Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ออกแถลงการณ์วันเด็ก เรียกร้องหน่วยงานรัฐ เอกชน และสื่อ กำหนดวาระเร่งด่วนให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างจริงจังต่อปัญหา "เด็กหาย" ทั้งในเชิงการป้องกันและช่วยเหลือเด็กที่หายออกจากบ้าน ตลอดจนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพเด็กหายและการสร้างความรู้ความเข้าใจถึงสภาพปัญหาเด็กหายในสังคม ย้ำ 4 ปี คนหายนับพัน เป็นเด็กกว่า 60 %


 


ทั้งนี้ แถลงการณ์ที่ชื่อว่า "วันเด็กปีนี้...ขอพื้นที่สำหรับเด็กหาย" มีข้อความว่า...


 


สืบเนื่องจากศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่มีภารกิจในการรับแจ้งและประสานงานติดตามคนหายทั่วทั้งราชอาณาจักรไทย นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ถึงปัจจุบันศูนย์ข้อมูลคนหายฯ ได้รับแจ้งเหตุการหายตัวไปของคนในสังคมเป็นจำนวนกว่า 927 กรณี โดยในจำนวนนี้เป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ถึง 518 กรณี หรือเทียบเป็น 60 % ของสถิติคนหายทั่วประเทศ


 


ข้อเท็จจริงถึงสภาพปัญหาการหายตัวออกจากบ้านของเด็ก นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงสถิติที่เพิ่มสูงขึ้น และผลกระทบที่ตามมาระหว่างที่เด็กหายตัวออกจากบ้านไป โดยเด็กอายุตั้งแต่แรกเกิดถึงสิบแปดปีมีความเสี่ยงในการหายตัวออกจากบ้านทุกช่วงอายุในหลากหลายสาเหตุ เช่น การลักพาตัว การล่อลวงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ การล่อลวงเพื่อบังคับใช้แรงงาน การถูกล่อลวงจากภัยเทคโนโลยี และปัญหาภายในครอบครัวที่ผลักดันให้เด็กหนีออกจากบ้าน เป็นต้น


 


ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการหายตัวออกจากบ้านของเด็ก เป็นอีกข้อเท็จจริงหนึ่งซึ่งมิอาจมองข้ามได้ สวัสดิภาพและความปลอดภัยในการดำรงชีวิตของเด็กในขณะที่หายออกจากบ้านเป็นเรื่องที่ต้องตระหนักถึงอย่างยิ่ง เนื่องจากพบว่า เด็กที่หายออก


 


จากบ้านในกรณีที่เชื่อมโยงกับเรื่องอาชญากรรม มักถูกกระทำย่ำยี ถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกแสวงหาผลประโยชน์ และถูกละเมิดสิทธิ เสมอ หรือแม้กระทั่งปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่ทำให้เด็กต้องหนีออกจากบ้าน ก็นับเป็นเรื่องที่ต้องห่วงใยอย่างยิ่ง เนื่องจากพบว่า เด็กจำนวนหนึ่งที่ตัดสินใจหนีออกจากบ้าน มักก้าวเข้าสู่ วงวนแห่งอบายมุข หรือ ถูกล่อลวงนำไปแสวงหาผลประโยชน์เสมอ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า "เด็ก" ตกเป็นเหยื่อของสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อม


 


ในขณะเดียวกัน หากพิจารณาถึงกระบวนการหรือกลไกในการช่วยเหลือเด็กที่หายออกจากบ้าน เพื่อมิให้ต้องตกเป็นเหยื่อของผู้ที่จ้องจะแสวงหาผลประโยชน์ พบว่า การรับรู้ปัญหาของสังคมและความเอาจริงเอาจังของหน่วยงานเกี่ยวข้องยังอยู่ในระดับต่ำ ข้อเท็จจริงถึงสภาพปัญหาในความรับผิดชอบของรัฐยังกระจัดกระจาย และไม่แสดงถึงภาวะในการจัดการปัญหาได้ เป็นผลให้การรับรู้สภาพปัญหาเด็กหายของคนในสังคมไม่สามารถเข้าถึงข้อเท็จจริง และไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือได้


 


พื้นที่สำหรับปัญหาเด็กหาย ในบริบทของการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ของสังคม ยังถูกกำจัดด้วยเงื่อนไขความเอาใจใส่และการให้ความสำคัญ ทั้งที่ ควรจะมีวาระในการกล่าวถึง และ สร้างกลไกในการจัดการปัญหาอย่างเป็นระบบ


 


ในโอกาส"วันเด็กแห่งชาติ" ประจำปี พุทธศักราช 2551 ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุนย์ มูลนิธิกระจกเงา ขอเรียกร้องพื้นที่สำหรับ "เด็กหาย" ให้เป็นวาระที่หน่วยงานภาครัฐ ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตลอดจนเครือข่ายสื่อมวลชน ร่วมรับภารกิจ "วันเด็กปีนี้...ขอพื้นที่สำหรับเด็กหาย" เป็นวาระเร่งด่วนที่ควรให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างจริงจังต่อปัญหาเด็กหาย ทั้งในเชิงการป้องกันและช่วยเหลือเด็กที่หายออกจากบ้าน ตลอดจนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพเด็กหายและการสร้างความรู้ความเข้าใจถึงสภาพปัญหาเด็กหายในสังคม เพราะเราเชื่อว่าภารกิจในการช่วยเหลือติดตามเด็กหายต้องแป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคม


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net