ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 16 มกราคม 2551

การเมือง

 

 

กกต. รับรอง ส.ส.เพิ่มอีก 7 คน

เว็บไซต์แนวหน้า - คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการให้แก่ว่าที่ ส.ส. เพิ่มอีกจำนวน 7 คน ประกอบด้วย ว่าที่ ส.ส.ที่ กกต.มีมติยกคำร้องจำนวน 4 คน คือ 1.นายประเสริฐ บุญเรือง ว่าที่ ส.ส. เขต 2 จ.กาฬสินธุ์ พรรคพลังประชาชน 2.นายทัศนียา รัตนเศรษฐ ว่าที่ ส.ส. เขต 4 จ.นครราชสีมา พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 3.ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ว่าที่ ส.ส. เขต 4 จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน 4.นายอนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ ว่าที่ ส.ส. เขต 4 จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน

 

นอกจากนี้ กกต.ยังมีมติรับรองผล ว่าที่ ส.ส.จากการเลือกตั้งใหม่ที่ เขต 3 จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา คือ 1.นายบุญเลิศ ครุฑขุนทด 2.นางลินดา เชิดชัย 3.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ว่าที่ ส.ส. เขต 3 จ.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน

 

 

"ยงยุทธ"ลั่นวีซีดีตัดต่อ เล็งฟ้องกลับสันติบาล

โพสต์ทูเดย์ - หลังจากใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการดูวีซีดี ที่เป็นหลักฐาน ที่ระบุว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าที่ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน ทุจริตเลือกตั้งแล้ว นายยงยุทธ มีสีหน้าสดชื่นขึ้น โดยมั่นใจว่าวีซีดีดังกล่าวเป็นการจัดทำขึ้นเพื่อใส่ร้ายตนเอง และทำเป็นขบวนการ ทำให้มั่นใจว่ากระบวนการสอบสวนของสันติบาลไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมตั้งแต่ต้น ซึ่งเมื่อได้ดูจากไฟล์วีซีดีแล้ว พบว่าจัดทำขึ้นในวันที่ 25 ต.ค. 50 ก่อนที่จะมีการแจ้งความกล่าวหาตนเองในวันที่ 28 ต.ค. 50 กระบวนการสอบสวนที่ปรากฏในวีซีดี ก็มีการข่มขู่ชาวบ้านให้หลงชื่อคัดค้าน ซึ่งถือเป็นบทเรียนราคาแพงของสังคม อย่างไรก็ตามจะปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีกับสันติบาลต่อไป

"วันนี้ไม่รู้ว่าผมจะตายหรือไม่ เพราะองค์กรและกระบวนการใหญ่ ถ้าผมตายเสียคนเดียว ทุกอย่างก็จบ เรื่องที่ถอนฟ้อง ผมไม่มีความรู้สึกว่าดีใจหรือเสียใจ เพราะอยากให้ กกต.พิสูจน์ความเป็นธรรม ศักดิ์ศรีเป็นเรื่องสำคัญกว่าการเป็นผู้แทน และถือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง เพราะสุดท้ายก็ทำได้ไม่แนบเนียน วีซีดีที่ออกมาเหมือนกับการสร้างหนังเพชรพระอุมา หากใครรับใบสั่งใครมาก็ขอให้ถอยกลับเข้าที่ ให้อภัยกันและเริ่มต้นกันใหม่ ผมพร้อมให้อภัยทุกฝ่าย" นายยงยุทธ กล่าว

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าสำนวนการสอบสวนรั่วไหลนั้น นายยงยุทธ ยืนยันว่า ไม่ใช่รั่วจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)แน่นอน เพราะก่อนที่สำนวนจะถึง กกต. วีซีดีดังกล่าวได้ถูกนำไปเปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง และมีพรรคการเมืองหนึ่งนำไปเปิดเผยแล้ว ทั้งนี้แม้ไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ไม่สำคัญ แต่ต้องการให้สังคมได้รับรู้กระบวนการสอบสวนที่ไม่โปร่งใส

 

 

"บรรณวิทย์" ลาออกที่ปรึกษา ทอท.-ทีโอที

เว็บไซต์เดลินิวส์ - พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะที่ปรึกษาประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ประธานกรรมการบริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด และที่ปรึกษาประธานกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) นำหนังสือลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธาน และกรรมการ ทอท. ประธานกรรมการบริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และที่ปรึกษาประธานกรรมการ บมจ.ทีโอที มาแจกจ่ายแก่สื่อมวลชน โดยระบุว่า บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการบริหารงานไม่โปร่งใส เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ส่วนกรณีทีโอที มีการบริหารงานและการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษหลายรายการที่ไม่โปร่งใส ตลอดจนการย้ายพนักงานอย่างไม่เป็นธรรม มีการใช้จ่ายงบประมาณโดยไม่ประหยัด จึงขอลาออกจากทั้ง 3 ตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2551 เป็นต้นไป

 

 

ครม.เห็นชอบหลักการสร้างเครือช่ายที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคปชช.

เว็บไซต์คมชัดลึก - พ.อ.ประชาสัณห์ ชนะสงคราม ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบในหลักการข้อเสนอการสร้างเครือข่ายที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สาระสำคัญคือ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบาย ในการพัฒนากระบวนการการมีส่วนร่วมพัฒนาองค์ความรู้ และสร้างเครือข่ายที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ผู้แทนเครือข่ายซึ่งได้รับการคัดเลือก และ ครม.มีมติแต่งตั้ง จะมีฐานะเป็นที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ของผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ตรวจราชการของทุกกระทรวง โดยให้มีการออกบัตรแสดงตน ให้แก่ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนด้วย ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเครือข่ายในการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ที่จะลงไปประเมินการปฏิบัติราชการในพื้นที่ให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากขึ้น

 

 

ครม.เห็นชอบปรับปรุงการจัดกลุ่มจังหวัด

เว็บไซต์คมชัดลึก - นายไชยา ยิ้มวิไล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า ครม.เห็นชอบการปรับปรุงการจัดกลุ่มจังหวัด และการกำหนดจังหวัดเป็นศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มจังหวัด ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร.เสนอดังนี้

 

1.ภาคกลางตอนบน 1 นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา สระบุรี โดยอยุธยาเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 2.ภาคกลางตอนบน 2 ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง โดยลพบุรีเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 3.ภาคกลางตอนกลาง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก สมุทรปราการ โดยฉะเชิงเทราเป็นจังหวัดศูนย์ฯ

 

4.ภาคกลางตอนล่าง 1 กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี โดยนครปฐมเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 5.ภาคกลางตอนล่าง 2 ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สุมทรสาคร สมุทรสงคราม โดยเพชรบุรีเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 6.ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง โดยสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดศูนย์

 

7.ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ระนอง พังงาน ภูเก็ต กระบี่ ตรัง โดยภูเก็ตเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 8.ภาคใต้ชายแดน สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส โดยสงขลาเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 9.ภาคตะวันออก จันทบุรี ชลบุรี ระยอง ตราด โดยชลบุรีเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 10.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน1 หนองคาย เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู โดยอุดรธานี เป็นจังวัดศูนย์ฯ

 

11.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 นครพนม มุกดาหาร สกลนคร โยสลกนครเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 12.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ โดยขอนแก่นเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 13.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง1 อำนาจเจริญ ศรีษะเกษ ยโสธร อุบลฯ โดยอุบลฯเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 14.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง2 สุรินทร์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ โดยนครราชสีมาเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 15.ภาคเหนือตอนบน1 เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน โดยเชียงใหม่เป็นจังหวัดศูนย์ฯ

 

16.ภาคเหนือตอนบน2 น่าน พะเยา เชียงราย แพร่ โดยเชียงรายเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 17.ภาคเหนือตอนล่าง1 ตาก พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ โดยพิษณุโลกเป็นจังหวัดศูนย์ฯ 18.ภาคเหนือตอนล่าง 2 กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี โดยนครสวรรค์เป็นจังหวัดศูนย์ฯ

 

โดย ก.พ.ร.อนุมัติจัดตั้งสำนักงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด ไว้ในจังหวัดที่เป็นศูนย์ฯเพื่อเป็นตัวประสานงาน และเป็นสำนักงานเลขานุการด้วย

 

 

ครม.ให้ยกเลิกโครงการสร้างเขื่อนลับล่อ-เขื่อนดอกกราย

เว็บไซต์คมชัดลึก - พ.อ.ประชาสัณห์ ชนะสงคราม ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. ได้พิจารณาการเจรจาแก้ปัญหาสมัชชาคนจนเรื่องเขื่อนที่ยังไม่ได้รับการก่อสร้าง โดยเห็นชอบหลักการ ให้ยกเลิกการดำเนินการโครงการเขื่อนลับล่อ จ.ชุมพร เขื่อนดอกกราย จ.นครศรีธรรมราช ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามสรุปผลการเจรจาระหว่างกรมชลประทาน กับตัวแทนสมัชชาคนจน เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพราะมีข้อขัดแย้ง และความไม่เข้าใจในกรณีต่างๆค่อนข้างมาก จึงมีมติให้ยกเลิก อีกส่วนหนึ่งคือยังไม่มีการยกเลิก แต่ให้ตั้งคณะกรรมการกำกับและติดตามการดำเนินงานตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2550 โดยให้รับผิดชอบเฉพาะกรณีโครงการเขื่อนแม่ขาน จ.เชียงใหม่ โครงการเขื่อนท่าแซะ จ.ชุมพร และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับไปปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองเสนอ ส่วนเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้น ได้มีมติ ครม.ให้มีการตั้งคณะกรรมการอำนวยการ ในการดูแลระบบลุ่มน้ำยมทั้งระบบ ดังนั้นเขื่อนแก่งเสือเต้น จะไปขึ้นกับคณะกรรมการอำนวยการฯดังกล่าว

 

 

พลังประชาชนยันสมัครนายกฯ ยงยุทธ ประธานสภาฯ

เว็บไซต์สยามรัฐ - น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน (พปช.) เปิดเผยว่า พรรคพลังประชาชน จะมีข้อสรุปการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองอื่นภายในสุดสัปดาห์นี้ เพราะเป็นช่วงที่ใกล้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จึงควรจะมีการประกาศออกไปอย่างชัดเจน "ในช่วงใกล้เปิดประชุมสภาฯ เป็นเวลาที่ควรประกาศกิจกรรมการเมืองและแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล ในช่วงสุดสัปดาห์นี้คงจะได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ...น่าจะเป็นศุกร์-เสาร์นี้ ส่วนที่ 20 ม.ค.พรรคฯจะเรียกส.ส.ทั้งหมดเข้ามาปฐมนิเทศน์ก่อนที่จะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 22 ม.ค.ซึ่งจะมีการเสนอชื่อ ส.ส.ของพรรคเข้าไปเป็นประธานสภาผู้แทนฯ

 

สำหรับนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรค เป็นบุคคลหนึ่งที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าว แต่ก็ยังมีบุคคลอื่น ๆในระดับรองหัวหน้าพรรคที่เหมาะสมเช่นกัน ซึ่งพรรคก็จะนำไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป สำหรับขั้นตอนการตั้งคณะรัฐมนตรีจะเป็นขั้นต่อไปหลังจากประกาศร่วมกันตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลจะหารือร่วมกันเพื่อวางนโยบายและคัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถกับตำแหน่งต่าง ๆ น่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้ และอีก 1-2 วันจะให้ทราบละเอียดขั้นตอนต่าง ๆ ได้อีกครั้งหนึ่ง

 

น.พ.สุรพงษ์ กล่าวถึงกระแสข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคอาจไม่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ไม่เป็นความจริง และพรรคเองก็ไม่มีแนวคิดที่จะกำหนดตัวนายกฯสำรองไว้ มีเพียงความตั้งใจที่จะเสนอชื่อนายสมัครเป็นนายกฯ เท่านั้น ประเด็นข่าวที่ออกมาเหมือนจงใจให้เกิดความสับสน และเกิดความเข้าใจผิดภายในพรรค

 

 

ตั้งอนุฯยุบมัชฌิมาฯ

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายประพันธ์ นัยโกวิท คณะกรรรมการ กกต. กล่าวถึงกรณีการตั้งอนุกรรมการสอบยุบพรรค กรณีที่กรรมการบริหารพรรคถูกกกต.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ว่า ในวันที่ 16 มค. กกต.จะได้หารือเบื้องต้นว่าจะมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ของนายสุนทร วิลาวัลย์ รองหัวหน้าพรรค อดีตว่าที่สส. พรรคมัชฌิมาธิปไตย ปราจีนบุรี ฐานะที่เป็นกรรมการบริหารพรรค ซึ่งถูกกกต.เพิกถอนสิทธิทางการเมือง จึงจะต้องถูกพิจารณายุบพรรค เนื่องจากทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง ส่วนกรณีของนายมณเฑียร และน.ส.นันทนา สงฆ์ประชา อดีตว่าที่สส.ชัยนาท ผู้ที่ได้รับใบแดง ต้องรอให้กฤษฎีกาพิจารณาก่อน

 

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า การพิจารณายุบพรรคการเมืองใด กกต.ต้องตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริงให้เสร็จสมบูรณ์ และสรุปผลการดำเนินการตรวจสอบมาให้กกต.วินิจฉัยและลงมติอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ทั้งนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สามารถใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัยว่าจะยุบพรรคหรือไม่ ไม่ได้หมายความว่าเมื่อกกต.เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคการเมืองก็ต้องเป็นไปตามนั้น

 

 

เศรษฐกิจ

 

 

ครม.ให้สินค้า 4 ชนิดเป็นสินค้าควบคุม

โพสต์ทูเดย์ - คณะรัฐมนตรี ประกาศให้ "นมเปรี้ยว-โยเกิร์ต-บะหมี่กึ่งสะเร็จรูป-แบตเตอรี่"เป็นสินค้าควบคุม โดยนายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ครม.อนุมัติให้ปรับปรุงบัญชีสินค้าควบคุมของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดยเพิ่มเติมสินค้า 4 รายการให้เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม คือ นมเปรี้ยว, โยเกิร์ต, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และแบตเตอรี่ ซึ่งส่งผลให้สินค้าดังกล่าวก่อนปรับขึ้นราคาจะต้องชี้แจงต้นทุนให้รับทราบก่อน

ปัจจุบันมีสินค้าและบริการควบคุมจำนวน 35 รายการ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 แบ่งเป็นสินค้า 34 รายการ และบริการอีก 1 รายการ โดยก่อนหน้านี้สินค้าทั้ง 4 รายการดังกล่าว อยู่ในรายการสินค้าสำคัญที่ต้องติดตามดูแล 200 รายการ

 

ขวางขสมก.-บขส.ปรับขึ้นค่าโดยสาร

เดลินิวส์ - นายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือถึง พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม และนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคมให้ยกเลิกการขึ้นค่าโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หลังจากที่ทั้ง 2 หน่วยงานตรึงราคาค่าโดยสารมาเป็นเวลา 3 เดือนและจะสิ้นสุดในวันที่ 15 ม.ค. 51 นี้ เนื่องจากเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ดีหากขึ้นค่าโดยสารอีกจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนให้ได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น

 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้ยกเลิกมติการขึ้นค่าโดยสารเรือทุกประเภท หลังจากที่คณะกรรมการพิจารณาค่าเรือโดยสารได้อนุมัติขึ้นค่าโดยสารประจำทางทั้งในแม่น้ำเจ้าพระยาและในคลองแสนแสบ โดยให้ขึ้นค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา (ธงสีเหลืองและสีส้ม) อีกระยะละ 2 บาท เรือคลองแสน แสบระยะละ 2 บาท ส่วนเรือด่วนประจำทางขึ้นระยะละ 1 บาท และเรือข้ามฟากขึ้น 50 สตางค์ ในวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือถึงนายสรรเสริญ เพื่อคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารเรือ แต่ไม่ได้รับการพิจารณาจึงต้องมาขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง

 

"ในวันที่ 16 ม.ค.นี้ ศาลปกครองจะนัดไต่สวนในเรื่องดังกล่าว เพราะได้ยื่นฟ้องนายสรรเสริญ และนายประสงค์ ตันมณีวัฒนา อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาค่าเรือโดยสาร ทั้งนี้เห็นว่ากรมขนส่งทางน้ำฯ ไม่ควรอนุมัติให้ผู้ประกอบการขึ้นค่าโดยสารเรือ เพราะจากข้อมูลพบว่าผู้ประกอบการเดินเรือมีกำไร"

 

 

 

ต่างประเทศ

 

 

มะกันฟื้นเจรจาเอฟทีเอกับมาเลย์ หวังบรรลุข้อตกลงก่อนศึกเลือกตั้ง

ผู้จัดการออนไลน์ - (เอ เอฟพี) แคทรีน เทย์เลอร์ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย แถลงเมื่อวานนี้ (14) ว่า ทางสหรัฐฯและมาเลเซียได้กลับมาเจรจาหารือเพื่อทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กันอีกครั้ง หลังจากที่การเจรจาหยุดชะงักไปถึง 1 ปี

 

ทั้งนี้ การเจรจาครั้งก่อนหยุดชะงักไป เนื่องจากทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ในหลายประเด็น รวมถึงเรื่องนโยบายที่ให้สิทธิพิเศษแก่คนเชื้อสายมาเลย์

 

เทย์เลอร์ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายหวังจะบรรลุข้อตกลงให้ได้ก่อนกลางปีนี้ เนื่องจากทั้งมาเลเซียและสหรัฐฯ ต้องพิจารณาถึงเรื่องการเมือง โดยมาเลเซียจะจัดการเลือกตั้งในปีนี้ ขณะที่สหรัฐฯก็เข้าสู่ขั้นตอนการหยั่งเสียงคัดเลือกตัวแทนพรรคสู้ศึกเลือก ตั้งประธานาธิบดีในปลายปีนี้

 

ทางด้านกลุ่มต่อต้านเอฟทีเอในมาเลเซียได้ออกมาทวงถามถึงประเด็น 58 ประเด็นที่ทั้งสหรัฐฯและมาเลเซียตกลงกันไม่ได้ ก่อนที่การเจรจาจะยุติลงเมื่อปีที่แล้ว โดยกลุ่มเหล่านี้เรียกร้องให้ยุติการเจรจาไปก่อนจนกว่าที่ทั้งสองฝ่ายจะ บรรลุข้อสรุปในประเด็นดังกล่าว

 

 

ไฟไหม้ตลาดอินเดีย 3 วันติด ร้านค้ากว่า2,500แห่งเสียหาย

ผู้จัดการออนไลน์ - พลเรือนหลายร้อยคนต้องอพยพวันนี้ (14) หลังไฟไหม้อาคารแห่งหนึ่งย่านใจกลางตลาดกัลกัตตา เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันและทำลายร้านค้าไปแล้วกว่า 2,500 แห่ง แม้ว่ายังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงยังต้องต่อสู้กับเพลิงที่โหมกระหน่ำบริเวณ คับแคบตรอกเล็กๆของตลาดBurrabazar อันมีชื่อเสียง และเกิดระเบิดหลายครั้งภายในตึก 14 ชั้นเมื่อช่วงคืนวันอาทิตย์(13) ก่อให้เกิดความกังวลว่าอาคารดังกล่าวอาจถล่มลงมา

 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดหมายว่าอาจเกิดระเบิดขึ้นไปอีกหลายวันเพราะ ว่าอาคารหลังนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นแหล่งเก็บน้ำมันเชื้อดีเซลเพื่อ ผลิตไฟฟ้า และแรงระเบิดที่เกิดจากน้ำมันดีเซลช่วยให้ไฟโหมแรงขึ้น

 

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่มีพ่อค้ารายหนึ่งเสียชีวิตจากโรคหัวใจหลังทราบขอบเขตความเสียหาย นายกสมาคมพ่อค้าระบุและบอกต่อว่าค่าเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้น่า จะมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ และไม่มีเจ้าของร้านค้ารายใดทำประกันร้านหรือทรัพย์สินอื่นๆ เอาไว้เลย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท