เครือข่ายศาสนิกชนฯ วอนรัฐบาลไทยยุติการสนับสนุนรัฐบาลพม่า
เครือข่ายศาสนิกชนแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติการสนับสนุนรัฐบาลพม่า โดยขอหี้ท่าทีที่ชัดเจนในการคัดค้านการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมโดยสงบและสันติในประเทศพม่า รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลไทย แสดงจุดยืนที่ชัดเจน ในการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ตามกฎบัตร สนธิสัญญา และอนุสัญญา เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยทางการเมือง หรือผู้อพยพหนีภัยสงคราม ตลอดจนผู้หลบหนีจากการประสบชะตากรรมจากการล้อมปราบ หรือหลบหนีการกดขี่ข่มเหงจากการกระทำที่ขาดความเป็นธรรมของรัฐบาลทหารพม่าด้วย
ทั้งนี้ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์รุนแรงในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรัฐและประชาชนไทยได้ในที่สุด นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นการแสดงท่าทีและจุดยืนอันเหมาะสมและสง่างาม ในฐานะสมาชิกของประชาคมโลก ผู้คำนึงถึงหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชน ดังเช่นนานาอารยประเทศพึงกระทำอีกด้วย
YPD เรียกร้อง รบ.ไทย-ภาคธุรกิจ หยุดลงทุนหนุนการต่อท่ออำนาจเผด็จการในพม่า
ด้านศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่าคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการลาออก และปล่อยตัวนางอองซาน ซูจีให้ได้กลับมาเป็นผู้นำรัฐบาล เพื่อเป็นการคืนสิทธิอันชอบธรรมจากการที่นางอองซานได้นำพรรคสันนิตบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ชนะการเลือกตั้งมาตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2533
รวมทั้ง เรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่าเลิกซ้ำเติมความทุกข์ยากของประชาชน โดยการลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่จำเป็นแก่การยังชีพ เพราะที่ผ่านมาประชาชนพม่าได้รับความทุกข์ยากจากการบริหารประเทศของรัฐบาลมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
และขอให้รัฐบาลทหารพม่าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมดังกล่าวแสดงความรับผิดชอบด้วยการเข้ารับดำเนินคดีในฐานะอาชญากรสงคราม และให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา รวมถึงให้ชดเชยความเสียแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย และความเสียหายที่มาจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลตลอดระยะเวลาที่อยู่ในอำนาจ
นอกจากนี้ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD.) มีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลเฉพาะกาลของไทย ให้ออกมาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า พร้อมทั้งประกาศตัดความสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารพม่าจนกว่าคณะรัฐบาลทหารพม่าชุดนี้จะแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน
รวมทั้งขอให้รัฐบาลไทยและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในพม่า หยุดให้การสนับสนุนการค้าการลงทุนในพม่า เพราะที่ผ่านมาการที่ภาคธุรกิจของไทยและจีนเข้าไปลงทุนในพม่า นอกจากไม่ได้ส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชนพม่าแล้ว ยังเป็นการต่อท่อน้ำเลี้ยงสร้างความมั่งคั่งให้รัฐบาลเผด็จการของพม่าบนความทุกข์ยากของประชาชน
000000
แถลงการณ์ ฉบับที่ ๒
เครือข่ายศาสนิกชนแห่งประเทศไทย
เรื่อง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติการสนับสนุนรัฐบาลพม่า
จากสถานการณ์รุนแรง เนื่องจากการปราบปรามประชาชนผู้บริสุทธิ์ ผู้ชุมนุมเรียกร้องอย่างสันติ ที่ประกอบไปด้วยพระสงฆ์ และศาสนิกชนในพม่า มาอย่างต่อเนื่อง ดังที่ทราบอยู่แล้วนั้น
ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นเพื่อนบ้าน และมีดินแดนเชื่อมต่อกับประเทศพม่าเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร มีประชากรร่วมเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ กับประชาชนชาวพม่าอยู่เป็นจำนวนมาก ตลอดจนประชากรทั้งสองประเทศ ต่างเป็นพุทธศาสนิกชนร่วมนิกายเถรวาทด้วยกัน เกินกว่าร้อยละเก้าสิบของประชากรทั้งหมด
เครือข่ายศาสนิกชนแห่งประเทศไทย ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลไทย ดังต่อไปนี้
๑. ขอให้รัฐบาลไทยแสดงท่าทีและจุดยืนที่ชัดเจน ในการคัดค้านการใช้ความรุนแรง ต่อผู้ชุมนุมโดยสงบและสันติ ในประเทศพม่า
๒. ขอให้รัฐบาลไทยแสดงท่าทีและจุดยืนที่ชัดเจน ในการคัดค้าน และประณาม การกระทำรุนแรงต่อนักบวชในพุทธศาสนา และศาสนิกชนชาวพม่า
๓. ขอให้รัฐบาลไทยแสดงท่าทีและจุดยืนที่ชัดเจน ในการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ตามกฎบัตร สนธิสัญญา และอนุสัญญา เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยทางการเมือง หรือผู้อพยพหนีภัยสงคราม ตลอดจนผู้หลบหนีจากการประสบชะตากรรมจากการล้อมปราบ หรือหลบหนีการกดขี่ข่มเหงจากการกระทำที่ขาดความเป็นธรรม ของรัฐบาลทหารพม่า
๔. ขอให้รัฐบาลไทยงดเว้นจากการให้ความร่วมมือต่อรัฐบาลพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความร่วมมือในการปกปิดข่าวสาร หรือข้อเท็จจริง ในการใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชนผู้บริสุทธิ์ ของรัฐบาลพม่า
เครือข่ายศาสนิกชนแห่งประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่ารัฐบาลไทยจะรับฟังข้อเรียกร้องที่กล่าวมาแล้วข้างต้น และปฏิบัติตามโดยไม่ชักช้า เพื่อคลี่คลายสถานการณ์รุนแรงในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรัฐและประชาชนไทยได้ในที่สุด นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นการแสดงท่าทีและจุดยืนอันเหมาะสมและสง่างาม ในฐานะสมาชิกของประชาคมโลก ผู้คำนึงถึงหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชน ดังเช่นนานาอารยประเทศพึงกระทำ
เครือข่ายศาสนิกชนแห่งประเทศไทย
มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์
๒๗ กันยายน ๒๕๕๐
0000000
แถลงการณ์ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย
เรื่อง ขอให้รัฐบาลทหารพม่าแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมด้วยการลาออก
และให้รัฐบาลไทยรวมถึงภาคธุรกิจหยุดให้การสนับสนุนการต่อท่ออำนาจเผด็จการในพม่า
จากกรณีการขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยไม่สนใจต่อปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนพม่าที่มีมานานนับสิบปีแล้ว จนนำไปสู่การชุมนุมประท้วงมาเป็นระยะเวลา 5 สัปดาห์แล้วนั้น
การชุมนุมประท้วงค่อยๆ ขยายตัวใหญ่ขึ้น จนกลายเป็นการชุมนุมใหญ่ โดยมีพระภิกษุสงฆ์และประชาชนจำนวนนับแสนคนเข้าร่วมการชุมนุมมาเป็นระยะเวลา 9 วัน นับเป็นการชุมนุมที่ใหญ่ที่สุดในพม่าในรอบหลายปีที่ผ่านมา จนนำไปสู่การใช้กำลังปราบปรามด้วยความรุนแรงในวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา มีการใช้กระบองทุบตีจนทำให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย มีพระภิกษุมรณภาพอย่างน้อย 3 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนนี้มีพระภิกษุรวมอยู่ด้วย
การสลายการชุมนุมครั้งนี้จึงนับได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่สร้างความสะเทือนใจแก่ชาวโลกจนเกินกว่าจะยอมรับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ความรุนแรงต่อพระภิกษุ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจชาวพุทธทั่วโลกเป็นอย่างยิ่ง และจนถึงบัดนี้ทางรัฐบาลทหารพม่ายังปกปิดข้อมูลตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตที่แน่ชัด อันเป็นความพยายามกลบเกลื่อนการกระทำอันชั่วช้าของตน
ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD.) ในฐานะของขบวนการภาคประชาชนไทย ที่มีจุดยืนคัดค้านรัฐบาลทหารพม่าและพฤติกรรมการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพม่ามาโดยตลอด จึงมีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าแสดงความรับผิดชอบดังต่อไปนี้
1. ขอให้รัฐบาลทหารพม่าคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการลาออก และปล่อยตัวนางอองซาน ซูจีให้ได้กลับมาเป็นผู้นำรัฐบาล เป็นการคืนสิทธิอันชอบธรรมจากการที่นางอองซานได้นำพรรคสันนิตบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ชนะการเลือกตั้งมาตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2533
2. ขอให้รัฐบาลทหารพม่าเลิกซ้ำเติมความทุกข์ยากของประชาชน โดยการลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆที่จำเป็นแก่การยังชีพ เพราะที่ผ่านมาประชาชนพม่าได้รับความทุกข์ยากจากการบริหารประเทศของรัฐบาลที่นำไปสู่การถอยหลังมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
3. ขอให้รัฐบาลทหารพม่าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมดังกล่าวแสดงความรับผิดชอบด้วยการเข้ารับดำเนินคดีในฐานะอาชญากรสงคราม และให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา รวมถึงให้ชดเชยความเสียแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย และความเสียหายที่มาจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลตลอดระยะเวลาที่อยู่ในอำนาจ
นอกจากนี้ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD.) มีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลไทยและผู้เกี่ยวข้องกับการค้าการลงทุนในพม่าดังต่อไปนี้
1. ขอให้รัฐบาลเฉพาะกาลของไทย ออกมาแสดงจุดยืนให้ชัดเจนในการประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า พร้อมทั้งประกาศตัดความสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารพม่าจนกว่าคณะรัฐบาลทหารพม่าชุดนี้จะแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน
2. ขอให้รัฐบาลไทยและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในพม่า หยุดให้การสนับสนุนการค้าการลงทุนในพม่า เพราะที่ผ่านมาการที่ภาคธุรกิจของไทยและจีนเข้าไปลงทุนในพม่า นอกจากไม่ได้ส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชนพม่าแล้ว ยังเป็นการต่อท่อน้ำเลี้ยงสร้างความมั่งคั่งให้รัฐบาลเผด็จการของพม่าบนความทุกข์ยากของประชาชน
ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตยมีความเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นความเป็นประชาธิปไตย และความ สันติสุขเกิดขึ้นบนแผ่นดินพม่าในเร็ววัน จึงขอให้ประชาคมโลกและพลเมืองทั่วทุกดินแดน เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ร่วมกันคว่ำบาตร บอยคอตและกดดันรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า ทุกวิถีทาง เพื่อให้ยุติการปราบปรามพี่น้องประชาชนพม่า เรียกร้องให้กองทัพรัฐบาลทหารวางอาวุธและเจรจาสันติภาพ ปลดปล่อยนักโทษทางการเมือง ตลอดจนดำเนินการตามกระบวนการคืนอำนาจให้ประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย โดยจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว
ทั้งนี้ หากเหตุการณ์ไม่มีแนวโน้มจะสงบลงจนถึงอาจเกิดการสังหารหมู่กลางเมือง จากการปราบปรามโดยป่าเถื่อนของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า ขอเรียกร้องให้มีมาตรการจากประชาคมโลกเพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อผู้นำเผด็จการพม่าต่อศาลโลก และสหประชาชาติต้องพร้อมส่งกองกำลังสินติภาพเข้าไปหยุดยั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันชั่วช้า ป่าเถื่อนของรัฐบาลพม่าในทันที..
เชื่อมั่นในสันติภาพ สิทธิมนุษยชนและสังคม-ประชาธิปไตย
28 กันยายน 2550
ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย(YPD.)
YPSEA-Thailand
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)