Skip to main content
sharethis

'พล.อ.สนธิ' กลับจากนอก ยอมรับคุย 'ทักษิณ' แล้วแบบพี่น้องก่อนตั้งรัฐบาล ไร้เงื่อนไข ไม่เกี่ยวคดี ระบุมีเพื่อนคนกลางอยากเห็นบ้านเมืองสงบต่อสายให้ ลั่นไม่ห่วงถูกเช็คบิล ยันทำเพื่อชาติ พร้อมให้กำลังใจ รบ.สมัคร


 


'สนธิ'บอกไปนอกแจงเหตุ3จว.ใต้


พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมือง รวมทั้งรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ สมัคร สุนทรเวช ที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 30 มกราคม ภายหลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศตะวันออกกลาง ว่า สาเหตุที่เดินทางไปครั้งนี้ เพื่อทำความเข้าใจปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับกลุ่มประเทศอาหรับที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโอไอซี เพราะปัญหาในภาคใต้หากองค์กรโอไอซีมีความเชื่อว่าเป็นเรื่องศาสนาและมีการสร้างความไม่เป็นธรรม ก็จะมารณรงค์แก้ไขปัญหา แต่เคยพบกับบุคคลเหล่านั้นในประเทศไทย ทำความเข้าใจว่าไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งศาสนา แต่เกิดจากการก่อการร้าย การไปครั้งนี้ถือโอกาสไปเยี่ยมและอธิบายเพิ่มเติมว่างานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พัฒนาไปข้างหน้ามากน้อยแค่ไหน อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีการประชุมโอไอซี จึงจำเป็นที่ต้องไปทำความเข้าใจเพิ่มเติม


ยอมรับ'สมัคร'นายกฯเป็นมติปชช. ไม่ห่วงถูกเช็คบิล


ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่านายสมัคร นายกรัฐมนตรี จะบริหารประเทศไปได้หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ประชาชนเป็นคนเลือก และตัดสิน หัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค ส.ส.ทุกคนได้โหวตมาแล้ว ถือเป็นมติของประชาชน


ส่วนนายสมัครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะสร้างความระส่ำระสายในกองทัพหรือไม่นั้น พล.อ.สนธิกล่าวว่า กองทัพมีวินัย ซึ่งต่างประเทศที่เป็นมหาอำนาจก็ใช้ รมว.กลาโหม ที่เป็นพลเรือน อาจเป็นรูปแบบใหม่ในการบริหารการจัดการกองทัพ แต่หากคนที่ไม่เคยเข้ามาอยู่ในกองทัพเข้ามาบริหารกองทัพจะได้บทเรียนที่ดีๆ เพราะทหารมีวินัย และจะรู้ว่าความมีวินัยเป็นรากฐานกำหนดแนวความคิดของประเทศว่า ประเทศเราควรมีวินัยหรือไม่อย่างไร


พล.อ.สนธิยังกล่าวถึงเรื่องที่จะถูกเช็คบิลว่า ไม่ต้องห่วง ไม่กังวล รับราชการมาจนถึงปัจจุบันมีความสะอาดและโปร่งใส แต่ตอบไม่ได้ว่าใครจะมาเช็คบิล ยืนยันทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองแท้จริง และขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาลก็แล้วกัน และอยากให้กำลังใจนี้กับทุกคน ทั้งประชาชน พรรคการเมืองและฝ่ายค้าน อยากเห็นความเป็นสุภาพบุรุษเช่นเดียวกับต่างชาติ เมื่อเห็นว่าฝ่ายใดเข้ามาบริหารประเทศแล้ว ส่วนที่เหลือต้องเป็นกำลังใจให้และสนับสนุน


 


รับมีคนต่อสายให้คุย'ทักษิณ'แล้ว


เมื่อถามว่า เพื่อความสมานฉันท์ถึงเวลาที่ต้องต่อสายพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้วหรือยัง พล.อ.สนธิกล่าวว่า ''พูดกันซะทีก็ดี ผมได้คุยแล้ว ในฐานะพี่น้อง ไม่มีเงื่อนไขด้านการเมือง เป็นเงื่อนไขในฐานะพี่น้อง คุยกันด้วยดีไม่มีปัญหา โดยเป็นการพูดคุยกันตั้งแต่ไม่มีการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งไม่มีการร้องขอ เป็นการพูดคุยกันอยู่ในกรอบไม่เกี่ยวกับการเมือง''


เมื่อถามว่า ใครเป็นผู้ติดต่อก่อนระหว่าง พล.อ.สนธิกับ พ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ''หากผมติดต่อก่อนก็ไม่รู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน ทั้งนี้ คุยกันก่อนที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะเดินทางกลับประเทศ'' เมื่อถามย้ำว่า เหตุใดจึงมีการต่อสายพูดคุยกัน พล.อ.สนธิกล่าวว่า ''มีคนกลางที่ต้องการจะพูดคุย เขาเห็นบ้านเมืองไม่ค่อยเรียบร้อยก็เป็นห่วง อยากให้เกิดความสงบ แต่ไม่มีการพูดคุยเรื่องคดีต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกตรวจสอบ''


เมื่อถามว่า คนกลางที่ติดต่อเป็นคนระดับสูงหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ''เพื่อนๆ กันนี้แหละพูดคุยกันได้ ทั้งนี้ การพูดคุยเป็นการคุยทางโทรศัพท์ ผมอยู่กรุงเทพฯไม่ได้เดินทางไปคุยที่ไหน ทั้งนี้ มีคนพยายามเป็นตัวกลางเยอะมาก เราบอกว่า ความจริงแล้วไม่มีอะไร ฝ่ายกองทัพ คมช.ไม่ได้มีเงื่อนไขใด ต้องการเห็นชาติบ้านเมืองสงบสุขเรียบร้อย ผมถาม พ.ต.ท.ทักษิณว่า อยู่ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบกลับว่า สบายดี การพูดคุยวันนั้น มีคนกลางติดต่อประสานให้และยื่นโทรศัพท์ให้พูด จึงมีโอกาสพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ''


 


'อนุพงษ์'ยันไม่เคยคุยกับ'หญิงอ้อ' อารมณ์บูดซัดสื่อคำถามโง่ๆ


วันเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงข่าวการติดต่อพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ไม่ได้ติดต่อ และไม่เข้าใจว่าสื่อฉบับใดไปเขียนเป็นเรื่องเป็นราวว่า เป็นตัวกลาง ยืนยันว่าในชีวิตนี้ไม่เคยพูดกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร แม้แต่คำเดียวและไปพูดว่าเป็นตัวกลางนั้น ก็ไม่เคยพูด ผู้สื่อข่าวพูดเองก็ช่วยชี้แจงด้วยแล้วกัน


เมื่อถามว่า แล้วการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ''ไม่ได้คุย ท่านคงไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับการเมืองตอนนี้ ท่านไปก้าวล่วงตรงนั้นคงไม่ดี มันกระเทือนรัฐบาล และพรรคพลังประชาชน'' ส่วนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่เบื้องหลังการจัดรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ''ถ้าใช้คำถามว่า คิด ก็ให้ผู้สื่อข่าวคิดเองแล้วกัน''


เมื่อถามว่า นายสมัครขอกำลังใจในการทำงาน พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ''แน่นอนครับ ถ้าท่านทำแล้วประเทศชาติดีขึ้น ทุกคนก็ให้การสนับสนุนรัฐบาล ใช้อำนาจปกครองแล้วทำให้ประเทศชาติเจริญ ทุกคนได้รับสิ่งดีต้องให้การสนับสนุน เป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องให้กำลังใจ ไม่ใช่แค่ผมเพียงคนเดียว ไม่ใช่ขัดขวางหรือก่อกวนเหมือนเช่น 1 ปี ที่ผ่านมา''


เมื่อถามว่า โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับนายสมัครหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ''จะโทร.ทำไม'' เมื่อถามว่า ช่วงนี้ทำไมดูสีหน้าเครียดๆ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ''ทุกวันนี้ก็กินข้าว นอนหลับ ที่เครียดก็เพราะคำถามโง่ๆ ของนักข่าว''


 


ด้าน พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และสมาชิก คมช. กล่าวว่า การพบปะของผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเช้าวันอังคาร ไม่ใช่การประชุม คมช. เรียกว่ากิจกรรมร่วมกันเบาๆ ไม่มีกิจกรรมใดๆ เป็นเพียงมานั่งคุยกันแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เพราะบางคนไม่ได้ติดตาม จากเดิมนั่งคุยร่วมรับประทานอาหารตอนเช้าเวลา 07.30 น. แล้วเข้าร่วมประชุม คมช. ต่อแต่จากนี้คงมีเพียงการหารือตอนเช้าของผู้บัญชาการเหล่าทัพเท่านั้น


เมื่อถามว่า เป็นการพยายามสร้างอำนาจถ่วงดุลกับฝ่ายการเมืองหรือไม่ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่ถือเป็นสิ่งสำคัญ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งผู้บัญชาการเหล่าทัพควรพบปะกันบ่อยๆ เป็นธรรมดาเพื่อให้การทำงานสอดคล้องกัน ไม่มีอะไรน่าห่วง


เมื่อถามว่า คมช.จะแถลงยุติอย่างเป็นทางการอย่างไร พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ชัดเจน อาจจะแถลงหรือไม่ก็ได้ ต้องรอดูอีกครั้ง ทั้งนี้ คมช.ยังไม่จบภารกิจ แต่อาจมองเหมือนไม่มีบทบาท ความจริง คมช.จบภารกิจเมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทำหน้าที่ ขณะนี้ คมช.ยังคงมีภาระหน้าที่อยู่


ส่วนตำแหน่ง รมว.กลาโหมมีแนวโน้มที่นายสมัครจะนั่งควบนั้น พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา เป็นทหารก็ก้มหน้าก้มตาทำงานไป เพราะมีระเบียบวินัย หากทุกฝ่ายตั้งใจทำงานร่วมกัน


ขณะที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม และหัวหน้าสำนักงานเลชาธิการ คมช. กล่าวว่า เบื้องต้นคงจะเป็นการแถลงสรุปผลงานคร่าวๆ ของ คมช. และองค์กรอิสระที่ตั้งมาว่ามีความคืบหน้าในการทำงานไปอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ คงเป็นแบบเรียบง่าย เพราะไม่ต้องการให้ไปกระเพื่อมกับกระแสการเมือง ส่วนจะแถลงสถานที่ใดนั้น คงต้องหารือกันอีกครั้ง


 


ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.สนธิระบุว่า ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ว่า ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม ถ้าไม่มีการใช้อำนาจไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงระบบก็จะสามารถเดินไปได้ไม่ฝืนกระบวนการ ทั้งนี้ อย่าไปใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ เมื่อถามอีกว่า เหตุการณ์ยึดอำนาจที่ผ่านมาถือว่าเป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่เกี่ยวข้อง


เวลา 14.15 น. ที่อาคารไอเอฟซีที นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิโทรศัพท์พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณว่า รายละเอียดเรื่องอะไรนั้นไม่ทราบ แต่น่าจะคุยเรื่องความสงบสุขของบ้านเมือง ซึ่งผู้ใหญ่ที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันในอดีตคงจะมาพูดคุยเพื่อเริ่มต้นการสร้างความสมานฉันท์ปรองดอง เพื่อให้รัฐบาลใหม่เดินหน้าแก้ไขปัญหาของประเทศให้ดีขึ้น การพูดคุยของ พล.อ.สนธิกับ พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่ใช่การเคลียร์ปัญหา และเป็นการพูดคุยส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชาชน


ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณให้อภัย พล.อ.สนธิแล้วใช่หรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า ขอร้องสื่อมวลชนว่า อย่าใช้คำว่าให้อภัยหรือไม่ให้อภัย เพราะไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่เชื่อว่าเป็นสิ่งดี โดยจะไม่มีการล้างแค้นแน่นอนตามที่ได้ยืนยันมาตั้งแต่ต้น ต้องขอบคุณ พล.อ.สนธิที่ให้กำลังใจนายสมัคร ในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี


เมื่อถามว่า จะส่งผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทยเร็วขึ้นหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า กำหนดเดิมยังเป็นเดือนพฤษภาคม แต่ก็เป็นไปได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศไทยเร็วขึ้น แต่ทั้งหมดต้องดูสถานการณ์อีกที


แหล่งข่าวจากคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณเปิดเผยว่า ในช่วงเย็นวันที่ 30 มกราคม พ.ต.ท.ทักษิณจะออกจากเกาะฮ่องกงกลับอังกฤษ เพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลของสโมสรแมนเซสเตอร์ซิตี้ จากนั้นจะกลับมาที่ฮ่องกงอีกครั้ง


 


ที่มา: เวบไซต์มติชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net