลดลงได้ในระยะเวลาที่เหลือในการบริหารประเทศจากนี้ไป" นายศรีสมภพกล่าว

นายศรีสมภพมองว่า แนวทางสันติวิธีของรัฐบาลเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่จะต้องมีวิธีการที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม  โดยเฉพาะต้องบูรณาการปรับปรุงการทำงานทั้งด้านยุทธศาสตร์และยุทธวิธี   อีกทั้งการทำงานร่วมกันระหว่างพลเรือน  ตำรวจและทหาร ให้มีความเป็นเอกภาพ ปรับปรุงกระบวนการทางกฎหมายในประเด็นความยุติธรรม  ทำความเข้าใจกับประชาชนและลงลึกศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง

 





เศรษฐกิจ

ม็อบฉุดศก.ทรุดดัชนีเชื่อมั่นดิ่งต่ำสุดรอบ63ด.

ไทยโพสต์ - เมื่อวันที่   14  มิถุนายน 2550 นางเสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน  พ.ค.2550  อยู่ที่ระดับ  76.9 ลดลงจากระดับ  77.6  เมื่อเดือน เม.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ  71.4 ลดจากระดับ  72.1 เมื่อเดือน เม.ย. ซึ่งลดลงต่ำสุดในรอบ 63 เดือน นับตั้งแต่เดือน เม.ย.2545 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำอยู่ที่   72.2 ลดลงจากระดับ 73.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 87.1 ลดลงจาก 87.7 โดยดัชนีความเชื่อมั่นในเดือน พ.ค.ทุกรายการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และดัชนีเกือบทุกรายการอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 48-99 เดือน

 

"หลังจากสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเบื้องต้นใหม่   เห็นได้ว่าปัญหาการเมืองที่เกิดจากการประท้วงหลังการยุบพรรค   ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับลดลงต่อเนื่อง  จากเดือน พ.ค.สอดคล้องกับดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองที่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นเป็น  63% จาก 53% แต่ทั้งนี้เป็นแค่สัญญาณการชะลอตัวภายในประเทศเท่านั้น แต่การส่งออกยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก จึงเป็นภาคที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้โตต่อไปได้   3.5-4%  นอกเสียจากมีเหตุการณ์การปะทะกันอย่างรุนแรงหรือการปฏิวัติเกิดขึ้นอีกครั้ง จะทำให้จีดีพีต่ำกว่า 3% แน่นอน" นายธนวรรธน์กล่าว

 

"สมหมาย" สั่ง ธปท.สอบเชิงลึก TMB

กระแสหุ้น - นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้เตรียมประสานงานให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าไปตรวจสอบผลดำเนินงานของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) ในช่วงที่ผ่านมา เป็นการตรวจสอบในเชิงลึก เพราะมีข้อสงสัยจากหลายฝ่ายว่า เมื่อกระทรวงการคลังได้เพิ่มทุนให้แล้ว ทำไมธนาคารทหารไทยยังจึงมีปัญหาขาดทุน โดยกระทรวงการคลัง ซึ่งยังถือหุ้นในธนาคารทหารไทยอยู่ร้อยละ 30 และผู้ถือหุ้นรายย่อยควรรับทราบข้อมูล เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ

      





ต่างประเทศ

หนุ่มแคนาดาถูกศาลสั่งห้ามคบสาว 3 ปีหลังทำร้ายแฟนเก่า

ผู้จัดการออนไลน์ - ผู้พิพากษาแคนาดา มีคำสั่งห้ามชายคนหนึ่งวัย 24 ปี คบหาดูใจกับสาวคนไหนในฐานะแฟนเป็นเวลา 3 ปี หลังถูกตัดสินมีความผิดในข้อหาทำร้ายร่างกายแฟนเก่า

         

สตีเฟน ครันลีย์ ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายแฟนเก่าทั้งเตะและต่อยระหว่างทั้งคู่มีปากเสียงกัน และเขายังขัดขวางเธอไม่ให้โทรแจ้งตำรวจด้วยการตัดสายโทรศัพท์ นอกจากนี้เมื่อตำรวจมาถึงเขายังพยายามใช้มีดตัดเส้นเลือดใหญ่ฆ่าตัวตาย ยังดีที่เจ้าหน้าที่เข้าชาร์จตัวได้ทัน

         

ทางแพทย์แนะนำกับศาลว่า ครันลีย์ เป็นคนที่ไม่ยอมรับความจริงและควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้เขาเสี่ยงต่อการก่อเหตุรุนแรงหากว่าต้องเข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องชู้สาวอีก            

         

 

               

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท