ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 7 สิงหาคม 2550





การเมือง

 

"สนธิ" ลั่นประชาธิปไตยไม่ห้ามทหารเล่นการเมือง ไม่หวั่น ทรท.ฟื้นหลังเลือกตั้ง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - วานนี้ (16 ส.ค.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่มีการวิเคราะห์ว่า การตั้งพรรคการเมืองที่มีทหารจะทำให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะข้อหาเป็นนอมินีว่า ความจริงประชาธิปไตยไม่ได้ห้ามว่าใครจะลงหรือไม่ลง ดังนั้นจึงเป็นสิทธิของคนไทยที่จะเลือก และจะทำหน้าที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้

 

ต่อข้อถามว่า กังวลหรือไม่ว่า กลุ่มพรรคไทยรักไทยจะกลับมาอีกครั้ง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องทำความเข้าใจกับประชาชน เกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ที่ผ่านมาตนเชื่อว่าประชาชนเข้าใจแล้วใน 4 ประการที่ คปค.ทำการปฏิรูป โดยเฉพาะในเรื่องของคอรัปชั่น ที่ปรากฏชัดเจน รวมถึง คตส.และหลายหน่วยงานได้ทำเอกสารนี้เผยแพร่ไปให้กับประชาชน คิดว่าประชาชนจะเข้าใจมากขึ้น ในห้วงเวลาที่เหลืออยู่ ทั้งนี้เป็นสิทธิของประชาชนเราคงไปบีบบังคับไม่ได้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า รังเกียจหรือไม่หากเกษียณอายุราชการแล้วจะลงเล่นการเมือง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "เดี๋ยวว่ากันอีกที"

 

ผบ.ทบ.ยันจัดซื้อรถหุ้มเกราะ 4 พันล้านบาท โปร่งใส

ผู้จัดการออนไลน์ - เมื่อวันที่ 5 ส.ค. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่กองทัพจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะรถหุ้มเกราะด้วยเงินจำนวนมากถึง 4,000 ล้านบาท ว่า กองทัพได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล และส่งคณะทำงานไปดูบริษัทรถหุ้มเกราะว่ามีจริงหรือไม่ แล้วนำข้อมูลกลับมาประเมินอีกครั้ง และระบุว่าการสั่งซื้อรถหุ้มเกราะกว่า 90 คน จากยูเครน ขณะนี้ยังไม่อนุมัติ และยืนยันว่าการจัดซื้อเป็นไปอย่างโปร่งใส

 

"บิ๊กสุ" ชี้สถานการณ์การเมืองไทยจะดีขึ้นหลังการเลือกตั้ง

ผู้จัดการออนไลน์ - พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตสภารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) เปิดบ้าน ซ.ระนอง 2 ให้นายทหารเข้าอวยพรวันเกิดครบรอบ 74 ปี และได้กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองน่าจะดีขึ้นหากมีการเลือกตั้ง ส่วนการที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. อาจลงเล่นการเมือง คงเห็นว่าตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ยังไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศชาติได้ จึงต้องการทำงานต่อไป ซึ่งประธาน คมช. คงชั่งใจแล้วว่า จะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้

 

"มีชัย"ชี้เป็นหน้าที่ กกต.ตรวจสอบคนทุ่มเงิน30ล้านซื้อตัวอดีต ส.ส.

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกร้องให้ส่งข้อมูลกรณีที่ออกมาเปิดเผยว่า มีพรรคการเมืองทุ่มเงินจำนวน 30 ล้านบาท เพื่อซื้อตัวอดีต ส.ส.เข้าสังกัด ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องไปสอบว่ามีจริงหรือไม่มีจริง ไม่ใช่หน้าที่ของชาวบ้าน ส่วนกรณีที่ฝ่ายการเมืองออกมาติงว่า การออกมาพูดโดยไม่รู้จริง อาจทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นได้ นายมีชัย กล่าวว่า หากคิดเช่นนั้นก็อย่าไปวุ่นวาย เพราะไม่ได้บอกว่า พรรคใดที่ทำเช่นนั้น การที่ผู้สื่อข่าวไปถามว่า เป็นพรรคนั้นหรือไม่เป็นเรื่องที่ผู้สื่อข่าวไปเติมเอาเอง สื่อก็เป็นพยานได้ว่า ตนไม่เคยระบุว่าเป็นพรรคใด

 

"เหมือนกับการได้ข่าวว่า จะมีโจรบุกปล้นบ้าน ถ้าตำรวจมาบอกว่า ให้ไปเอาหลักฐานมา แล้วจะมีตำรวจไว้ทำไม เมื่อคนบอกว่ามีข่าวเช่นนี้ กกต.ก็ต้องไปดูว่ามีจริงหรือไม่ หากไม่มีจริง จะได้บอกว่าไม่มี ประชาชนจะได้สบายใจ เพราะ กกต.ทำหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง ให้เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม ถ้า กกต.รู้สึกว่า จะมีอะไรที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม กกต.ต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด จะไปโยนให้คนอื่นทำได้อย่างไร แต่ถ้า กกต.คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ก็ให้บอกประชาชนว่าเป็นเรื่องธรรมดา ประชาชนจะได้รับรู้ว่า ต่อไปใครจะเอาเงินมากองก็ได้" นายมีชัย กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่ให้ข้อมูลหลักฐานใดๆ ใช่หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า เราได้แต่บอกว่า มีคนเขาซื้อเสียง ได้แต่บอกว่าแถวนั้นเขามี ถ้าไปเอาพยานหลักฐานมาได้ ก็เท่ากับเป็นผู้ผิดเสียเอง ตนไม่มีอำนาจอะไร เพียงแต่มีเบาะแสมาจึงมาบอก

 

ด้านร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง แกนนำกลุ่มไทยรักไทย ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวซื้อตัวอดีต ส.ส.หัวละ 30 ล้านบาท และว่า เวลานี้มีอดีต ส.ส.กว่า 300 คน ขอย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชาชน จึงไม่จำเป็นต้องไปซื้อตัว ส.ส. น่าจะเป็นการสร้างข่าวมากกว่า เพราะมีลักษณะคล้ายกับเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 ที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ เพื่อรองรับรัฐบาลทหาร หรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่จะเข้ามาเล่นการเมือง

 

"ข่าวอย่างนี้ ถ้ามีจริง ก็เกิดจากกลุ่มการเมืองที่ตั้งขึ้นมา เพื่อรองรับรัฐบาลทหาร และจงใจใส่ร้ายป้ายสีกลุ่มไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนที่มี อดีต ส.ส.ไปขอสังกัดพรรคเป็นจำนวนมาก เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นการกระทำของกลุ่มไทยรักไทย ผมคิดว่าน่าจะเป็นผู้ที่จะตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพื่อรองรับ คมช. เป็นผู้ที่ไปพูดจาหว่านล้อมกับอดีต ส.ส. และนำเรื่องการแจกใบเหลือง - ใบแดง มาพูดให้คล้อยตาม ก่อนใช้เงินในการดึงตัว ส.ส. กลุ่มไทยรักไทยรับทราบข้อมูลนี้มาตลอด และสอดคล้องกับความเห็นของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ" ร.ท.กุเทพ กล่าว

 

 





เศรษฐกิจ

 

หุ้นไทยปิดตลาดร่วง21จุดตามตปท. กลุ่มพลังงานกดดัชนี

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยเช้าวานนี้ (6 ส.ค.) หลังเปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีไปทดสอบจุดต่ำสุดที่ 813.14 จุด ก่อนกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในช่วงท้ายตลาดปิดที่ 815.87 จุด ลบ 21.86 จุด ลดลง 2.61% มูลค่าซื้อขายประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท

 

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย PTT ปิดที่ 292.00 บาท ลบ 10.00 บาท RRC ปิดที่ 23.60 บาท ลบ 0.80 บาท BBL ปิดที่ 119.00 บาท ลบ 5.00 บาท PTTEP ปิดที่ 118.00 บาท ลบ 5.00 บาท และ TOP ปิดที่ 77.00 บาท ลบ 2.50 บาท

 

นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด ให้ความเห็นถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ตลาดจะปรับลง เพราะตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงแรง เช้านี้ตลาดในภูมิภาคก็ลง บ้านเราก็ลงตาม

 

"วันนี้น่าจะมีแรงขายหุ้นในกลุ่มน้ำมันออกมา หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลง ซึ่งหุ้นน้ำมันเป็นหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ ก็อาจมีผลกดดันดัชนีค่อนข้างมาก"

 

ขณะที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในพรุ่งนี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม ดังนั้นจึงไม่มีปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงนี้ด้วย

 

สำหรับแรงขายของนักลงทุนต่างชาตินั้น น่าจะมีต่อเนื่องในช่วงนี้ โดยช่วงระหว่าง 27 ก.ค.-3 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่างชาติขายหุ้นแล้ว มูลค่าราว 1.3 หมื่นล้านบาทนักลงทุนจึงต้องระมัดระวังแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ

 

กฎหมายธุรกิจต่างด้าวเข้าสนช.พุธนี้ ต่างจากร่างของกระทรวงพาณิชย์

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันพุธที่ 8 ส.ค. จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว

 

ร่างดังกล่าวมีเนื้อสำคัญเกี่ยวกับบทนิยามคำว่า "ต่างด้าว" โดยได้มีการยกเลิกบทนิยามในมาตรา 4 ของพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และให้ใช้ความต่อไปนี้ "คนต่างด้าว" หมายความว่า (1) บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (2) นิติบุคคลซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย

(3) นิติบุคคลที่จดทะเบียนในไทย และมีลักษณะดังต่อไปนี้ (ก)นิติบุคคลซึ่งมีหุ้นอันเป็นทุนตั้งแต่กึ่งหนึ่งของนิติบุคคลนั้นโดยถือบุคคลตาม (1)หรือ(2) หรือนิติบุคคลซึ่งมีบุคคลตาม(1)หรือ(2) ลงทุนมีมูลค่าตั้งแต่กึ่งหนึ่งของทุนทั้งหมดในนิติบุคคลนั้นหรือนิติบุคคลตาม(1)หรือ(2) มีอำนาจตามกฎหมายหรือตามข้อบังคับหรือตามข้อตกลงในการออกเสียงลงคะแนนตั้งแต่กึ่งหนึ่งของจำนวนคะแนนเสียงที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของนิติบุคคลนั้น และใน(ข) ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียน ซึ่งหุ้นส่วนหรือผู้จัดการเป็นบุคคลตาม (1)

 

นอกจากนี้ยังให้คำจำกัดความ "คนต่างด้าว" ใน (4) ที่เกี่ยวกับนิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนในไทย ซึ่งมีหุ้นอันเป็นทุนตั้งแต่กึ่งหนึ่งของนิติบุคคลนั้นโดยถือบุคคลตาม (1) (2) หรือ (3) หรือนิติบุคคลซึ่งมีบุคคลตาม (1) (2) หรือ (3) ลงทุนมีมูลค่าตั้งแต่กึ่งหนึ่งของทุนทั้งหมดในนิติบุคคลนั้นหรือนิติบุคคลตาม (1) (2) หรือ (3) มีอำนาจตามกฎหมายหรือตามข้อบังคับหรือตามข้อตกลงในการออกเสียงลงคะแนนตั้งแต่กึ่งหนึ่งของจำนวนคะแนนเสียงที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของนิติบุคคลนั้น

 

ในส่วนของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งกรรมการส่วนใหญ่เป็นปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการค้า การลงทุน เช่น ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานกรรมาธิการ

 

แต่กรรรมาธิการวิสามัญได้มีการเพิ่มสัดส่วนของกรรมการที่มาจากผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย แห่งละ 1 คนไปเป็นคณะกรรมการด้วย ทั้งนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นไปตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไข

 

 





คุณภาพชีวิต

 

อย.เตือนวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ผลเพียงร้อยละ 70

ผู้จัดการออนไลน์ - นายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เชื้อไวรัสเอชพีวี สายพันธุ์ 6 สายพันธุ์ 11 สายพันธุ์ 16 และสายพันธุ์ 18 ที่โฆษณาตามแผ่นพับเชิญชวนฉีดวัคซีน 3 เข็ม ราคาไม่เกิน 15,000 บาท เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยระบุว่า เป็นการโฆษณาที่มีข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วน เพราะวัคซีนเอชพีวี สายพันธุ์ 16 และสายพันธุ์ 18 ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้เพียงร้อยละ 70 เท่านั้น ซึ่งเท่ากับอัตราการเกิดโรคจาก 2 สายพันธุ์นี้ แต่หากไปติดเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์อื่น ก็ไม่สามารถป้องกันได้ จึงเรียกร้องให้แพทย์บอกข้อเท็จจริงทั้งหมดกับคนไข้ก่อนตัดสินใจฉีดวัคซีนให้

 

นายแพทย์สมศักดิ์ สุทัศน์วรวุฒิ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า ผู้หญิงในช่วงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 15 - 26 ปีเท่านั้น ที่เหมาะสำหรับฉีดวัคซีน และต้องไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น การเปลี่ยนคู่นอนหลายคน การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย มีประวัติเป็นกามโรค

 

ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ ร่วมกับราชวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง เตรียมออกแถลงการณ์ถึงแพทย์ทั่วประเทศ ให้แนะนำเกี่ยวกับการใช้วัคซีนมะเร็งปากมดลูกภายในเดือนนี้

 

กรมพินิจฯ อนุญาตเด็กประพฤติดีลาเยี่ยมแม่ ได้ช่วงหยุดวันแม่

เดลินิวส์ - นายไพศาล วิเชียรเกื้อ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า สำหรับวันแม่แห่งชาติปีนี้ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้ให้นโยบายทุกสถานพินิจฯ จัดงานวันแม่ตั้งแต่ 10-15 ส.ค. เพื่อผ่อนคลายความคิดถึงครอบครัวให้เด็กในสถานพินิจฯ พร้อมจัดกิจกรรมให้เด็กได้พบญาติ สำหรับเด็กที่มีพฤติกรรมดีตลอดสามารถยื่นเรื่องขอกลับไปเยี่ยมแม่ได้ ถ้ามีคะแนนสะสมที่ดีก็จะได้รับอนุญาตให้ลากลับบ้าน แต่ในรายที่ไม่ได้รับอนุญาต สถานพินิจฯ แต่ละแห่งก็จะจัดให้แม่ได้เดินทางมาพบ แต่ที่มีปัญหามักเป็นกลุ่มเด็กที่ผู้ปกครองไม่ประสงค์จะมาเยี่ยมหรือครอบครัวแตกแยก เมื่อถึงโอกาสที่มีการจัดกิจกรรมครอบครัว ก็มักเกิดความเครียด กลุ่มนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลอย่างใกล้ชิด

 

บอร์ด ประกันสังคม ถกเตรียมชะลอส่งเงินสมทบ 4 เดือนอ้างช่วยนายจ้าง

เดลินิวส์ - วานนี้ (6 ส.ค.) ที่กระทรวงแรงงานนายอภัย จันทนจุลกะ รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีการจัดตั้งวอร์รูมเพื่อให้เป็นศูนย์ปฏิบัติการวิเคราะห์และป้องกันสถานการณ์ปัญหาการเลิกจ้างทั่วประเทศว่าศูนย์ดังกล่าวเป็นเสมือนห้องปฏิบัติการเร่งด่วนแก้ปัญหาด้านแรงงานโดยมีนายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธาน มีหน้าที่ออกมาตรการรับมือสถานการณ์และปัญหาที่อาจก่อให้เกิดการเลิกจ้าง โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลสถานประกอบการทุกจังหวัดมาไว้ที่ส่วนกลาง เพื่อวิเคราะห์ประมวลผลการแก้ปัญหาอย่างฉับไวตรงตามข้อเท็จจริง ซึ่งตนตั้งความหวังว่าแนวทางดังกล่าวจะสามารถแก้ปัญหาและก่อให้เกิดการจ้างงานให้กับลูกจ้างที่ตกงานทั่วประเทศ

 

"ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) คณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด) จะมีการประชุมพิจารณาวาระด่วนเรื่องมาตรการชะลอการจ่ายเงินสมทบตามข้อเสนอของนายจ้าง ผู้ประกอบการเซรามิค ผลิตภัณฑ์ไม้เรียกร้องเข้ามา ซึ่งผมได้แจ้งนายจุฑาธวัชในฐานะประธานบอร์ดสปส.ขอให้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมเพื่อชดลดภาระค่าใช้จ่ายของนายจ้างตามกรอบกฎหมายที่กระทรวงแรงงานสามารถทำได้ เราคงต้องคำนึงถึงความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การพิจารณาต้องขึ้นอยู่กับบอร์ดจะเห็นเป็นอย่างไร หากอนุมัติก็ต้องถือเป็นมาตรการเห็นใจนายจ้าง เงินในกองทุนอาจจะน้อยลงแต่ก็เป็นยอดที่ไม่มาก"นายอภัย กล่าว

 

ด้านนายจุฑาธวัช กล่าวว่า การพิจารณาของบอร์ดเรื่องชะลอการจ่ายเงินสมทบได้ตั้งเกณฑ์ว่าจะยึดระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบออกไป 4 เดือน จากนั้นจะดูทิศทางเศรษฐกิจ หากยังไม่ดีขึ้นก็ต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้การขยายเวลาอีกครั้ง ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้นายจ้างเบาแรงมีเงินเหลือไปบริหารกิจการ ให้มีโอกาสตั้งตัว ซึ่งการพิจารณาของบอร์ด หากเห็นด้วยกับข้อเสนอชะลอการส่งเงินสมทบทางนายอภัย รมว.แรงงาน ก็จะนำเรื่องนี้รายงานให้ครม.ทราบต่อไป ทั้งนี้การพิจารณาเรื่องนี้ต้องพิจารณาช่วยเหลือทุกสถานประกอบการ โดยไม่เลือกปฏิบัติและจะดำเนินการชะลอในส่วนของลูกจ้างไปด้วย 

 

"การชะลอส่งเงินสมทบน่าจะเป็นทางเลือกที่บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนได้ระดับหนึ่ง แต่หากว่ามีการเสนอให้ลดเงินสมทบคงเป็นไปได้ยาก เพราะต้องมีการแก้ไขกฎหมายประกันสังคม ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่และต้องใช้เวลานาน" นายจุฑาธวัชกล่าว

 

ขณะที่นายจำลอง ก่อมขุนทด ปรึกษากลุ่มสหภาพแรงงานภาคตะวันออก กล่าวว่า สถานการณ์การจ้างงานในจ.ระยอง ขณะนี้ลูกจ้างยังคงถูกบอกเลิกจ้างเป็นระยะ โดยมีบริษัทที่อยู่ระหว่างการเลิกจ้างอีก 2 แห่ง คือ บริษัทเขมจิรา ขนส่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับขนส่งน้ำมันให้กับ บริษัท IRPC หรือ TPI เดิม มีลูกจ้างประมาณ 140 คน และบริษัท พลาสติก ทรานสปอร์ต จำกัด มีคนงานประมารณ 140 คนซึ่งเป็นบริษัทรับขนส่งเม็ดพลาสติก ให้กับ บริษัท IRPC เช่นกัน โดยใช้วิธีการเดียวกันคือให้ลูกจ้างเซ็นชื่อลาออกแล้วจ่ายค่าชดเชยให้ ซึ่งขณะนี้แต่ละที่มีคนงานถูกเลิกจ้างไปแล้วจำนวนกว่า 40 คนทั้งนี้เห็นว่าคนงานมีอายุการทำงานหลายปี มีการจ่ายสวัสดิการมาก ต้นทุนการขนส่งสูง นอกจากนี้ทาง IRPC ต้องการที่จะจ้างบริษัทอื่นเข้ามาดำเนินการ

 

นายสุเทพ  อุ่นสมัย รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ได้สั่งการให้สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยองเข้าไปดูแลใน 2 บริษัทดังกล่าวแล้ว ซึ่งหากลูกจ้างยินยอมและนายจ้างก็ทำการจ่ายค่าจ้างค้างจ่ายและค่าชดเชยก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากลูกจ้างไม่ยอมก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงานที่จะต้องเข้าไปทำการเจรจาเกลี่ยหาข้อสรุปในที่สุด

 

 





ต่างประเทศ

 

"กุสเมา" ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งติมอร์ตะวันออก

ผู้จัดการออนไลน์ (บีบีซี) - วานนี้ (6 ส.ค.) ประธานาธิบดีโฆเซ รามอส ฮอร์ตา ตัดสินใจเลือกนายซานานา กุสเมา ผู้นำการเรียกร้องเอกราชขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่แห่งติมอร์ตะวันออก

 

ฮอร์ตา ตัดสินใจเลือกนายกฯ คนใหม่ ภายหลัง พรรคซีเอ็นอาร์ทีของกุสเมา และคู่ปรับสำคัญอย่างพรรคเฟรติลิน ไม่สามารถบรรลุถึงข้อตกลงที่ว่าใครจะเป็นผู้นำในการตั้งรัฐบาลใหม่ โดยที่ทั้งสองพรรคไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภา จากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

 

โดยการเลือกตั้งในครั้งนั้น ถือเป็นการเริ่มต้นอีกครั้งของประเทศใหม่ ซึ่งยากจน

 

ติมอร์ตะวันออกต้องเผชิญกับสูญญากาศทางการเมืองนับตั้งแต่กลางปี 2006 เมื่อมารี อัลคาติรี นายกรัฐมนตรีจากพรรคเฟรติลีน ถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากเกิดความรุนแรงตามท้องถนน ซึ่งอุบัติขึ้นจากแรงอาฆาตระหว่างทหารและตำรวจ จนเป็นเหตุให้ประชาชนหลายนับแสนคนต้องอพยพออกจากถิ่นพำนักของตัวเอง

 

ปักกิ่งเล็งเสนอก.ม.คุ้มครองข้อมูลส่วนตัวครั้งแรก

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : รายงานข่าวแจ้งว่า กฎหมายฉบับนี้มีความจำเป็นในจีน หลังจากประชาชนจำนวนมากขึ้นพบว่า ข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา เช่น เบอร์โทรศัพท์มือถือ บ้านเลขที่ และข้อมูลประวัติทางการแพทย์ ตกไปอยู่ในมือของบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่างกฎหมายนี้จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ได้จัดวางกรอบที่จะให้บริษัทหรือองค์กรเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะห้ามนำข้อมูลส่วนบุคคลเปิดเผยแก่บุคคลที่ 3 ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล นอกจากนี้ บริษัทหรือองค์กรที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า จะต้องไม่นำข้อมูลของลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์

 

อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นในการเปิดเผยข้อมูลต่อบุคคลที่ 3 ที่เป็นเจ้าพนักงานสอบสวนด้านสื่อ ภาษี และคดีอาชญากรรม ทั้งนี้ ในปัจจุบันจีนยังไม่มีกฎหมายปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คาดว่ากฎหมายใหม่นี้จะนำมาใช้ได้ในราวปีหน้า

 

ตอลิบานลั่น'บุช'-ปธน.อัฟกันต้องรับผิดชอบชะตากรรมตัวประกันโสม

ผู้จัดการออนไลน์ - กลุ่มตอลิบาน ระบุว่าการหารือกันระหว่าง ฮามิด คาร์ไซ ปธน.อัฟกานิสถานและปธน.สหรัฐฯ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช ที่แคมป์เดวิด ในวันจันทร์ (6 ส.ค.) ควรได้ข้อสรุปเป็นการปล่อยตัวนักโทษ ถ้าไม่อย่างนั้นต้องรับผิดชอบการตายของ 21 ตัวประกันที่เหลือ

 

คำขู่ใหม่ของตอลิบานออกมาระหว่างที่ตัวแทนเจรจาเกาหลีใต้กับกลุ่มหัวรุนแรงยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเลือกสถานที่สำหรับเจรจา เนื่องจากตอลิบาน ต้องการให้พบกันในอาณาเขตที่ตนเองควบคุมหรือภายใต้การรับรองของสหประชาชาติ แต่ตลอด 4 วันของการเจรจากลับมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย ขณะที่สหประชาชาติเองยืนยันว่าไม่เคยได้คำขอจากกลุ่มหัวรุนแรงแต่อย่างใด

 

ตอลิบาน ได้สังหารตัวประกันไปแล้ว 2 รายและย้ำว่าจะฆ่าตัวประกันที่เหลือซึ่งเป็นหญิง 18 คนและชาย 3 คนอีก จนกว่ารัฐบาลอัฟกานิสถานจะยินยอมปล่อยตัวนักโทษออกมา

 

โฆษกกลุ่มตอลิบาน ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า "คาร์ไซ เดินทางไปสหรัฐฯ และมีความเป็นไปได้ที่เขาจะหารือกับ บุช เพื่อปลดเปลื้องตัวประกันแลกกับนักโทษ เพราะว่า บุช และ คาร์ไซ ต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของตัวประกัน"

 

รัฐบาลอัฟกานิสถาน ปฏิเสธที่จะปล่อยตัวนักโทษ โดยอ้างว่าจะเป็นการจุดเชื้อให้มีเหตุลักพาตัวในประเทศมากยิ่งขึ้น "เราจะไม่ดำเนินใดๆที่เป็นการสนับสนุนให้มีเหตุลักพาตัว ส่งเสริมการขู่เข็ญ แต่เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาปล่อยตัวประกัน" คาร์ไซ บอกกับซีเอ็นเอ็น

 

ในการหารือกันที่แคมป์เดวิด ได้พุ่งเป้าไปที่ความรุนแรงซี่งย่ำแย่ลงในอัฟกานิสถานและภัยคุกคามจากกลุ่มนักรบที่ซ่อนตัวในประเทศใกล้เคียงอย่างปากีสถาน

 

รัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ร้องขอสหรัฐฯ และอัฟกานิสถานช่วยเจรจาปล่อยตัวประกัน ขณะเดียวกันตัวแทนของโสมขาวเองยังได้เข้าพบบรรดาผู้นำปากีสถานซึ่งสนับสนุนตอลิบาน เพื่อเรียกร้องให้พวกเขาใช้อิทธิพลช่วยเหลืออาสาสมัครศาสนาคริสต์ที่ถูกจับเป็นตัวประกันและมีหลายคนกำลังป่วยหนัก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท