Skip to main content
sharethis

 







การเมือง


 


กกต.แจกใบเหลืองเพื่อแผ่นดินอีก 2 พลังประชาชนเพิ่ม 1


แนวหน้า - นายสุเมธ อุปนิสากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.ในช่วงเช้าได้มีมติพิจารณาตัดสินให้ใบเหลือง จำนวน 3 สำนวน ประกอบด้วย นายมีชัย จิตต์พิพัฒน์ และนายพลพีร์ สุวรรณฉวี ว่าที่ส.ส.เขต 6 จ. นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน และนายสุรวิชช พลสมบูรณ์ ว่าที่ส.ส. เขต 2 ชัยภูมิ พรรคพลังประชาชน โดย ยกคำร้อง 4 สำนวน ของ 2 ว่าที่ 2 ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน


 


ศุภชัยหวั่น "สดศรี" อาฆาตไฮทักษิณ-แจกใบแดง พปช.


กรุงเทพธุรกิจ - นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกและฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชาชน กล่าวตอบโต้นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่กล่าวในทำนองข่มขู่จะให้ใบแดงพรรคพลังประชาชน กรณีที่เวบไฮทักษิณ นำเสนอบทความเกี่ยวข้องกับการที่พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ขอตัวบุตรสาวนางสดศรีไปช่วยราชการ ว่า พรรคพลังประชาชน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเวบไซต์ไฮทักษิณ และเรื่องดังกล่าวก็เป็นเรื่องจริงที่มีหลักฐานยืนยันได้ว่ามีการขอตัวบุตรสาวนางสดศรี มาช่วยราชการจริง ดังนั้น ขอให้นางสดศรี ช่วยเข้าใจในเรื่องนี้ด้วย


 



ทั้งนี้ เห็นว่าการที่นางสดศรี ระบุในเชิงข่มขู่พรรคในการให้ใบเหลืองใบแดง นั้น กำลังแสดงให้เห็นว่านางสดศรี มีอคติต่อพรรคพลังประชาชน ซึ่งส่งผลให้ขาดคุณสมบัติของ กกต.โดยวันเดียวกัน นางสดศรี ให้สัมภาษณ์หลังจากมีกระแสข่าวกรณีเวบไซต์ไฮทักษิณ นำเสนอบทความดังกล่าว ว่า เวลานี้ทุกอย่างกลายเป็นเกมการเมืองไปหมด ซึ่งบางคนก็พยายามดึงไปเป็นพวกหรือมีการกระทำแสดงให้เห็นว่าเป็นคนร้าย แม้กระทั่งต้องการให้ลาออกจากกกต.บ้าง ถึงขณะนี้ หากประชาชนลงชื่อให้ออกก็พร้อมลาออกเพราะเบื่อแล้ว แต่อย่าดึงลูกสาวเข้าไปเกี่ยวข้อง


 



ผวาไข้โป้ง! พยานมัด "ยุทธ" ขอ ตร.คุ้มกัน/ พลิกปูมเมืองฆ่าหักเหลี่ยม


ไทยโพสต์ -  คดีทุจริตการเลือกตั้ง  ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ระหว่างดำเนินการกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช  รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ว่าที่ ส.ส.ระบบสัดส่วน กลุ่มที่ 1 โดยใช้หลักฐานจากตำรวจสันติบาลซึ่งพบว่ามีความแน่นหนาสามารถเอาผิดได้ และอาจส่งผลไปถึงการยุบพรรคพลังประชาชนนั้น ล่าสุดพบว่าคดีนี้อาจไม่สามารถเอาผิดใครได้ เพราะมีการใช้อิทธิพลมืดข่มขู่ให้พยานถอนตัว


 



เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายอมรพงศ์ วิชิตะกุล ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กต.) ประจำจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า  ได้รับรายงานล่าสุดจากคณะ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.เชียงราย กรณีมีทีมงานของกำนันในพื้นที่ อ.แม่จัน รายหนึ่ง ซึ่งถูกเรียกสอบสวนเป็นพยานในคดีที่นายวิจิตร ยอดสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทย เขตเลือกตั้งที่ 3 ร้องเรียนกล่าวหานายยงยุทธวางแผนให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ใน อ.แม่จัน ซื้อเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน  เขตเลือกตั้งที่ 3 ได้ประสานขอถอนตัวจากการเป็นพยานให้ฝ่ายผู้ร้อง จึงแจ้งไปว่าการถอนตัวออกจากการเป็นพยานไม่สามารถทำได้ในชั้น กกต.ระดับท้องถิ่น ต้องไปแจ้งกับทางคณะ กกต.ส่วนกลาง


 



นายอมรพงศ์บอกว่า กำนันที่ประสานขอถอนตัวจากการเป็นพยานในคดีซื้อเสียง เดิมทีเข้าให้การมีน้ำหนักช่วยทางผู้ร้องเพื่อเอาผิดทางนายยงยุทธ แต่ภายหลังได้กลับลำทำนองจะมาให้การช่วยทางฝ่ายพรรคพลังประชาชน เรื่องนี้ตนไม่ทราบว่ามีเบื้องหลังอะไรแอบแฝง หรือมีการกดดันบางอย่างหรือไม่ จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา จึงได้สั่งเฝ้าจับตาสถานการณ์ในเขตเลือกตั้งที่  3  เอาไว้ เกรงจะมีการใช้อิทธิพลหรือความรุนแรงได้ทุกเมื่อ


 



พชป.เร่งเปิดตัวรัฐบาล 17 ม.ค.


กรุงเทพธุรกิจ - ความคืบหน้าในการรวบรวมพรรคการเมืองต่างๆ จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมีพรรคพลังประชาชน (พปช.)เป็นแกนนำ หลังจากที่พรรคการเมืองขนาดเล็ก 3 พรรค แถลงเปิดตัวร่วมจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้แล้ว พรรค พปช.จึงรอเพียงสองพรรคที่เหลือ คือ พรรคชาติไทย (ชท.) และพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) แถลงเปิดตัวร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการเท่านั้น


 


น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพปช.กล่าวว่า ในแง่ของหลักการที่พรรคซึ่งได้รับความไว้วางใจมากที่สุดควรเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลไม่มีปัญหาแล้ว ขณะนี้รอแค่การประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้น จากนั้นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องมาพูดคุยถึงแนวทางและนโยบายตลอดจนการหาผู้มีความรู้ความสามารถด้านการบริหารมาทำหน้าที่ เหตุที่พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินยังไม่แถลงชัดเจนนั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีแน่นอน เพราะหลักการของเราคือผู้ที่จะทำหน้าที่บริหารกระทรวงต่างๆ ต้องมีความรู้ความสามารถ


 



สำหรับความคืบหน้าของการทาบทามนายทนง พิทยะ อดีต รมว.การคลัง และนายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกฯ เพื่อทำหน้าที่ รมว.การคลังนั้น ก็ยังมีการประสานงานอยู่ แต่พรรคก็พูดคุยกับหลายคนด้วย ส่วนการเปิดประชุมสภานัดแรก ก็น่าจะเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดคือระหว่างวันที่ 21-22 ม.ค. โดยทราบว่าขณะนี้ทางสภาได้ทำเรื่องทูลเกล้าฯเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการเปิดประชุมสภาแล้ว


 


แฉคนทีไอทีวีปั่นหัวพนักงาน ขวางแปลงสภาพทีวีสาธารณะ


ผู้จัดการรายวัน - นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป. )กล่าวถึงกรณีสาถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี เป็นทีวีสาธารณะว่า ครป. ขอสนับสนุน กระบวนการจัดตั้งทีวีสาธารณะ ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.องค์กรแพร่ภาพสาธารณะ ที่อยู่ระหว่างรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา และขอเรียกร้องให้ ครม. เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้ง 5 ท่าน เพื่อร่วมกับสังคมและประชาชนในการวางกรอบและแนวทางในการจัดตั้งทีวีสาธารณะโดยเร็ว เพราะหากปล่อยให้กระบวนการดังกล่าวล่าช้า และยืดเยื้อออกไปจะทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะนักการเมืองที่มีวาระซ่อนเร้น เข้ามาแทรกแซงบิดเบือน จนอาจทำให้ทีวีสาธารณะไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง


 


นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายต้องยอมรับว่าคลื่นโทรทัศน์ทีไอทีวี หรือ UHF กลับมาเป็นของประชาชนตามเจตนารมณ์ของการก่อตั้งทีวีเสรี ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของประชาชน ฉะนั้นทุกฝ่ายจึงควรแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันให้คลื่นแห่งนี้กลับไปเป็นของประชาชน ในนามทีวีสาธารณะที่ปราศจากการแทรกแซงครอบงำของรัฐและทุน และไม่ควรเอาปัญหาผลประโยชน์ใน ทีไอทีวี มาเกี่ยวพันหรือเป็นเหตุให้กระบวนการแปลงสภาพทีไอทีวี ทำไม่ได้ในที่สุด


 


ทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วยที่กระบวนการแปลงสภาพทีไอทีวี จะถูกแทรกแซงด้วยผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้องหรือแม้แต่ปัญหาผลประโยชน์ของพนักงานบางคน ก็จะต้องทำให้เกิดความกระจ่างต่อประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจว่ากระบวนการแปลงสภาพที่ไอทีวีจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประชาชน แต่ในขณะเดียวกันพนักงานทีไอทีวี ก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อสังคมว่า จะสนับสนุนและไม่ขัดขวางกระบวนการจัดตั้งทีวีสาธารณะ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และอย่าให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยว่า การกระทำของพนักงานทีไอทีวี เป็นการยื้อกระบวนการแปลงสภาพ ทีไอทีวี เป็นทีวีสาธารณะ เพื่อให้รัฐบาลหน้า ซึ่งก็รู้อยู่ว่าจะเป็นรัฐบาลนอมินีของคนบางตระกูลที่เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้มาก่อน


 


 






เศรษฐกิจ


 


วงการหุ้นลุ้นคดียุบ "พปช" คาดดัชนีรูดต่อ


ผู้จัดการรายวัน - สถานการณ์ตลาดหุ้นไทย ยังคงต้องเผชิญมรสุมลูกใหญ่ไม่ว่าจะเป็นการคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเต็มตัว รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรปที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) โดยหนึ่งในแนวทางในการบรรเทาปัญหาดังกล่าวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักเศรษฐศาสตร์จากหลายสำนักได้ออกมาคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยรุนแรงและเร็วกว่าที่คาดการณ์โดยในรอบหน้าที่จะมีการประชุมในสิ้นเดือนนี้ โดยคาดว่าเฟดอาจจะต้องปรับลดดอกเบี้ยถึง 0.50% จากเดิมที่คาดว่าจะลดเพียง 0.25%


 


ขณะที่ประเด็นทางการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการพิจารณาของศาลในกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคพลังประชาชน จากข้อหาที่เป็นนอมินีของพรรคการเมืองเดิมที่เคยโดยคำสั่งยุบพรรค รวมถึงคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าที่ ส.ส สัดส่วนกลุ่ม 1 พรรคพลังประชาชน เกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อหาข้อสรุป ทั้งนี้ ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา (7 - 11 ม.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบอย่างต่อเนื่องจนทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิคที่ 800 จุด โดย ณ สิ้นวันที่ 11 ม.ค.ดัชนีปิดที่ 796.47 จุด ซึ่งจากต้นปีนักลงทุนต่างชาติได้มีการเทขายสุทธิหุ้นไทยแล้วเกือบ 1.7 หมื่นล้านบาท


 


เจ๊เกียวสุดทนบุกคมนาคมขอปรับราคาโดยสาร


สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 13 ม.ค. นางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารขนส่ง เปิดเผยว่าจากที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางได้มีมติให้ขึ้นราคาค่าโดยสารไปแล้วในส่วนของรถร่วมบริษัท ขนส่ง จำกัด (รถร่วมบ.ข.ส.) ในอัตราก.ม.ละ 3 สตางค์ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และปัจจุบันใกล้แตะที่ลิตรละ 30 บาท จึงจำเป็นต้องทำหนังสือเพื่อเสนอต่อกระทรวงคมนาคมให้พิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารในส่วนของรถร่วม บ.ข.ส.อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะขอปรับขึ้นมากกว่า 3 สตางค์/กิโลเมตร โดยจะเดินทางเข้าพบนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม พรุ่งนี้ที่กระทรวง 


 


ด้านนายสุรชัย ธารสิทธิพงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง กล่าวว่าคณะกรรมการคงต้องมีการหารือกันอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง ทั้งนี้เพราะประชาชนมีภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากค่าครองชีพต่างๆ หากยังมีการเพิ่มค่าโดยสารอีกก็จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชนได้


 


ทุ่ม 100 ล. บอร์ดประกันสังคม


เดลินิวส์ -  นายผดุงศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า ขณะนี้กำลังคิดรูปแบบวิธีการเลือกตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) ประกันสังคม เพื่อให้ได้คนที่มีคุณภาพ และเป็นการป้องกันปัญหาการบล็อกโหวต เนื่องจากบอร์ดประกันสังคมมีหน้าที่บริหารและอนุมัติเงินกองทุนประกันสังคมจำนวนกว่า 5 แสนล้านบาท หากได้กรรมการที่ถูกครอบงำก็จะทำให้กองทุนเกิดปัญหาในอนาคตได้ โดยหลักการจะพยายามปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ดังนั้นต้องเปิดโอกาสให้มีการเลือกบอร์ดประกันสังคมแบบมีส่วนร่วมและก่อให้เกิดความหลากหลาย เบื้องต้นรัฐธรรมนูญกำหนดว่าจะต้องดำเนินการใน 1 ปีนับแต่มีรัฐบาลใหม่


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กสร.ได้มีการวางหลักเกณฑ์การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมโดยให้ผู้ประกันตนในระบบกว่า 9 ล้านคน เป็นผู้มีสิทธิมีเสียง โดยให้หน่วยงานของกรมทั้ง 76 จังหวัดทำหน้าที่เป็นกรรมการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท


 


 






ความมั่นคง


 


6 ผู้ต้องหาคดีไฟใต้แหกคุก ระดมกำลังปิด 13 อำเภอล่า


กรุงเทพธุรกิจ - เกิดเหตุผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลบหนีจากห้องขัง ขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น.วานนี้ (13 ม.ค.) โดยพล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ภักดี ปรีชาชน สวญ.สภ.ตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส ว่า มีผู้ต้องหาคดีความมั่นคง 6 คน ประกอบด้วย นายนัสรีย์ มือลี อยู่บ้านเลขที่ 33/2 หมู่ 3 บ้านดอเฮะ ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี เป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่ก่อคดีความมั่นคง จำนวน 10 คดี เป็นหัวหน้า ในการนำผู้ต้องสงสัยอีก 5 คนหลบหนี ได้แก่ นายอารง ดือราแม อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 2 บ้านลาแป ต.บองอ อ.ระแงะ, นายอาทริ เจ๊ะเลาะ อยู่บ้านเลขที่ 37/1 หมู่ 5 บ้านโคก ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง, นายอาหามัด สะรีสาเมาะ อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 6 บ้านบาโงดุดุง ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง, นายนอรอดิง บินบือราเฮง อยู่บ้านโคก หมู่ 5 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ทั้งหมดเป็นคน จ.นราธิวาส และ นายนิซายูตี นิแม บ้านอยู่ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา หลบหนีออกจากเรือนรับรองตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ตั้งอยู่ด้านหลัง สภ.ตันหยง


 


หลังทราบเรื่อง พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ ได้สั่งการไปยังสถานีตำรวจภูธรทั้ง 13 อำเภอ พร้อมระดมกำลังตำรวจ ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 300 นาย กระจายกำลังกันออกติดตามตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 6 คน ตามบ้านพักและบ้านของเครือญาติ พร้อมทั้งติดภาพถ่ายผู้ต้องสงสัยทั้ง 6 คนไว้ตามพื้นที่แหล่งชุมชน


 



พิษไฟใต้ส่งผลให้เกิดนาร้างร่วม 6 แสนไร่ใน 3 จชต.


ผู้จัดการรายวัน - นายปิยะ กิจถาวร ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ สภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สสต.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้นำเสนอผลงานวิจัยของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เรื่องศักยภาพและข้อจำกัดของการผลิตข้าวเพื่อความมั่นคงในจังหวัดปัตตานี


 


ทั้งนี้มาจากสาเหตุเกิดปัญหานาร้าง โดยในปัจจุบันมีพื้นที่นา จำนวน 323,786 ไร่ และ 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นนาร้าง หรือ จำนวน 129,514 ไร่ สาเหตุเพราะพืชเศรษฐกิจตัวอื่นให้ผลที่ดีกว่า ประกอบกับเกิดปัญหาน้ำท่วมนา ในที่สุดจึงเกิดการอพยพไปทำงานที่อื่นกัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ


 


คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม จึงมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ให้ภาครัฐช่วยอุดหนุนปัจจัยการผลิตต่างๆ ที่จำเป็น เช่น พันธุ์ข้าว ปุ๋ย รถแทรกเตอร์ เป็นต้น ให้แก่องค์กรชุมชน เพื่อเป็นการอุดหนุนปัจจัย และแบ่งเบาภาระต้นทุนการผลิตที่นับวันจะสูงขึ้น และยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้แก่ชาวนา และยังเป็นทุนส่งเสริมให้วัฒนธรรมข้าวของชาวนา ยังคงอยู่คู่ จ.ปัตตานี และพื้นที่ภาคใต้สืบไป


 


ที่สำคัญควรให้ความสำคัญกับพันธุ์ข้าวพื้นเมือง มีการกำหนดเป้าหมายการพัฒนาพันธุ์ข้าว พร้อมกับทุ่มชงงบประมาณอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการทำนาอินทรีย์ควบคู่กับการส่งเสริมให้มีการนำภูมิปัญหาชาวบ้านที่ใช้ได้ผลมาในพื้นที่ แล้วขยายผลให้ได้ในวงกว้าง


 


ขณะเดียวกันกระบวนการนโยบายและโครงการเกี่ยวกับข้าว ต้องได้รับการทบทวนทั้งกระบวนการและเนื้อหาและภาครัฐต้องทบทวนโครงการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันและยางพาราในนาข้าว พร้อมกับเร่งวิจัยองค์ความรู้เกี่ยวกับการปลูกปาล์มน้ำมันและยางพาราในนาข้าวให้มากขึ้นและเร่งด่วน มีการประเมินผลดีและผลเสีย ก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการ


 


 






การศึกษา


 


7 มหาวิทยาลัยเริ่มออกนอกระบบ


เดลินิวส์ - รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดี ม.แม่ฟ้าหลวง (มฟล.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแห่งใหม่ 7 แห่งคื อ ม.มหิดล ม.บูรพา ม.ทักษิณ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ม.เชียงใหม่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และจุฬาฯ เพื่อเตรียมการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ซึ่งโดยหลักการเห็นตรงกันว่า การออกกฏระเบียบข้อบังคับต่างๆ ควรเป็นไปตามความจำเป็นของแต่ละแห่ง ส่วนเรื่องที่ต้องเสนอรัฐบาลให้ศึกษาหารูปแบบร่วมกันเพื่อให้การออกนอกระบบเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะเรื่องค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ที่ต้องชัดเจนและต้องหาข้อยุติว่าควรจะเป็นเท่าใด จึงจะทำให้มหาวิทยาลัยเดินหน้าได้ และเป็นที่พอใจตามสมควรกับทุกคน


 



รศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี( มทส.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (ทอมก.) กล่าวว่าในวันที่ 25 ม.ค.ทาง ทอมก.จะมีการประชุมโดยจะเชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่เพิ่งออกนอกระบบมาคุยกันถึงปัญหาอุปสรรคการเตรียมการออกนอกระบบ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการบริหารงาน รวมทั้งจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ มารับฟังปัญหาต่างๆ และให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานด้วย


 


สคบ.จี้ ก.พ. ตรวจสอบธุรกิจนายหน้าขูดเลือดเรียนพิเศษต่างประเทศ-แฉส่ง ร.ร.ห่วย ที่พักไม่ปลอดภัย


เดลินิวส์ - นายจิรชัย มูลทองโร่ย ผู้อำนวยการกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่าได้ประสานงานกับสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ตรวจสอบธุรกิจนายหน้าของมูลนิธิ และองค์กรการศึกษาต่างประเทศ ที่ต้องการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมโดยรับสมัครนักศึกษาไทยไปเรียน และทำงานพาร์ทไทม์ในต่างประเทศ เนื่องจากมีผู้เดือดร้อนร้องเรียนนายหน้าโฆษณาเกินความจริง จนไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ เช่น สถานที่พักไม่ปลอดภัย, ไม่มีงานทำเพื่อเพิ่มรายได้ช่วงที่เรียนพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ไม่มั่นคง เบื้องต้น สคบ.ได้ขึ้นบัญชีดำกับบริษัทบางแห่งแล้วแต่ผู้ประกอบการกลับปิดบริษัทหนีแล้วมาเปิดกิจการภายใต้ชื่อใหม่


 



"ใกล้ช่วงปิดภาคเรียนแล้วภาครัฐจึงเป็นห่วงว่าจะมีนักเรียน นักศึกษาถูกเอาเปรียบจากนายหน้าที่จัดหาผู้ที่เข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะวิธีการโฆษณา เช่น บอกว่ามีที่พักใกล้กับสถานที่เรียนพิเศษมีความปลอดภัย หรือ มีรายได้พิเศษจากการทำงาน แต่ไม่เป็นไปตามโฆษณา ดังนั้นอยากเตือนให้ผู้ต้องการไปเรียนพิเศษในต่างประเทศพิจารณาอย่างรอบคอบหรือควรสอบถามมูลนิธิหรือองค์กรผู้จัดทำโครงการก่อน"


 



สำหรับข้อมูลจากสำนักงาน ก.พ.ราย งานว่า ช่วงใกล้ฤดูร้อนของทุกปีจะมีข่าวประชาสัมพันธ์จากมูลนิธิ และองค์กรการศึกษาต่างประเทศ ที่ต้องการแลกเปลี่ยนและเปิดรับสมัครคัดเลือกนำนักศึกษาไทยไปเรียนในต่างประเทศ จึงทำให้นักเรียนไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ต้องมีรายจ่ายที่สูง ทำให้ เกิดช่องว่างการหากินของนายหน้า ในการจัดหาเด็ก เช่น เข้าโครงการเป็นเวลา 1 ปีต้องเสียค่าใช้จ่าย 8 แสนบาท แต่นายหน้าที่เป็นตัวแทนมูลนิธิให้จ่ายเงินกับบริษัทก่อน 3 แสนบาทจึงได้เข้าร่วมโครงการโดยต้องลงนามในสัญญาพร้อมกับจ่ายเงินสด


 


ทั้งนี้หลังจากที่นักศึกษาไทยลงนามในสัญญาและจ่ายเงิน เพื่อเดินทางไปต่างประเทศ โดยไม่ทราบว่าจะต้องเดินทางไปพักที่ไหน อยู่กับใคร และทำงานอะไร ซึ่งจากการร้องเรียนพบว่า มีนักศึกษาไทยจำนวนมากที่ถูกหลอกลวง ร้องเรียนว่า ถูกไปทำงานช่วงกะดึก ที่พักอยู่ไกลอย่างมากกับสถานที่ทำงาน และงานที่ให้ทำก็เป็นงานที่หนัก และแย่ไปกว่านั้นคือ หากนักศึกษาผิดสัญญาจะต้องจ่ายค่าชดเชย เช่น ยึดตั๋วเครื่องบิน และยึดพาสปอร์ต แต่เมื่อนำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนต่อสถานกงสุล กลับตอบกลับมาว่าให้นักศึกษาที่ถูกหลอกลวงไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ก.พ.


 



สำหรับการแก้ปัญหานั้น ก.พ.จะตรวจสอบมูลนิธิ หรือองค์กรที่มีโครงการให้นักศึกษาไปเรียนและทำงานไปด้วยในต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่มีหลักฐานยืนยันว่า มีอยู่จริง และสถานทูตให้การรับรอง แต่ปัญหาเกิดขึ้น เพราะตัวแทนนายหน้าที่เข้ามาเรียกรับเงินหาประโยชน์จากนักศึกษา เนื่องจากนายหน้าเหล่านี้ได้โควตานักศึกษาไปเรียน จากนั้นก็เรียกค่าหัวคิวแก่นักศึกษาไทยอีกชั้นหนึ่ง


 



 






สิ่งแวดล้อม&คุณภาพชีวิต


 


รัฐดึงชุมชนกำหนดมาตรฐาน  คุมเข้มสิ่งแวดล้อมโรงงานอุตฯ


กรุงเทพธุรกิจ - นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในปีนี้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินโครงการธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมโรงงานและสถานประกอบการ เป็นโครงการนำร่อง โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมกับโรงงานและส่วนราชการ เพื่อจัดทำเกณฑ์มาตรฐานด้านธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมให้เป็นที่ยอมรับร่วมกัน ซึ่งในปี 2551 กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดตัวชี้วัดในการส่งเสริมผู้ประกอบการเข้าสู่ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าหมายจำนวนผู้ประกอบการเข้าร่วมอย่างน้อย 50 ราย ใน 10 จังหวัด ซึ่งจะให้จังหวัดปทุมธานีเป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ


 


ทั้งนี้ โดยหลักการที่ว่าการที่โรงงานจะขยายกิจการต่อไปได้ ชุมชนรอบข้างจะต้องไม่ได้รับผลกระทบด้านลบจากการดำเนินการดังกล่าว ดังนั้น จึงต้องมีธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม ซึ่งหมายถึงจะต้องให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ซึ่งเป็นการสร้างความยุติธรรมให้เกิดในสังคม


 


สำหรับเกณฑ์มาตรฐาน "ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม" เบื้องต้นได้กำหนดไว้ 7 แนวทาง ประกอบด้วย 1.การเข้าถึงข้อมูล โดยผู้ประกอบการจะต้องมีการจัดเตรียมข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน 2.การเปิดเผยข้อมูลต่อชุมชน 3.การมีส่วนร่วมของชุมชน ทั้งก่อนที่จะดำเนินการและมีส่วนในการแก้ไขเมื่อเกิดปัญหา 4.การดำเนินการอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสังคม 5.มีช่องทางรับฟังข้อร้องเรียน และมีการดำเนินการแก้ไข 6.การอนุรักษ์ทรัพยากรและคืนประโยชน์แก่สังคม 7.ความยั่งยืน คือการประกอบกิจการอย่างมีสำนึก ข้อร้องเรียนลดลง หรือไม่มีเลย


 



"เกรียงไกร" ยันเช็คละเอียดก่อนอนุมัติถมดินโรงงานถลุงเหล็ก


สยามรัฐ - นายเกรียงไกร ใจดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากกรณีการเตรียมการถมดินเนื้อที่ 1,200 ไร่ข องบริษัทอุตสาหกรรมเหล็ก อ.บางสะพาน เพื่อเตรียมสร้างโรงงานถลุงเหล็ก โดยตนได้เซ็นคำสั่งเห็นชอบให้ถมดินไมื่อวันที่ 9 พ.ย.2550 ซึ่งก่อนการถมดินบริษัทได้ส่งแผน พร้อมยื่นแบบแปลนพิมพ์เขียวเพื่อป้องกันน้ำท่วมเข้ามาใหม่ และเมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทำแบบสอบถามเป็นแผ่นพับ พร้อมลงพื้นที่อธิบายชี้แจงทำความเข้าใจถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ของบริษัทที่อยู่ระหว่างดำเนินการและได้ดำเนินการไปแล้วกับกลุ่มตัวแทนชาวบ้านทั้ง 8 หมู่บ้าน ต.แม่รำพึง และพื้นที่ตำบลใกล้เคียง


 



นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า การที่เซ็นเห็นชอบถมดินให้บริษัทดังกล่าว เนื่องจากได้ตรวจแบบแปลนพิมพ์เขียว พร้อมศึกษาแผนการแก้ไขการป้องกันน้ำท่วมทั้งในระยะสั้นและยะยาวอย่างละเอียด และได้ปรึกษาผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม ก่อนที่จะเห็นเซ็นเห็นชอบให้ถมดิน


 


"อย่างไรก็ตามในวันที่ 14 มกราคม ที่จะถึงนี้ บริษัทฯและผู้นำประชาคมบางส่วน จะนำแบบแปลนพิมพ์เขียวพร้อมแผนการป้องกันน้ำท่วม และหนังสือชี้แจงจากการลงพื้นที่ของบริษัทฯให้นายธวัชชัย ดิษยนันทน์ นายอำเภอ บางสะพาน รับทราบเพื่อขอความเห็นชอบและจะเข้าดำเนินการตามโครงการต่อไป" นายเกรียงไกร กล่าว


 


อย.ตรวจพบน้ำแข็งหลอด  มีเชื้ออี.โคไลเหตุท้องร่วง


กรุงเทพธุรกิจ - น.พ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จาก การที่มีผู้บริโภคร้องเรียน มายัง อย.ให้ตรวจสอบน้ำแข็งหลอดไม่มีเครื่องหมาย อย. ดังนั้นเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2550 เจ้าหน้าที่ อย.พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตดอนเมือง กทม.จึงได้เข้าตรวจสอบสถานที่ผลิตน้ำแข็ง ชื่อร้านเฮ็งง่วนเส็ง เลขที่ 249 - 250 หมู่ที่ 8 ซอยข้างโรงภาพยนตร์กรุงสยาม ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ  โดยสถานที่ดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 2 คูหา จำหน่ายอาหารสินค้าอุปโภค บริโภค และจัดแบ่งพื้นที่ชั้นล่างเป็นสถานที่ผลิต  แบ่งบรรจุน้ำแข็งหลอดเพื่อจำหน่าย พบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ฉลากระบุ "แม็กซ์ยูนิตน้ำแข็งยูนิต ใช้รับประทานได้....." จึงเก็บตัวอย่างน้ำแข็งหลอดแม็กซ์ ยูนิต ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์ 


 


จากผลการตรวจวิเคราะห์ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  ปรากฏว่าพบบักเตรีชนิด  อี.โคไล และเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคได้แก่ ซาลโมเนลล่า ซึ่งตามเกณฑ์มาตรฐานกฎหมายต้องไม่พบเชื้อทั้ง 2 ประเภทนี้  จึงถือ เป็นอาหารผิดมาตรฐานและเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค รองเลขาธิการฯ  กล่าวต่อไปว่า อี.โคไล เป็นเชื้อแบคทีเรีย ที่พบได้ทั่วไปในทางเดิน อาหารของสัตว์เลือดอุ่นและคนซึ่งมีหลายสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคและเป็นสาเหตุของ การเจ็บป่วย โดยโทษดำเนินมาตรการตามกฎหมาย กรณีสุขลักษณะของสถานที่ผลิตไม่ผ่านเกณฑ์จีเอ็มพี ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และให้งดการผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารดังกล่าวตั้งแต่ บัดนี้เป็นต้นไป


 


 






ต่างประเทศ


 


กลุ่มสิทธิสื่อร้องฟิลิปปินส์เลิกขู่นักข่าว


กรุงเทพธุรกิจ - นายบ็อบ ดิแอทซ์ ผู้ประสานงานประจำภาคพื้นเอเชียของคณะกรรมการคุ้มครองนักข่าว (ซีพีเจ) องค์กรเพื่อสิทธิของสื่อสารมวลชนในนิวยอร์กของสหรัฐ เรียกร้องให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ ถอนคำเตือนที่มีต่อสื่อมวลชนทุกประเภทก่อนหน้าที่ว่า สื่ออาจถูกดำเนินคดีอาญาหากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ในกรณีที่เกิดภาวะฉุกเฉินขึ้น โดยซีพีเจชี้ว่านักข่าวที่ปฏิบัติงานอยู่ท่ามกลางภาวะการเมืองที่ผันผวนของฟิลิปปินส์ ตกอยู่ในอันตรายจากเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ อยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องมีคำขู่เอาผิดทางอาญาของทางการเพิ่มเติม และว่า รัฐบาลกรุงมะนิลาไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนด้วยว่า การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งในสถานการณ์ใดที่จะเข้าข่ายขัดขวางกระบวนการยุติธรรม


 


น้ำมันรั่วลงทะเลเวียดนาม


ข่าวสด - เอเอฟพีรายงานวันที่ 12 ม.ค. เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเวียดนามเปิดเผยว่า ในเหตุการณ์เรือชนกันเมื่อสัปดาห์ก่อน พบว่ามีน้ำมันเบนซินและน้ำมันก๊าดรั่วไหลลงทะเลถึง 100 ตัน ซึ่งน่าวิตกมากต่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปนเปื้อนในแม่น้ำไซ่ง่อนที่ไหลผ่านเขตอุตสาหกรรมและท่าเรือใหญ่ของนครโฮจิมินห์ จากการตรวจสอบของนักวิจัยญี่ปุ่น พบว่าในน้ำปนเปื้อนโลหะและแบคทีเรียในระดับที่สูงมาก


 



เมืองลอดช่องเพิ่มโทษกฎหมายแรงงานรุนแรงขึ้น ป้องกันแก๊งต้มตุ๋น


เดลินิวส์ - นางสาวธมนวรรณ พงษ์อนันต์ จัดหางานจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ประเทศสิงคโปร์ ได้แก้ไขกฎหมายการจัดหาแรงงานต่างชาติ ซึ่งจะมีการบังคับใช้ครอบคลุมกว้างขวางมากขึ้น โดยกฎหมายฉบับใหม่จะมีบทลงโทษผู้กระทำความผิดรุนแรง ดังนั้นกรณีนายจ้างที่หลีกเลี่ยงการจ่ายค่าธรรมเนียม การจ้างแรงงานต่างชาติที่จ้างอย่างผิดกฎหมาย และละเลยสวัสดิการของคนงาน จะต้องมีโทษเพิ่มขึ้น โดยจะต้องจ่ายค่าปรับสูงสุดไม่เกิน 15,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือทั้งจำทั้งปรับ


 



จัดหางานจังหวัดเลย เปิดเผยอีกว่า ส่วนกรณีคนต่างชาติที่ประกอบอาชีพอิสระ โดยไม่ขออนุญาตทำงานก็จะถูกลงโทษ รวมทั้งผู้อนุญาตให้คนงานเข้าไปทำงานในเขตของตนเองโดยไม่มีใบอนุญาต จะต้องได้รับโทษจ่ายค่าปรับสูงสุดไม่เกิน 15,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น จึงขอแจ้งเตือนคนหางานที่จะไปทำงานในประเทศสิงคโปร์ ให้ระวังอาจถูกหลอกไปทำงานโดยผิดกฎหมาย อย่าได้หลงเชื่อ เพื่อป้องกันปัญหาการถูกหลอกลวง


 


สถานทูตมะกันในอิรักไม่ปลอดภัย


แนวหน้า - หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงาน อ้างทั้งเอกสารและเจ้าหน้าที่ที่ขอสงวนนาม ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐว่า สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐที่เพิ่งสร้างเสร็จในกรุงแบกแดดประเทศอิรัก มี ปัญหาร้ายแรงเรื่องระบบป้องกันเพลิงไหม้ และพื้นที่หลายส่วนของสถานทูตก็ไม่เคยได้รับการตรวจสอบแต่อย่าง ใด รายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐไม่ใส่ใจปัญหาระบบป้องกันเพลิงไหม้ เพราะต้องการเร่งก่อสร้างให้เสร็จ สมบูรณ์เกือบทั้งหมดภายในสิ้นปีที่ผ่านมา ทั้งที่ปัญหานี้ร้ายแรงถึงขั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตได้ ขณะที่ระบบไฟฟ้า โรงไฟฟ้า และส่วนอื่น ๆ ของสถานทูตก็ยังไม่เคยได้รับการตรวจสอบ สถานทูตแห่งนี้มีขนาดใหญ่และใช้งบก่อ สร้างมากที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาสถานทูตสหรัฐทั่วโลก มีปัญหาก่อสร้างล่าช้าและงบประมาณบานปลายมาโดย ตลอด


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net