Skip to main content
sharethis



เมื่อวันที่ 23 ม.ค.51  เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (อันเฟรล) ออกมาระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรเร่งดำเนินการปรับปรุงการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ก่อนวันเลือกตั้งที่จะมาถึงในวันที่ 27 ม.ค.นี้ เนื่องจากพบความผิดปกติ บกพร่อง หลายประการในการเลือกตั้งซ่อมใน 6 จังหวัดที่เข้าสังเกตการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการนับคะแนนที่ผ่านมามีความเข้าใจบัตรดีบัตรเสียคาดเคลื่อน


ความรุนแรงที่บุรีรัมย์และอุดรธานีถูกละเลย การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบข้อมูล หรือวันเลือกตั้งมีน้อยมาก เป็นต้น


 


ทั้งนี้ 6 จังหวัดที่มีการสังเกตการณ์ในการเลือกตั้งซ่อม ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุดรธานี ลำปาง นครนายก และเพชนรบูรณ์


 


 






 


กกต. ควรปรับปรุงการจัดการเลือกตั้ง (ใหม่) ก่อนวันเลือกตั้งที่  27 มกราคม


 


การนับคะแนนที่ผ่านมามีความเข้าใจบัตรดีบัตรเสียคาดเคลื่อน


ความรุนแรงที่บุรีรัมย์และอุดรธานีถูกละเลย


 


การเลือกตั้งใหม่ของประเทศไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นที่สนใจของผู้สังเกตการณ์อันเฟรลเป็นอย่างมากหลังจากที่ผู้สังเกตการณ์ทั้ง 5 คณะได้ลงทำงานในพื้นที่ 6 จังหวัด คือ นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุดรธานี  ลำปาง นครนายก และเพชรบูรณ์ และได้สังเกตการณ์ทั้งสิ้น 94 หน่วย  โดยทั่วไปการเลือกตั้งใหม่ของจังหวัดดังกล่าวดำเนินไปได้ด้วยดีและไม่พบการกระทำผิดที่รุนแรง แต่อันเฟรลยกประเด็นปัญหา 8 ประเด็นเพื่อการพิจารณาต่อไป :


 


1.  การพิจารณาบัตรดีบัตรเสีย และความสับสนของผู้มาลงคะแนน


 


เมื่อ กกต. ให้ใบแดงผู้สมัคร 3 คนที่จังหวัดบุรีรัมย์ และประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยผู้ถูกใบแดงไม่สามารถลงแข่งขันได้อีก แต่เมื่อการเลือกตั้งที่ผ่านมามีผู้ลงคะแนนบางคนเลือกกาเบอร์ของผู้สมัครที่ถูกใบแดงไปพร้อมๆกับกาให้เบอร์อื่น (ที่ไม่โดนใบแดง) ในจำนวนสามเบอร์ด้วย ผู้สังเกตการณ์เห็นว่า เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งในบางหน่วยพิจารณาให้บัตรดังกล่าวเป็นบัตรเสีย แต่มีเจ้าหน้าที่บางหน่วยพิจารณาให้เป็นบัตรดีโดยไม่นับคะแนนเบอร์ที่โดนใบแดง จะนับเฉพาะเบอร์ที่กาให้ผู้ไม่ถูกใบแดงเท่านั้น  นายอิเชาร์ สุเปรียดี ผู้ประสานงานอันเฟรลเสนอว่า "ในการเลือกตั้งที่ชัยนาทและปราจีนบุรีในวันอาทิตย์นี้ กกต. ควรจะมีคำสั่งที่ชัดเจนไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยทุกคนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดอีก  อันเฟรลจะเดินทางไปสังเกตการณ์ที่จังหวัดดังกล่าว จังหวัดละ 1 ทีม"


 


ที่ผ่านมามีความสับสนในการกาเบอร์เลือกผู้ที่ถูกใบแดง  และถูกตัดสิทธิในการลงเลือกตั้งใหม่ ส่วนจังหวัดอื่น เช่นเพชรบุรี นครนายก ลำปาง ประชาชนจะไม่เข้าใจว่าจะกาได้กี่เบอร์ "กกต.น่าจะใช้สื่อท้องถิ่นให้มากกว่านี้เพื่อชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะเลือกตั้งอย่างไร เลือกได้กี่คน การเลือกตั้งใหม่ต่างจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคมอย่างไร จะได้ป้องกันไม่ให้มีบัตรเสียมากเท่านี้" นายสุเปรียดี กล่าว


 


2.  ความรุนแรงที่เกี่ยวกันการเลือกตั้ง


 


เหตุระเบิดที่หน้าบ้านผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดินที่จังหวัดบุรีรัมย์เมื่อวันที่ 13 มกราคม สร้างความหวั่นไหวให้คนทั่วไปมาก ขณะเดียวกัน ประธาน กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ ก็ถูกข่มขู่ด้วย  อันเฟรลเห็นว่าผู้ก่อความรุนแรงเหล่านี้ควรต้องถูกลงโทษอย่างจริงจัง    ส่วนกรณีที่เกิดกับหัวคะแนนพรรคพลังประชาชน (ผู้ทำรายการวิทยุ) ที่ถูกตีอย่างแรงเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่จังหวัด อุดรธานี ซึ่งต่อมาสถานีวิทยุถูกเผาเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ดูเหมือนตำรวจและ กกต. จังหวัดอุดรธานีไม่คิดจะสืบสวนกรณีเหล่านี้อย่างจริงจัง   ตำรวจชั้นผู้ใหญ่กล่าวกับผู้สังเกตการณ์ว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกิดกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส่วน กกต.เองบอกว่า มันเป็นเรื่องที่เหนือความรับผิดชอบของ กกต.จังหวัด


 


3.  การรณรงค์อย่างผิดกฎหมาย


 


ผู้สังเกตการณ์อันเฟรลพบว่ามีการแจกแผ่นปลิวที่บุรีรัมย์ พร้อมภาพผู้สมัครของพลังประชาชนซึ่งโดนใบแดงทั้ง 3 คน ในแผ่นปลิวนั้นมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ กกต. พิจารณาความผิดของผู้สมัครทั้งสามรวมทั้งมีการเขียนข้อความเรียกร้องไม่ให้คนไปเลือกผู้สมัครท่านอื่น แผ่นปลิวเหล่านั้นแจกในจังหวัดบุรีรัมย์  "ขณะที่ สมาชิกพรรคพลังประชาชนปฏิเสธว่าพวกตนไม่ได้เป็นผู้พิมพ์เผยแพร่แจกจ่าย และพวกตนได้รับใบแดงไปแล้ว  เรื่องนี้ กกต.ควรจะทำการสืบสวนผู้อยู่เบื้องหลังและมีการลงโทษอย่างเหมาะสม" นายอดัม คูเปอร์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานอันเฟรลกล่าวจากการสังเกตการณ์ที่บุรีรัมย์


 


4.  ขาดผู้สังเกตการณ์ตามหน่วยต่างๆ


 


เป็นที่น่าห่วงว่าไม่มีผู้สังเกตการณ์หรืออาสาสมัครท้องถิ่นตามหน่วยต่างๆ ในวันเลือกตั้ง ไม่ว่าจะมาจากองค์กรเอกชนหรือจากตัวแทนพรรคการเมืองก็ตาม องค์กรท้องถิ่นไม่กระตือรือร้นไม่ให้ความสนใจสังเกตการณ์สถานการณ์ก่อนการเลือกตั้งไม่รายงานการซื้อเสียง  "เมื่อไม่มีผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยต่างๆ  ความเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่จะกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง  หย่อนบัตรเลือกตั้งตามอำเภอใจและเปลี่ยนผลการนับคะแนนได้"  นายสุเปรียดี กล่าว


 


 


5. มีผู้มาลงคะแนนน้อย


 


การเลือกตั้งใหม่ในทุกจังหวัดมีผู้มาลงคะแนนน้อย ทั้งนี้เป็นเพราะผู้มีสิทธิลงคะแนนจำนวนมากทำงานในจังหวัดอื่นนอกถิ่นฐานตนเองและจำนวนไม่น้อยที่เริ่มเบื่อการเลือกตั้ง   ขณะเดียวกัน กกต. จังหวัด เช่น ที่จังหวัดนครนายกไม่กระตือรือร้นในการประชาสัมพันธ์ให้คนมาเลือกตั้งใหม่หรือบอกให้เลือกอย่างไร "กกต. น่าจะกำชับให้บรรดานายจ้างอนุญาตคนงานหรือลูกจ้างหยุดงานมาเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อให้คนมีส่วนร่วมหรือมาลงคะแนนมากขึ้น" นายสุเปรียดีเสริม


 


6.  การเก็บรักษาอุปกรณ์การเลือกตั้งและกล่อง


 


อุปกรณ์การเลือกตั้ง เช่น กล่องเลือกตั้งและบัตรเลือกตั้งที่เก็บไว้ข้ามคืนก่อนวันเลือกตั้งใหม่ในหลายเขต เช่นไปเก็บไว้ที่บ้านของเจ้าหน้าที่หน่วย ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน และที่สำนักงานท้องถิ่น  แม้ว่าอันเฟรลไม่พบความผิดปกติในการเก็บอุปกรณ์การลงคะแนนเสียง แต่เมื่อไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยหรือกักเก็บอย่างโปร่งใส ในสถานที่ที่เหมาะสม


 


ประเด็นดังกล่าวนี้ทุกฝ่ายควรจะระวังด้วย   และไม่ควรเคลื่อนย้ายอุปกรณ์การเลือกตั้งไปยังสถานที่ต่างๆหนึ่งวันก่อนวันเลือกตั้ง แต่ควรจะกระจายมายังหน่วยเลือกตั้งในตอนเช้าของวันเลือกตั้ง


 


7.  การตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง


 


ชื่อของผู้ตายยังคงอยู่ในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่หลายหน่วยที่จังหวัดนครนายก  กกต. ควรจะตรวจสอบหรือตรวจทานบัญชีรายชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เตรียมโดยกระทรวงมหาดไทย


 


8.  การอนุญาตให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ


 


เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำนันผู้ใหญ่บ้านยังมีบทบาททางการเมืองอย่างต่อเนื่องดังเช่นที่จังหวัดนครราชสีมา   หัวคะแนนพรรคพลังประชาชนจังหวัดอุดรธานีเล่าว่า "ผู้ใหญ่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายเรา"  ชาวบ้านในจังหวัดลำปางบอกกับผู้สังเกตการณ์ว่าเจ้าหน้าที่หน่วยราชการท้องถิ่นและตำรวจเป็นพันธมิตรกับพลังประชาชน "เมื่อผู้ใหญ่บ้านเป็นหัวคะแนนคนสำคัญให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง  เราไม่ควรอนุญาตให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยซะเอง" นายสุเปรียดีกล่าวสรุป


 


 


ที่ผ่านมาอันเฟรลส่งผู้สังเกตการณ์นานาชาติ 37 คนจาก 15 ประเทศมาสังเกตการณ์การเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ท่านสามารถอ่านข้อเสนอฉบับเต็มขอให้ดูรายงานที่จะนำเสนอในเดือน กุมภาพันธ์ 2551


 


 


 


 


 


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net