โดยที่นิคมอุตสาหกรรม อิสเทิร์นซีบอร์ด และนวนคร พบการปนเปื้อนของโลหะหนักในปริมาณที่สูง เช่น นิกเกิลและสังกะสี รวมทั้งสารประกอบประเภทคลอรีน เช่น ไดคลอโรมีเทน คลอโรฟอร์ม และไตรคลอโรอีเทน ตลอดจนสารเคมีที่เป็นอันตรายประเภทอื่นๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิต
ส่วนนิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือนั้น ใน จ.ลำพูน พบว่า ตัวอย่างที่เก็บจากบ่อน้ำใต้ดินบ้านหนองเป็ด ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงบำบัดน้ำเสียนิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือ การปนเปื้อนสารมลพิษมีปริมาณสูงและเกินกว่ามาตรฐานมาก เช่น ทองแดง ตะกั่ว และสังกะสี มากกว่า 4-8 เท่าจากค่าความเข้มข้นสูงสุดที่กำหนดไว้ของมาตรฐานน้ำดื่มของไทย ชุมชนต้องระมัดระวังการใช้น้ำเหล่านี้ โดยเฉพาะหากมีการนำมาผลิตน้ำดื่มขวด นอกจากนี้ยังพบปริมาณสังกะสีในตัวอย่างน้ำประปาที่ระยองมากกว่าปริมาณปกติ
นาย
ด้านนายธารา กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกร้อนก็มีส่วนทำให้เกิดวิกฤตขาดแคลนน้ำได้เช่นกัน ดังนั้น กรีนพีชอยากเสนอให้รัฐบาลบริหารจัดการน้ำแบบองค์รวม และเน้นให้ความสำคัญเร่งด่วนในเรื่องการผลิตที่สะอาด รวมทั้งผลักดันให้มีมาตรการป้องกันแหล่งน้ำใต้ดินของประเทศให้ปราศจากการปนเปื้อนของสารมลพิษเพื่อเป็นการปกป้องความสมบูรณ์ของแหล่งน้ำในประเทศด้วย
นายพลายกล่าวเสริมว่า ภาครัฐไม่มีการเฝ้าติดตามตรวจสอบคุณภาพแหล่งน้ำใต้ดินอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการตรวจในครั้งแรกที่มีการเจาะบ่อบาดาลเท่านั้น โดยเฉพาะไม่มีการตรวจวัดปริมาณสารพิษทางการเกษตร ทั้งที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการปนเปื้อน
นอกจากนี้ กรีนพีซยังร่วมกับสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์จัดการประกวดภาพถ่ายภายใต้หัวข้อ "วิกฤตน้ำ วิกฤตชีวิต" ชิงเงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร โดยสามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. - 31 พ.ย.นี้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)