พล.ต.ต.จำรูญ เด่นอุดม

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม 2550 ที่ร้านอาหารยัสมิน ในเขตเทศบาลนครยะลา กลุ่มแกนนำภาคประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย พล.ต.ต.จำรูญ เด่นอุดม และนายมันโซร์ สาและ ในนามกลุ่มยุติธรรม ได้ร่วมหารือถึงแนวทางการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้น โดยจะใช้ชื่อว่าพรรคยุติธรรม เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ในกลุ่มได้ยังได้หารือถึงแนวนโยบายของพรรคซึ่งประกอบด้วยด้านต่างๆ คือ ด้านการปกครอง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม โดยมีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ความรุนแรง และความไม่สงบเรียนร้อยในบ้านเมือง ซึ่งทั้งสามประการเป็นแนวทางแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย โดยจะใช้หลักสันติวิธี ให้ความเคารพในสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคแก่ทุกกลุ่มชาติพันธุ์และศาสนา

ทั้งนี้ในด้านการปกครองนั้น มุ่งที่จะให้มีการกระจายอำนาจการปกครองไปสู่ท้องถิ่น จะให้มีการเลือกตั้งผู้ปกครองตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปจนถึงผู้ปกครองระดับล่าง นอกจากนี้ยังมุ่งพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน และมุ่งสร้างชุมชนที่มีจริยธรรมทางศาสนา เป็นต้น

พล.ต.ต.จำรูญ กล่าวว่า ขณะนี้ทางกลุ่มกำลังรอดูว่า ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 15 เกี่ยวกับการทำกิจกรรมทางการเมือง รวมทั้งการห้ามจัดตั้งหรือจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่เป็นการชั่วคราว จะผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือไม่ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2550 นี้ หากผ่านและมีผลบังคับใช้ ก็จะขอจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองทันที

"เหตุที่จะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเนื่องจากประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่มีผู้นำที่แท้จริงในการแก้ปัญหาในพื้นที่ ในขณะที่นักการเมืองที่มีอยู่ ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง แต่ทำงานไปเพราะเป็นอาชีพเท่านั้น" พล.ต.ต.จำรูญ กล่าว

นายมันโซร์ กล่าวว่า พรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นไม่ได้จำกัดเฉพาะมุสลิมเท่านั้น แต่จะเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งต้องเป็นคนที่เสียสละอย่างแท้จริง

เวลา 09.00 น.วันเดียวกัน ที่โรงแรมเจบี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดสัมมนาเรื่อง "ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้" เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายทั้งนักวิชาการ นักการเมืองท้องถิ่น และประชาชนทุกสาขาอาชีพในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้กรอบ 6 ยุทธศาสตร์ ที่พรรคประชาธิปัตย์กำหนดขึ้น ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง,การเมืองการปกครอง, การศึกษา, เศรษฐกิจ, สังคมศาสนาและวัฒนธรรม และด้านกฎหมาย มีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน

นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าในการวิเคราะห์สถานการณ์ว่า การแก้ปัญหาและนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลที่ผ่านมา ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมจนบานปลายไปสู่ความรุนแรง จำเป็นจะต้องเร่งดำเนินการใน 6 เรื่องให้เห็นเป็นรูปธรรมคือ

1.จะต้องหยุดยั้งวงจรของความรุนแรงทั้งในระยะสั้นและระยะยาวภายใต้กลไกของรัฐที่จะต้องมีเอกภาพ 

2.สร้างบรรยากาศการปรองดองให้เกิดขึ้นทั่วประเทศไม่เฉพาะประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายสมานฉันท์ที่รัฐบาลนำมาใช้ แต่จะต้องเห็นผลในทางปฏิบัติเพราะที่ผ่านมายังไม่เห็นผลในทางปฏิบัติ

3.จะต้องตั้งเป้าหมายการคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้เพื่อให้ประชาชนมีความหวัง และเข้ามามีส่วนร่วมไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนอยู่อย่างเลื่อนลอยไร้ความหวังไม่รู้ว่า สถานการณ์จะสงบเมื่อไหร่

4.โครงการเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นจะต้องให้ประชาชนในพื้นที่สัมผัสได้ว่าเขาได้ประโยชน์จริง ๆ ไม่ใช่เศรษฐกิจที่คนนอกคิดและเอามายัดเยียดให้

5.เรื่องของการศึกษาต้องให้เยาวชนไม่ว่าจะเรียนในโรงเรียนศาสนาหรือโรงเรียนของรัฐมั่นใจว่าเมื่อจบไปแล้วจะมีงานทำและ

6.เรื่องของมิติต่างประเทศต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องสร้างความเข้าใจและชี้แจงให้ทราบถึงข้อเท็จจริงซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลกำลังทำอยู่และเป็นเรื่องที่ดี