ข่าวมอนิเตอร์ ประจำวันที่ 15 สิงหาคม. 2550

 


 

การเมือง

 

 

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันลงสัตยาบันกับผวจ.กาฬสินธุ์ ว่าจะไปออกเสียงประชามติ

กรมประชาสัมพันธ์ - ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในจ.กาฬสินธุ์ จำนวน 284 คน ร่วมกันประกาศสัตยาบันว่าจะสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยและจะไปออกเสียงประชามติ ในวันที่ 19 ส.ค. 2550

 

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจ.กาฬสินธุ์ เชิญผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนจ.กาฬสินธุ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และ เทศบาลตำบล ทั้ง 24 แห่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลของจ.กาฬสินธุ์ ทั้ง 124 แห่ง และกำนัน อีก 135 ตำบล รวม 284 คน มาร่วมกันลงนามและประกาศสัตยาบันว่า จะส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และจะเชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิไปออกเสียงประชามติ ในวันที่ 19 ส.ค. 50 โดยพร้อมเพรียงกันให้มากที่สุด และให้ได้ตามเป้าหมาย ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ตามที่จ.ตั้งไว้ โดยมี นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจ.กาฬสินธุ์ พลตำรวจตรีพิสัณ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.กาฬสินธุ์ นายธีรวัฒน์ ร่มไทรทอง สสร. และ กกต. จ.กาฬสินธุ์ ร่วมเป็นสักขีพยาน

 

ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจ.กาฬสินธุ์ได้ร่วมลงนามสัตยาบันกับรองนายกองค์การบริหารส่วนจ.กาฬสินธุ์, นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์, ตัวแทนนายก อ.บ.ต. ของจ.กาฬสินธุ์ รวม 4 ฉบับ ซึ่งประกาศว่าจะไปออกเสียงประชามติอย่างแน่นอน

 

ในช่วงโค้งสุดท้ายของการรณรงค์เชิญชวนประชาชนไปออกเสียงประชามติ หน่วยงานต่าง ๆ ในจ.กาฬสินธุ์ เช่น ฝ่ายปกครองได้มอบหมายให้อาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตย (อสพป.), สสร., กอ.รมน.จ., กกต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเร่งมือออกทำการให้ความรู้ และรณรงค์ให้ประชาชนไปออกเสียงประชามติ เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่จ.ตั้งไว้ คือ ร้อยละ 70

 

 

กองทัพอากาศจัดเครื่องบินกระจายเสียงรณรงค์ให้ประชาชนภาคเหนือไปใช้สิทธิลงประชามติ

กรมประชาสัมพันธ์ - กองทัพอากาศจัดเครื่องบินกระจายเสียงรณรงค์ให้ประชาชนภาคเหนือไปใช้สิทธิลงประชามติ ขณะที่วันพรุ่งนี้นายกรัฐมนตรีจะมาเปิดงานมหกรรมประชาธิปไตยที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี

 

กองทัพอากาศ ร่วมกับคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชนจ.เชียงใหม่ จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 9 หรือนอร์แมต จากฝูงบิน 461 กองบิน 46 พิษณุโลก มาประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิลงประชามติในพื้นที่ภาคเหนือไปจนถึงวันที่ 17 ส.ค.นี้ โดยเครื่องบินกระจายเสียงดังกล่าวมีกำลังส่ง 2,100 วัตต์ บินเหนือน่านฟ้าประมาณ 500 ฟุต จากพื้นดินเพื่อกระจายเสียงในเขตพื้นที่ภาคเหนือเชิญชวนคนไปลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญวันอาทิตย์ที่ 19 ส.ค.นี้

สำหรับจ.เชียงใหม่ขณะนี้ ทุกหน่วยงานต่างเร่งระดมกำลังลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน โดยในวันที่ 15 ส.ค.นี้พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมประชาธิปไตย ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ โดยสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.เชียงใหม่ จะถ่ายทอดสด ส่วนสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 เชียงใหม่ จะบันทึกเทปเพื่อเผยแพร่ขยายผลสู่ประชาชนในพื้นที่ด้วย

 

 

จ.มุกดาหาร นำมนุษย์ไฟเขียว รณรงค์ประชาชนร่วมออกเสียงประชามติ แบบเคาะประตูบ้าน

กรมประชาสัมพันธ์ - จ.มุกดาหาร นำมนุษย์ไฟเขียว ชาย-หญิง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ อส. ออกรณรงค์ให้ประชาชน ร่วมออกเสียงประชามติและสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 แบบเคาะประตูบ้าน

 

พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจ.มุกดาหาร กล่าวว่า การรณรงค์ในวันนี้ เป็นสิ่งที่จะบอกประชาชนให้ทราบว่า แม้ไม่ใช่หน้าที่แต่ถือเป็นสิทธิของประชาชน ในการส่งเสริมการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย โดยจ.มุกดาหาร มีการรณรงค์ทั้งในส่วนของ กกต. และจ.ตามโครงการข้าราชการไทยใสสะอาด หวังให้ประชาชนร่วมกันไปออกเสียงประชามติ 19 ส.ค. นี้ ให้มากที่สุด

ส่วนกระแสข่าวเรื่องการใช้เงินซื้อเสียงประชาชนหลายจ.ในภาคอีสาน เพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนั้น ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจ.มุกดาหาร ยืนยัน สำหรับจ.มุกดาหารไม่มีข่าวเรื่องนี้

 

 

ผบ.ทบ. พร้อมด้วยแม่ทัพภาค 2 กองกำลังสุรนารี ประชุมเชิงปฏิบัติการส่วนราชการ 8 จ.อีสาน

กรมประชาสัมพันธ์ - ผู้บัญชาการทหารบกพร้อมด้วยแม่ทัพภาค 2 - กองกำลังสุรนารี จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ส่วนราชการ 8 จ.อีสานล่าง 400 คนด้านความสัมพันธ์กับประชาชนระดับรากแก้ว

พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยคณะเดินทางไปยัง จ.สุรินทร์ โดยมี พลโทสุเจตน์ สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 พลตรีธวัชชัย สุมทรสาคร ผบ.กกล.สุรนารี นายพูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ผวจ.สุรินทร์ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยแถวคณะนายทหารชั้นสัญญาบัตร ก่อนเดินทางไปยัง โรงแรมทองธารินทร์ โดยมีคณะนักศึกษาพยาบาลวิชาชีพจากภาคใต้ มอบช่อดอกไม้และให้การต้อนรับ ก่อนเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานของส่วนราชการที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ที่มีความสัมพันธ์กับประชาชนในระดับรากแก้ว ในพื้นที่ 8 อีสานตอนล่างคือ อุลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด ยโสธร บุรีรัมย์ นครราชสีมา และ จ.สุรินทร์ รวมท้งสิ้น 400 คน ระหว่างวันที่ 14-15 ส.ค. 2550 ซึ่งเป็นบรรยายสรุปเกี่ยวหน้าที่ของกองทัพที่มีต่อประชาชน-ความมั่นคงของชาติ - เทคโนโลยีกับความมั่นคง สถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนการลงมติร่างรัฐธรรมนูญปี50 พร้อมกล่าวยกย่องสื่อในยุคนี้เปรียบเป็นอาวุธได้อย่างหนึ่ง หากนำมาใช้ให้ถูกกับสถานการณ์

 

การประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว กองทัพบกได้เน้นให้เจ้าหน้าที่นำไปปฏิบัติและบอกกล่าวต่อประชาชนระดับรากแก้ว ให้มีความรู้ความเข้าใจและทราบปัญหาที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ ให้มีจิตสำนึกร่วมกัน พร้อมปฏิบัติตนในกรอบแนวทางทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง

 

 

กต.พร้อมร่วมมือ ยื่นเรื่องตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทย-อังกฤษ

กรมประชาสัมพันธ์ - หลังศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และภริยา ในความผิดทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก

 

นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ขึ้นกับทางอัยการว่าจะพิจารณาขอส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ หากอัยการพิจารณาเห็นควรดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว กระทรวงต่างประเทศก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือและดำเนินการตามคำขอต่อไปในฐานะที่เป็นช่องทางการยื่นเรื่องตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน ส่วนขั้นตอนดำเนินการใช้เวลานานเพียงใด

 

อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวว่า ไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการดำเนินงาน แต่ในหลักการกระทรวงการต่างประเทศจะรอดูว่าหากระยะเวลาผ่านไปตามสมควรหลังมีการส่งเรื่องไปแล้วก็จะมีการทวงถาม ทั้งนี้การพิจารณาว่าจะมีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ก็ขึ้นกับทางการอังกฤษจะพิจารณาว่าฐานความผิดที่ศาลฎีการะบุไปถือเป็นความผิดตามกฎหมายอังกฤษด้วยหรือไม่ ดังนั้นจึงขึ้นกับการตีความของทางอังกฤษเองซึ่งกระทรวงคงไม่สามารถพูดแทนได้

 

 

'ปณิธาน'ชี้ไม่ง่ายนำตัว'ทักษิณ'กลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คงจะเป็นเรื่องยากที่ศาลจะขอเรียกตัวจำเลยมาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เพราะเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองระหว่างประเทศ ในแง่ของกฎหมายระหว่างประเทศ ถ้าประเทศไทยมีการร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน อาจจะมีโอกาสบ้าง แต่ไม่ง่าย ในกรณีส่งอดีตผู้นำทางการเมือง แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ได้ขอลี้ภัยทางการเมือง แต่ในทางปฏิบัติแล้วหลายประเทศก็อาจมีข้อแม้มากมาย เรื่องนี้ต้องคิดค่อนข้างให้มาก ในกรณีนี้รัฐบาลไม่ได้เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้น การให้ความร่วมมือการดำเนินคดีในกรณีนี้อาจจะมีปัญหากับประชาคมโลก จากคนของเขาเอง ประชาชนของเขาเองและอาจจะทับซ้อนในแง่จุดยืนทางการเมือง กฎหมายขึ้นกว่าเดิมโดยทั่วไป ประเทศใดที่มีรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร ก็จะไม่ได้รับความร่วมมือทางการเมืองจากประเทศตะวันตก

 

ดังนั้น เรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนไม่มีข้อบังคับ แต่บางกรณีอาจมีช่องว่างที่หลีกเลี่ยงได้ ฉะนั้นเมื่อเป็นประเด็นปัญหาทางการเมืองในลักษณะที่มีจุดยืนแตกต่างกัน ในบางประเทศอาจมีกฎหมายไม่ให้ความร่วมมือกับประเทศที่มาจากรัฐประหาร เราเองอาจจะพิจารณาและระมัดระวังในเรื่องนี้เป็นพิเศษ

"พ.ต.ท.ทักษิณ กลายเป็นบุคคลสำคัญทางเศรษฐกิจ มีการลงทุน ดำเนินกิจกรรมทั้งเปิดเผยและปกปิด ซึ่งบางเรื่องเราก็ไม่อาจทราบได้อาจจะมีสายสัมพันธ์โยงใยกับนักการเมืองท้องถิ่นของกลุ่มทุนในประเทศอังกฤษ ซึ่งผมมองว่านักการเมืองเหล่านั้นอาจจะวิ่งเต้นล็อบบี้ให้รัฐบาลอังกฤษกดดันไม่ให้มีการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนขณะเดียวกัน อังกฤษก็ต้องทบทวนความสัมพันธ์กับประเทศไทย ที่แม้ว่าจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่หากมองดูแล้วรัฐบาลหน้าที่มาจากการเลือกตั้งก็อาจมีผลกระทบได้ ผมคิดว่าอังกฤษเขาคงรอให้ไทยมีการเลือกตั้ง ดูแนวโน้มการพิจารณาคดี ดูท่าทีรัฐบาลใหม่ว่าจะมีการเรียกร้องเรื่องดังกล่าวหรือไม่ เขาคงพิจารณาประเด็นเหล่านี้ด้วย" นักวิชาการรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าว

 

เมื่อถามว่า การที่ศาลจะพิจารณาครั้งแรกใหม่ในวันที่ 25 ก.ย. จะส่งผลให้คดีมีความล่าช้า และเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า คงเป็นไปตามขั้นตอนปกติของกระบวนการยุติธรรม แต่อาจเป็นไปได้ที่จะเป็นโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ดำเนินกิจกรรมต่างๆทางการเมือง มารณรงค์เรียกร้องตามที่พูดอยู่เสมอว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ไม่มีความชอบธรรมมีทหารหนุนหลังและต้องการกดดันตนเองผ่านขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ทำให้ประเด็นเหล่านี้มีความเป็นจริงขึ้น เพราะการดำเนินคดี พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะมีประเด็นทางการเมืองเกิดขึ้นได้ และพ.ต.ท.ทักษิณ อาจใช้โอกาสนี้เป็นเครื่องมือต่อรองกับรัฐบาลไทย

 

 

ครม.มีมติ ตั้งกก.ตรวจสอบความเสียหายจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลชุดก่อน

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - ร้อยเอกนายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นสมควรให้แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์ การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษ และการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชนในรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยมีนายคนิตย์ ณ นคร เป็นประธาน และมีกรรมการ อาทิ นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตสมาชิกวุฒิสภาจ.นครราชสีมา ร่วมด้วย ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

นอกจากนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะที่ 2 ที่มีนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน โดยให้ดำเนินโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อล้านครอบครัว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ซึ่งเป็นการปรับปรุงจากโครงการของรัฐบาลชุดที่แล้ว

 

 

โฆษกทักษิณชี้หมายจับเป็นแค่การหวังผลทางการเมือง

ไอ.เอ็น.เอ็น. - โฆษก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเบรกกระแสเรื่องหมายจับในประเทศไทยอย่างทันควัน เบี่ยงประเด็นบอกเป็นเพียงแค่เรื่องการเมืองเท่านั้น ด้านกระบอกเสียงของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย และเจ้าของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ลดกระแสความร้อนแรงเรื่องหมายจับของ ทักษิณ ชี้ชัดเป็นเพียงแค่การเรียกร้องความสนใจจากสาธารณชน เท่านั้น หลังศาลฎีกาไทยออกหมายจับ เมื่อวันอังคารที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ในข้อหาคอร์รัปชั่นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา ต้องเผชิญอยู่ในเวลานี้ทักษิณ ชันวัตร หรือ ซินราตรา ในอังกฤษ กำลังโดนสอบสวนหนักจากข้อหากว้านซื้อที่ดินย่านรัชดา ซึ่งทนายความของอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ขอร้องให้เลื่อนการไต่สวนออกไปก่อน หลังเข้ารับฟังการพิจารณาคดีนัดแรก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมอ้างว่าหากเจ้าของทีม "เรือใบสีฟ้า" เดินทางกลับประเทศไทย เพื่อต่อสู้คดีในเวลานี้คงจะไม่มีความปลอดภัยโฆษก พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งอ้างว่า การกระทำดังกล่าวหวังผลทางด้านการเมืองล้วนๆ นั้น กล่าวว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยนี่ถือเป็นการเรียกร้องความสนใจจากสาธารณชนหนล่าสุดจากรัฐบาลทหารซึ่งไม่มีอะไรจะทำกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 ส.ค.นี้"

 

 

กกต.บุรีรัมย์เสนอย้ายหัวหน้าส่วนระดับจ.เพิ่มอีก 1 ร่วมกลุ่มอำนาจเก่าเคลื่อนไหวล้มร่าง

กรมประชาสัมพันธ์ - ประธาน กกต.บุรีรัมย์เสนอย้ายหัวหน้าส่วนราชการระดับจ.เพิ่มอีก 1 ราย หลังพบมีพฤติการณ์ร่วมกลุ่มอำนาจเก่าเคลื่อนไหวต่อต้าน ล้มร่างรัฐธรรมนูญ โดยก่อนหน้านี้เสนอย้ายข้าราชการครูแล้ว 3 ราย ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงเรียน 1 ราย

 

นายเกษม วัฒนธรรม รองผู้ว่าราชการจ.บุรีรัมย์ และประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจ. ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทำเรื่องเสนอ กกต.กลาง เพื่อให้พิจารณามีคำสั่งย้ายหัวหน้าส่วนราชการระดับจ.ออกนอกพื้นที่เพิ่มอีก 1 ราย หลังพบพฤติการณ์ร่วมกับกลุ่มอำนาจเก่าเคลื่อนไหวต่อต้าน ชักจูง ประชาชนไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังได้รับร้องเรียนว่าหัวหน้าส่วนราชการคนดังกล่าว มีพฤติการณ์ส่อทุจริตในหน้าที่ โดยจะได้เสนอให้หน่วยงานต้นสังกัด สอบสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วย ขณะที่ก่อนหน้านี้ทาง กกต.จ. ได้เสนอย้ายข้าราชการครูในเขตพื้นที่อ.ลำปลายมาศแล้ว 3 ราย ซึ่งเป็นระดับผู้บริหารโรงเรียน 1 รายหลังพบพฤติการณ์เข้าข่ายขัดขวางการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติคำสั่งย้ายจาก กกต.กลาง ส่วนความคืบหน้าการซื้อเสียงคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ทาง กกต.จ.ก็ได้ทำการสอบสวนหาพยานและหลักฐาน ซึ่งก็มีผู้รายการแจ้งข่าว และมีผู้นำหลักฐานมาส่งมอบให้ กกต.อยู่ตลอด โดยพบข้อมูลการทุจริตซื้อเสียง แจกสิ่งของ ใบปลิว เพื่อปลุกระดมประชาชนไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญใน 5 อำเภอ มี อ..เมือง ลำปลายมาศ กระสัง ห้วยราช และ อ.หนองหงส์

 

ประธาน กกต.บุรีรัมย์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายก่อนการลงประชามติอยากวิงวอนให้ประชาชนชาวบุรีรัมย์ ออกไปใช้สิทธิ์ลงประชามติให้มากที่สุด และตัดสินใจในการลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง อย่าตกเป็นเครื่องมือของขบวนการใดๆ เพราะผู้ที่นำเงินมาแจกหรือนำสิ่งของมาให้นั้น ต้องหวังสิ่งตอบแทนอย่างแน่นอน ดังนั้นขอให้ประชาชนชาวบุรีรัมย์ร่วมกันกู้ศักดิ์ศรี อย่าให้ใครมาดูถูกชาวบุรีรัมย์ว่าเป็นคนที่ใช้เงินซื้อได้

 

 

ณัฐวุฒิ เชื่อลงประชามติมีโกงแน่

ไอ.เอ็น.เอ็น. - แกนนำ นปก. ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นเวทีปราศรัยประกาศอิสรภาพ เผย การลงประชามติวันที่ 19 นี้มีการโกงแน่นอน

 

เขากล่าวว่า ต้องการประกาศอิสรภาพหลังจากถูกคุมขังด้วยขบวนการตัดสินของกลุ่มเผด็จการซึ่งตนไม่ยอมรับขบวนการดังกล่าว นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ เชื่อว่าการลงประชามติในวันที่19 ส.ค. จะมีการโกงเพื่อให้ร่าง รธน. ผ่านการลงประชามติ แต่ก็ยังคาดหวังว่าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพลังบริสุทธิ์จำนวนหนึ่งช่วยกันไม่รับร่าง รธน. โดย นายณัฐวุฒิ ใช้เวลาในการปราศรัยประมาณครึ่งชั่วโมง โดยต่อจากนี้จะเป็นแกนนำนปก.รุ่น 2 ปราศรัยต่อไป ส่วน นายวีระ และ นายณัฐวุฒิ รวมถึง นายจตุพร พรมพันธุ์ และนายจักรภพ เพ็ญแขแกนนำรุ่นที่ 1 ได้เดินทางกลับบ้านพักทันที ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ระบุว่าที่ต้องกลับบ้านพักก่อนนั้นเนื่องจากต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรงขึ้นกว่านี้

 

 

ก.แรงงานวอนนายแบงก์หยุด19-20 ส.ค.ให้พนง.

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายผดุงศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือ กสร. กล่าวถึงกรณีที่สหพันธ์แรงงานธนาคารและการเงินแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือถึงพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อร้องเรียนว่าถูกเลือกปฏิบัติ นายจ้างไม่ยอมจัดให้วันลงประชามติ 19-20 ส.ค.เป็นวันหยุด ทำให้พนักงานธนาคารในห้างสรรพสินค้ากว่า หมื่นคน ไม่มีโอกาสไปใช้สิทธิลงประชามติว่า วันหยุดของลูกจ้างหรือพนักงานของธนาคารนั้น คณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ได้ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.เป็นคนจัดการ ซึ่ง ธปท.ก็ได้ให้ทุก ธนาคารพิจารณาตามความเหมาะสมและให้ยืดหยุ่นเปิดโอกาสให้พนักงานไปใช้สิทธิลงประชามติได้ เนื่องจากธนาคารเป็นหน่วยที่บริหารแตกต่างกันแต่ละสาขา และเป็นเรื่อง เศรษฐกิจของประเทศ จึงไม่จำเป็นต้องหยุดแต่ให้หมุนเวียนพนักงานหรือบริหารจัดการเพื่อไม่ให้เสียทั้ง 2 อย่าง

 

นายผดุงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของลูกจ้างเอกชนอื่นๆ กสร.ได้ออกเป็นประกาศกระทรวง ขอความร่วมมือนายจ้าง สถานประกอบการให้ประกาศว่าวันที่ 19-20 ส.ค.เป็นวันหยุด ไม่ถือเป็นวันลา และจ่ายเงินเดือนตามปกติ ซึ่งอาจจะต้องใช้วิธีการหมุนคนเข้าทำงานแทนก่อน เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการลงประชามติ แสดงเจตนารมณ์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็น ครั้งแรกของไทย แต่เรื่องนี้ กสร.ไม่สามารถที่จะไปสั่งได้ เนื่องจากเป็นอำนาจของ ธปท.โดยยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งเฉย ดูดาย ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน คือยังมีการให้ทำงานไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมงและสัปดาห์ละไม่เกิน 48 ชั่วโมง โดยคาดว่าจะสรุปสถานการณ์ทั้งประเทศ พร้อมนำเสนอต่อนายอภัย จันทนจุลกะ รัฐฒนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ภายในเดือนส.ค.นี้

นายผดุงศักดิ์ ยังทิ้งท้ายว่า หากใครเจอการละเมิดผิดกฎหมายก็ให้แจ้งมาได้ จะได้ ดำเนินตามกฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากขอให้ฝ่ายผู้บริหารกับสหภาพแรงงาน ใช้หลักแรงงานสัมพันธ์ ไม่ใช่มาตั้งแง่จับผิดกันอย่างเดียว จึงคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าคุยกันบ่อยครั้ง เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างจะจบสิ้นลง

 

 

ร่างพรบ. 6 ฉบับ ที่สนช.เสนอให้ครม.พิจารณา ได้ข้อสรุปว่าครม.มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นางเนตรปรียา ชุมไชยโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่ทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช .เสนอมาจำนวน 6 ฉบับว่า คณะรัฐมนตรีมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยมีมติรับร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย และร่างพระราชบัญญัติเพื่อนักเรียน โดยเห็นว่าทั้งร่างของสนช.และคณะรัฐมนตรี มีหลักเกณฑ์เช่นเดียวกัน ขณะที่พระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พิจารณาแล้วเห็นควรให้ปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และให้ชะลอไว้ก่อน รวมถึงเพื่อรอฉบับของรัฐบาลที่กำลังอยู่ในขั้นการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา

 

ส่วนพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรี มีมติให้รับหลักการก่อน เนื่องจากยังมีประเด็นที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย คือพระราชบัญญัติการศึกษาพิเศษสำหรับคนพิการและผู้ด้อยโอกาส รวมถึงพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542

 

"ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ได้มีการเชิญผู้แทนของกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสภาพัฒน์ แล้วก็สำนักงบประมาณร่วมกันพิจารณา แล้วก็ทั้งหมดมีบางฉบับทั้งเห็นด้วยแล้วก็ไม่เห็นด้วย"

 

นอกจากนี้ ร้อยเอกนายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ซึ่งมีหลักการเช่นเดียวกับร่างของสนช. ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีก็ได้รับมาพิจารณาเช่นกัน และกำลังอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนจะนำเสนอต่อสนช.ต่อไป

 

 

ครม.อนุมัติ อัตรากำลังร้อยละ 50 ของสตช. จากการเกษียณเมื่อปี 2549 ไปให้หน่วยงานอื่น

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - ร้อยเอกนายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้อัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการตำรวจเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2549 จำนวนร้อยละ 50 มาจัดสรรเป็นอัตรากำลังเพื่อปฏิบัติงานในภารกิจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ่ายโอนให้ส่วนราชการอื่น ได้แก่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 109 อัตรา กรมการปกครอง จำนวน 181 อัตรา สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ จำนวน 99 อัตรา และเฉลี่ยเป็นอัตรากำลังในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ จำนวน 134 อัตรา

 

"เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 27 มิถุนายน 2549 ตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังพลภาครัฐ หรือ คปร. เรื่องยุทธศาสตร์การปรับขนาดกำลังของภาครัฐ 2549-2551"

 

 นอกจากนี้ นางเนตรปรียา ชุมไชยโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรียังมีมติอนุมัติให้นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ม่อำนาจเต็มในการลงนามร่วมกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซี่ยน ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 24-25 ส.ค.นี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยการลงนามในพิธีสาส์น จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ การพิจารณาเป็นพิเศษสำหรับสินค้าข้าวและน้ำตาล การรวมกลุ่มสาขาโลจิสติกส์ของอาเซี่ยน และการรวมกลุ่มรายสาขาของอาเซี่ยนสำหรับบริการสาขาโลจิสติกส์

 

 

ครม.ตัดอัตราเกษียณให้ภารกิจ ตร.

ไอ.เอ็น.เอ็น. - ครม. มีมติ ให้อัตราว่างจากการเกษียณอายุมาเป็นอัตรากำลังในภารกิจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติถ่ายโอนให้หน่วยงานอื่น

 

ร้อยเอกนายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้อัตราว่างจากผลของการเกษียณอายุมาจัดสรรเป็นอัตรากำลังเพื่อปฏิบัติงานในภารกิจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช.ได้ถ่ายโอนให้ส่วนราชการอื่น ซึ่งเป็นไปตามการเสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ หรือ คปร. ที่สามารถให้ใช้อัตราว่างจากผลของการเกษียณอายุของราชการตำรวจเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2549 ในส่วนที่ต้องยกเลิกตามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2549 มาจัดสรรให้กรมสอบสวนพิเศษจำนวน 109 อัตรา กรมการปกครองจำนวน 181 อัตรา สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ 99 อัตรา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มเติมเป็นอัตรากำลังในพื้น 3 จ.ชายแดนภาคใต้อีกจำนวน 134 อัตรา นอกจากนี้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คณะรัฐมนตรีได้รับทราบการเสนอของกระทรวงทรัพยากรแห่งชาติและสิ่งแวดล้อมที่เสนอว่าจะมีการเติมแผนบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านป่าไม้และน้ำอย่างเต็มรูปแบบโดยจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในคราวต่อไป

 

 

ครม.อนุมัติขยายเวลาส่วนราชการขออนุมัติก่อหนี้ผูกพัน

ไอ.เอ็น.เอ็น. - ครม. เห็นชอบให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ขออนุมัติขยายระยะเวลาการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพัน ภายในวันที่ 31ส.ค.และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.

นายโชคชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่วันนี้ที่ประชุมเห็นชอบตามการเสนอของกระทรวงการคลังให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีความจำเป็นต้องดำเนินโครงการที่ตอบสนองต่อเป้าหมายในการให้บริการของกระทรวงและหน่วยงานสามารถขออนุมัติต่อรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง เพื่อขอขยายระยะเวลาการทำสัญญาขอหนี้ผูกพันได้ภายในวันที่ 31 ส.ค.และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.โดยจะต้องส่งผลการขออนุมัติขยายระยะเวลามายังสำนักงบประมาณภายในวันที่ 7 ก.ย.เพื่อรวบรวมส่ง ครม.เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป นอกจากนี้ ในส่วนของราชการที่ไม่สังกัดสำนักนายกฯ กระทรวง ทบวง ให้ขอขยายระยะเวลาการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันโครงการกับทางสำนักงบประมาณได้โดยตรง

 

 

 

เศรษฐกิจ

 

 

ธปท.+ก.คลัง จะหารือร่วมกันเกี่ยวกับดูแลสถานการณ์ค่าเงินบาท

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ จะมีวาระการพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ.เงินตรา หากกฎหมายได้รับความเห็นชอบ จะมีผลให้การตีค่าของการเปลี่ยนแปลงค่าเงินไม่ว่าจะแข็งค่าหรืออ่อนค่า จนทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำไรหรือขาดทุนทางบัญชี ไม่มีผลกระทบต่อบัญชีผลประโยชน์ประจำปีของ ธปท.อีกแต่อย่างใด เพราะร่าง พ.ร.บ.เงินตรา ที่ขอแก้ไขกำหนดให้นำทั้งกำไรและขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนไปใส่ไว้ในบัญชีพิเศษทั้ง 2 รายการ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อบัญชีผลประโยชน์ประจำปี ซึ่งเป็นบัญชีที่เกิดจากการนำทุนสำรอง ไปลงทุนประเภทต่าง ๆ

 แต่ไม่ได้หมายความว่าทำให้ ธปท.ไม่มีการขาดทุนจากผลการดำเนินงาน เพราะการขาดทุนนั้นมีหลายส่วน แต่การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อบัญชีผลประโยชน์ประจำปีเท่านั้น

 สำหรับการหารือกับ ธปท. และผู้ทรงคุณวุฒิในวันที่ 20 ส.ค.นี้ จะหารือร่วมกันเกี่ยวกับดูแลสถานการณ์ค่าเงินบาทในระยะปานกลางเป็นหลัก ส่วนปัญหาระยะสั้นนั้นได้หารือกันอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะดูแลอย่างเข้มข้นตามความผันผวนของสถานการณ์ ซึ่งยืนยันว่าไม่เคยหารือกับ ธปท. เพื่อปิดตลาดเงินในต่างประเทศ หรือออฟชอร์ แต่อย่างใด

 

 

ก.ล.ต.อนุญาตให้ผู้ลงทุนทั่วไป ลงทุน ตปท.ได้เป็นครั้งแรก

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า หลังจากที่ ก.ล.ต.ประชุมร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) เพื่อหาแนวทางส่งเสริมผู้ลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ ได้ข้อสรุปว่า ก.ล.ต.จะขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น โดยจะอนุญาตให้ผู้ลงทุนประเภทสถาบัน เช่น มูลนิธิ สหกรณ์ออมทรัพย์ สามารถลงทุนได้ในวงเงินรายละไม่เกิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และผู้ลงทุนทั่วไปสามารถลงทุนได้ในวงเงินรายละไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ ก.ล.ต.อนุญาตให้ผู้ลงทุนทั่วไป สามารถลงทุนในตราสารการเงินและหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยเพิ่มเติมจากในปัจจุบันที่ ธปท.อนุญาตให้กองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บล.และ บลจ.สามารถลงทุนในต่างประเทศได้อยู่แล้ว

 

สำหรับรูปแบบการลงทุนนั้น ผู้ลงทุนประเภทสถาบันให้ลงทุนผ่านบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ส่วนผู้ลงทุนทั่วไป ให้ลงทุนผ่านผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลในกรณีที่ลงทุนหลักทรัพย์ที่มีความซับซ้อน และมีความเสี่ยงสูง เช่น ตราสารที่อ้างอิงสินเชื่อที่อยู่อาศัยด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) โดย ก.ล.ต.กำหนดให้ผู้ลงทุนต้องรายงานการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศต่อ ธปท.ตามที่กำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการหาผลประโยชน์จากส่วนต่างค่าเงินบาทในตลาดต่างประเทศ (ออฟชอร์) และตลาดในประเทศ (ออนชอร์) หากพบว่ามีการหาผลประโยชน์ก็จะมีมาตรการปราบปรามและป้องกันอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ก.ล.ต.จะมีการแก้ประกาศ ก.ล.ต.และคาดว่าจะเริ่มได้ในเดือนกันยายน นี้

 

 

ทีโอทีเผยจีนญี่ปุ่นสหรัฐสนร่วมลงทุน 3 จี

ไอ.เอ็น.เอ็น. - กรรมการบริษัททีโอที นาฬิกอติภัค แสงสนิท เผย ประเทศจีน ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา สนร่วมลงทุน 3 จี กับไทยแบบรัฐต่อรัฐโดยเตรียมสรุปรายละเอียดเสนอรัฐมนตรีไอซีทีพิจารณา ต่อไป

 พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการบริษัททีโอที จำกัด มหาชน ในฐานะประธานกรรมการนโบายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3จี เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเจรจากกับผู้แทนจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ทั้ง 3 ประเทศ แสดงความสนใจที่จะเข้าให้ช่วยเหลือเพื่อดำเนินการกับ ทีโอที ในลักษณะของรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ทางคณะกรรมการได้รับการประสานจากสำนักผู้แทนทางการค้าสหรัฐว่ายินดีที่จะร่วมลงทุนในการดำเนินโครงการ โดยหลังจากนี้จะมีการทำงานเพื่อสรุปรายละเอียดความต้องการทางเทคนิคโดยเร็ว ขณะเดียวกันก็จะมีการเสนอให้บอร์ดพิจารณาเห็นชอบแนวทางการดำเนินโครงการในรูปแบบจีทูจี เพื่อเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีพิจารณาและนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ โดยคณะกรรมการได้ประสานไปยังสำนักอัยการสูงสุด เพื่อขอให้ส่งผู้แทนจำนวน 3 คน ร่วมเป็นคณะทำงานพิจารณาจัดทำ ทีโออาร์ ด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าขบวนการดำเนินการจะไม่เกิดความล่าช้า

 

 

ม็อบต้านโลตัสเฮรัฐส่งตัวแทนร่วมตรวจสอบค้าปลีก

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - สมาพันธ์ต้านธุรกิจค้าปลีกต่างชาติชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขการขยายธุรกิจของบริษัทค้าปลีกข้ามชาติ ต่อมาเวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ. ชโลทร ศรีธวัชพงศ์ ได้เข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้ชุมนุม ให้ตัวแทนของ สมาพันธ์ต้านธุรกิจค้าปลีกต่างชาติ จำนวน 14 คน นำโดยนายเพียร ยงหนู นายวิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ นายจักรินทร์ กลิ่นบัวขาวเข้าไปรอยังห้องชำนาญอักษร สำนักเลขาธิการรัฐมนตรี เพื่อรอตัวแทนจากรัฐบาลที่กำลังเดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล ผู้ชุมนุมจึงมีท่าทีสงบลง

 

ต่อมา ตัวแทนของรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พล.ต.ท.ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางอรนุช โอสถานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุรพล พงษ์ไทยพัฒน์ วิศวกรใหญ่ กรมโยธาธิการและผังเมือง นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เดินทางมาถึงทำเนียบ และเข้าเจรจากับแกนนำของสมาพันธ์ต่อต้านธุรกิจค้าปลีกต่างชาติ ทั้ง 14 คน ได้ข้อสรุปว่าจะมีการตรวจสอบการก่อสร้างและการอนุญาตก่อสร้างอาคารประกอบการก่อสร้าง และการอนุญาตก่อสร้างอาคารประกอบกิจจการค้าส่งขนาดใหญ่โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกัน หากตรวจสอบพบว่ามีการไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย กรมโยธาธิการและผังเมืองจะสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกคำสั่งระงับการก่อสร้างฯลฯทันที พร้อมทั้งให้กรมโยธาฯเร่งรีบออกกฏกระทรวงกำหนดให้อาคารประเภทพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกส่งเป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้

 

 

 

ต่างประเทศ

 

 

ยูเอ็น ระงับการปรับปรุงข้อมูล ระหว่างการแก้ไข หลังถูกแฮกเกอร์ เจาะระบบ

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - หลังจาก เกิดเหตุการณ์ที่แฮกเกอร์ เจาะระบบเว็บไซต์ของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ยูเอ็น เปิดเผยว่า ยูเอ็นได้ระงับการปรับปรุงข้อมูลในเว็บไซต์ในระหว่างการแก้ไขหลังจากถูกแฮกเกอร์เจาะระบบ

 

โฆษกยูเอ็น กล่าวว่า แฮกเกอร์ได้เจาะเข้าหน้าเว็บที่สงวนไว้สำหรับ นายบัน คีมูน เลขาธิการยูเอ็น ด้วยการโพสต์ข้อความกล่าวหาสหรัฐฯ และอิสราเอลว่าเป็นฆาตกรสังหารเด็ก ยูเอ็นได้รีบนำข้อความเหล่านั้นออกและหยุดการปรับปรุงข้อมูลระหว่างการแก้ไข นอกจากนี้แฮกเกอร์ยังเจาะเข้าหน้าเว็บของสภาเศรษฐกิจและสังคม และหน้าเว็บของโครงการสิ่งแวดล้อมยูเอ็นด้วย ยูเอ็นกำลังสอบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นและได้เร่งป้องกันไม่ให้ระบบเสียหายแล้ว อย่างไรก็ดี การถูกเจาะระบบครั้งนี้ไม่กระทบข้อมูลสำคัญทางการเงินของยูเอ็น

 

นักเขียนบล็อก ที่ได้เห็นข้อความของแฮกเกอร์ในเว็บไซต์ยูเอ็น เปิดเผยว่า แฮกเกอร์อ้างตัวว่ามี 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นชาวตุรกี ส่วนเว็บไซต์ของกลุ่มที่อ้างตัวดังกล่าวได้ลงรายชื่อเว็บไซต์หลายหน่วยงานที่เข้าไปเจาะมาแล้ว เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยแพทย์นอร์โฟลค์แอนด์นอริช

 

 

อินโดนีเซียเผยไทยขอความช่วยเหลือแก้ปัญหาใต้

ผู้จัดการออนไลน์ - พีเพิลเดลี - อินโดนีเซีย ตอบรับช่วยเหลือไทย ในความพยายามแก้ปัญหาความรุนแรงทางภาคใต้ จากรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่นในวันอังคาร(7)

 

จาการ์ตาโพสต์รายงานอ้างคำสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซียว่า ผู้นำของไทยสอบถามข้อแนะนำวิธียุติการปะทะกันในพื้นที่ทางภาคใต้ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมมายังรัฐบาลอินโดนีเซีย

 

"ในฐานะเพื่อนบ้านที่ดี เราตอบรับคำร้องขอของไทย" ยูรี ทัมริน ผู้อำนวยการกิจการภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิกของกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าว

 

"เราจะสนับสนุนการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีภายใต้กรอบความเป็นผืนแผ่นดินเดียวของไทย เราเคยมีประสบการณ์คล้ายกันนี้ในการหาทางแก้ปัญหาความขัดแย้งในอาเจะห์" เขาบอก

 

นอกจากนี้ ยูรี ได้ยืนยันว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บุญชาการทหารบก ได้พบกับประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน และผู้บัญชาการทหารอินโดนีเซีย มาร์แซล โดโค ซูยันโต โดยบางส่วนของการพูดคุยได้ขอความสนับสนุนจากอินโดนีเซีย

 

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศรายนี้ ยังบอกอีกว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เคยพูดเหมือนกันว่าหวังให้อินโดนีเซียจะเข้ามามีส่วนร่วมหาทางแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี เมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีของไทยเดินทางมาเยือนอินโดนีเซียหลายเดือนก่อน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท