จับตาโฆษิตไฟเขียว "เหมืองโปแตชอุดร" นักอนุรักษ์ฯ หวั่นรัฐซูเอี๋ยนายทุน ข้ามหัวชาวบ้าน

สำนักข่าวประชาธรรม อุดรธานี

 

แหล่งข่าวภายในกระทรวงอุตสาหกรรมได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. เวลา 09.00 น. ว่า นายโฆษิต  ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เรียกกรรมการบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เข้าพบ เพื่อชี้แจงในกรณีที่บริษัทอิตาเลียนไทยได้เข้าซื้อหุ้น (Take over) กรณีโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ต่อจากบริษัท เอเชีย แปซิฟิก โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) จึงต้องมีการชี้แจงสัดส่วนผู้ถือหุ้นในโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานให้รับทราบ

 

แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า  การชี้แจงของกรรมการบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ในกรณีสัดส่วนผู้ถือหุ้น รวมทั้งผลประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับหากได้ดำเนินโครงการฯ ได้สร้างความพึงพอใจให้กับ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม แต่กระนั้น เจ้ากระทรวงก็ได้เสนอแนะให้บริษัทอิตาเลี่ยนไทย เร่งสร้างความเข้าใจ ให้ข้อมูลโครงการฯ กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ 

 

ด้าน นางมณี  บุญรอด  แกนนำชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี เมื่อทราบข่าวก็ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควรหากว่าจะมีการอนุมัติเพื่อให้ทำเหมืองแร่โปแตช อุดรฯ ในช่วงระหว่างรัฐบาลรักษาการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเช่นนี้ ซึ่งจะทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดระแวงต่อการดำเนินนโยบายของรัฐมากยิ่งขึ้น และทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญปี 50 เขียนขึ้นมาอย่างดี บอกว่าให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมแต่รัฐบาลกลับไม่นำมาปฏิบัติ

 

"ต้องจับตามองกรณีเหมืองแร่โปแตชอุดรฯ เพราะกำลังจะซูเอี๋ยกัน ซึ่งทำไม รัฐมนตรี ถึงเรียกให้บริษัทฯ เข้าไปชี้แจงข้อมูลโครงการ แล้วมีผลต่อการตัดสินใจ แต่ไม่เคยคิดที่จะถาม หรือเรียกให้ชาวบ้าน ผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ ได้เข้าไปพบและให้ข้อมูลบ้าง อย่างไรก็ตาม ถ้าหากกระทรวงอุตสาหกรรม หรือรัฐบาล จะมีการตัดสินใจเรื่องโครงการเหมืองแร่โปแตช โดยที่ชุมชนไม่ได้มีส่วนร่วมตามรัฐธรรมนูญ ชาวบ้านก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมาคัดค้านจนถึงที่สุด" นางมณีกล่าว

 

นายสุวิทย์ กุหลาบวงษ์ เลขาธิการเครือข่ายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ภาคอีสาน กล่าวว่า เนื่องจากว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังประสบกับภาวะวิกฤติ รัฐบาลจึงมองหาแนวทางเพื่อกระตุ้น โดยการนำเม็ดเงินจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจ็กต์) มาใช้เพื่อผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งนั่นก็หมายถึงการเปิดโอกาสให้กับนายทุนได้ตักตวงเอาทรัพยากรธรรมชาติไปสร้างผลกำไร ดังตัวอย่างของกรณีโครงการเหมืองแร่โปแตช แต่ทั้งนี้จากบทเรียนที่ผ่านมา การทำโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ก็นำผลกระทบไม่ว่าด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสุขภาพ ด้านสังคม มาสู่ชุมชนโดยตรง ในขณะที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมตามระบอบประชาธิปไตย หรือเป็นไปตามกลไกของรัฐธรรมนูญกับการพัฒนาเหล่านั้น  นายสุวิทย์กล่าว     

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท