Skip to main content
sharethis

สำนักข่าวชาวบ้าน สำรวจจำนวนพลเมืองไทยในพื้นที่ 35 จังหวัดภายใต้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ พบถึงกว่า 25 ล้านคน อยู่ในสภาวะไร้สิทธิเสรีภาพมาเกือบ 10 เดือน นับแต่รัฐประหาร 19 กันยาเป็นต้นมา

 

 

 

สำนักข่าวชาวบ้าน

สำรวจจำนวนพลเมืองไทยในพื้นที่ 35 จังหวัดภายใต้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ พบถึงกว่า 25 ล้านคน อยู่ในสภาวะไร้สิทธิเสรีภาพมาเกือบ 10 เดือน นับแต่รัฐประหาร 19 กันยาเป็นต้นมา

 

หลังจากที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข (คปค.) ได้ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ ทันทีที่ทำการรัฐประหาร รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549

 

ต่อมาวันที่ 27 พฤศจิกายน 2549 มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในพื้นที่ 41 จังหวัด รวมทั้งเขตกทม.และเขตปริมณฑลด้วย ส่วนอีก 35 จังหวัดที่เหลือคณะรัฐมนตรีให้คงกฎอัยการศึกไว้ก่อน ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงของประเทศทั้งภายในและภายนอก ทั้งปัญหายาเสพติด ปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง และการค้าของเถื่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจังหวัดตามแนวชายแดน ส่วนการยกเลิกนั้น ทางฝ่ายความมั่นคงจะพิจารณายกเลิกจังหวัดที่เหลือนี้ตามความจำเป็น

 

พื้นที่ 35 จังหวัดที่ยังคงใช้กฎอัยการศึก ได้แก่ 1.กาญจนบุรี 2.กำแพงเพชร 3.ขอนแก่น 4.จันทบุรี 5.เชียงราย 6.เชียงใหม่ 7.ชัยภูมิ 8.ตราด 9.ตาก 10.นราธิวาส 11.นครราชสีมา 12.น่าน 13.บุรีรัมย์ 14.ประจวบคีรีขันธ์ 15.ปัตตานี 16.พะเยา 17.พิษณุโลก18.เพชรบุรี 19.แม่ฮ่องสอน 20.มหาสารคาม 21.ยะลา 22.ราชบุรี 23.ร้อยเอ็ด 24.ระนอง 25.เลย 26.ศรีสะเกษ 27.สตูล 28.สงขลา 29.สระแก้ว 30.สุรินทร์ 31.หนองบัวลำภู 32.อุดรธานี 33. อุตรดิตถ์ 34.อุบลราชธานี และ 35.อำนาจเจริญ

 

สำนักข่าวชาวบ้าน ทำการสำรวจจำนวนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใต้กฎอัยการศึก ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 จนถึงวันนี้ ซึ่งนับเป็นเวลาเกือบ 10 เดือนแล้ว พบว่ามีประชาชนถึง 25,462,452 คน โดยอ้างอิงจากข้อมูลประชากรล่าสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 ของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง

 

โดยพื้นที่อัยการศึกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือจังหวัดที่อยู่ใต้กฎอัยการศึกทุกอำเภอ ได้แก่จังหวัดกำแพงเพชร, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, เชียงราย, เชียงใหม่, นครราชสีมา, นราธิวาส, บุรีรัมย์, ปัตตานี, มหาสารคาม, แม่ฮ่องสอน, ยะลา, ร้อยเอ็ด, เลย, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, หนองบัวลำพู, อำนาจเจริญ, อุดรธานี, อุตรดิตถ์, อุบลราชธานี มีจำนวนประชากรที่อยู่ในพื้นที่ใต้กฎอัยการศึกจำนวน 22,967,095 คน

 

กลุ่มที่สอง คือจังหวัดที่มีใช้กฎอัยการศึกในบางอำเภอ ได้แก่ กาญจนบุรี, จันทบุรี, ตราด, ตาก, น่าน, ประจวบคีรีขันธ์, พะเยา, พิษณุโลก, เพชรบุรี, ราชบุรี, ระนอง, สตูล, สงขลา, สระแก้ว มีจำวนประชากรที่อยู่ในพื้นที่ใต้กฎอัยการศึกจำนวน 2,495,357 คน

 

 

จังหวัดที่อยู่ใต้กฎอัยการศึก กลุ่มที่หนึ่ง

 

จังหวัด

จำนวนพลเมือง / คน

กำแพงเพชร

728,320

ขอนแก่น

1,750,500

ชัยภูมิ

1,119,146

เชียงราย

1,225,713

เชียงใหม่

1,658,298

นครราชสีมา

2,555,587

นราธิวาส

707,171

บุรีรัมย์

1,536,722

ปัตตานี

635,730

มหาสารคาม

937,686

แม่ฮ่องสอน

255,174

ยะลา

468,252

ร้อยเอ็ด

1,310,047

เลย

613,303

ศรีสะเกษ

1,446,484

สุรินทร์

1,375,257

หนองบัวลำภู

496,692

อำนาจเจริญ

368,934

อุดรธานี

1,527,562

อุตรดิตถ์

467,482

อุบลราชธานี

1,783,035

รวม

22,967,095

 

                         

จังหวัดที่อยู่ใต้กฎอัยการศึก กลุ่มที่สอง

 

จังหวัด

จำนวนพลเมือง/คน

จังหวัดกาญจนบุรี เฉพาะอำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอสังขละบุรี และตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี

223,548

 

จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว

155,499

จังหวัดตราด เฉพาะอำเภอคลองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ อำเภอเมืองตราด และกิ่งอำเภอเกาะกูด และกิ่งอำเภอเกาะช้าง อำเภอแหลมงอบ

177,022

 

จังหวัดตาก เฉพาะอำเภอท่าสองยาง อำเภอพบพระ อำเภอแม่ระมาด อำเภอแม่สอด อำเภออุ้มผาง และกิ่งอำเภอวังเจ้า อำเภอเมืองตาก

442,624

 

จังหวัดน่าน เฉพาะอำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอทุ่งช้าง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอปัว อำเภอแม่จริม และอำเภอสองแคว

134,479

 

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะตำบลสามกระทาย และตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี ตำบลเขาล้าน ตำบลนาหูกวาง ตำบลห้วยยาง และตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก ตำบลชัยเกษม ตำบลทองมงคล และตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพาน ตำบลช้างแรก และตำบลไชยราช อำเภอบางสะพานน้อย ตำบลเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี ตำบลไร่เก่า ตำบลศาลาลัย และตำบลศิลาลอย อำเภอสามร้อยยอด ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน ตำบลเกาะหลัก ตำบลคลองวาฬ ตำบลห้วยทราย และตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์

53,871

 

จังหวัดพะเยา เฉพาะอำเภอเชียงคำ และกิ่งอำเภอภูซาง อำเภอเชียงคำ

109,033

จังหวัดพิษณุโลก เฉพาะอำเภอชาติตระการ และอำเภอนครไทย

124,488

จังหวัดเพชรบุรี เฉพาะอำเภอแก่งกระจาน และอำเภอหนองหญ้าปล้อง

42,058

จังหวัดราชบุรี เฉพาะอำเภอสวนผึ้ง และกิ่งอำเภอบ้านคา อำเภอสวนผึ้ง

60,016

จังหวัดระนอง เฉพาะอำเภอกระบุรี อำเภอกะเปอร์ อำเภอละอุ่น และตำบลทรายแดง ตำบลปากน้ำ และตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง

82,485

 

จังหวัดสตูล เฉพาะอำเภอควนโดน อำเภอท่าแพ อำเภอละงู และตำบลเกตรี ตำบลคลองขุด ตำบลตำมะลัง และตำบลปูยู อำเมืองสตูล

120,500

 

จังหวัดสงขลา เฉพาะอำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี อำเภอสะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย

396,061

 

จังหวัดสระแก้ว เฉพาะอำเภอคลองหาด อำเภอตาพระยา อำเภอวังน้ำเย็น อำเภอวัฒนานคร อำเภออรัญประเทศ กิ่งอำเภอโคกสูง อำเภอตาพระยา และกิ่งอำเภอวังสมบูรณ์ อำเภอวังน้ำเย็น

373,673

 

รวม

2,495,357

 

 

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net