ชาวบ้านเขาเทือกบรรทัดถูกฟ้องแพ่ง 13 ล้านบาท ข้อหารุกที่อุทยานฯ ยังรอขอยุติการดำเนินคดี กรมอุทยานฯ โยนให้กระทรวงการคลังพิจารณาเลิกบังคับคดี ผลตรวจคณะกรรมการสามฝ่ายชี้เป็นที่ดินทำกินเดิมก่อนอุทยานประกาศทับที่
นายอานนท์ สีเพ็ญ ตัวแทนเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด (ครท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ จังหวัดพัทลุงได้ส่งหนังสือถึงเครือข่ายฯ แจ้งเรื่องตามที่เครือข่ายฯ ได้ชุมนุมเรียกร้องขอให้ยุติการดำเนินคดีทางแพ่งแก่นาย
หนังสือดังกล่าวแจ้งอีกว่า ทางจังหวัดจึงมีหนังสือขอให้กรมอุทยานฯ พิจารณาขอความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะได้รับผลประการใดจะได้เรียนให้ทราบอีกครั้ง ทั้งนี้จังหวัดพยายามที่จะช่วยเหลือตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายฯ อย่างเต็มที่ตามขั้นตอนของกฎหมายและข้อเท็จจริง ผลการพิจารณาของอุทยานฯ จะเป็นประการใดจะได้เรียนให้ทราบต่อไป
สำหรับที่มาของหนังสือแจ้งดังกล่าว มาจากเมื่อระหว่างวันที่ 17 - 18 กันยายน 2550 สมาชิกสมัชชาคนจนจากเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด จากจังหวัดพัทลุงและตรัง และองค์กรพันธมิตรกว่า 700 คน ปิดถนนข้างศาลากลางจังหวัดพัทลุง ชุมนุมประท้วงกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่า เข้าไปตัดโค่นทำลายสวนยางพาราของชาวบ้านริมเทือกเขาบรรทัดที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์สิทธิ์ พื้นที่ตำบลตะแพน อำเภอศรีบรรพต และตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ รวม 13 ราย พื้นที่
กรณีชาวบ้านทั้ง 13 รายนั้น นาง
เครือข่ายฯ ได้ ยื่นหนังสือถึงนาย
ให้สมาชิกเครือข่าย ที่ประสบปัญหาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างไม่เป็นธรรมทุกกรณี สามารถทำกินได้ตามวิถีชีวิตปกติ ให้สามารถโค่นยางพาราที่หมดสภาพและปลูกใหม่ทดแทนได้ ให้กองทุนสงเคราะห์สวนยาง (สกย.) สนับสนุนงบประมาณตามปกติ เป็นต้น
โดยผลการเจรจาได้ข้อสรุปว่า นายสุเทพจะประสานงานกับพนักงานอัยการให้ยุติดำเนินคดีกับชาวบ้านทั้ง 13 ราย ส่วนชาวบ้านอีก 4 ราย ที่ถูกดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่งนั้น ในส่วนของคดีแพ่ง นายสุเทพจะทำหนังสือเสนอให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยุติการบังคับคดี
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่สั่งฟันทำลายต้นยางพารานั้น นายสุเทพจะทำหนังสือถึงอธิบดีกรมอุทยานฯ ให้ผ่อนผันไปก่อน โดยได้ตั้งคณะกรรมการประกอบด้วยตัวแทน 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า สมัชชาคนจนหรือเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อตรวจสอบว่าเป็นที่ดินทำกินเดิมหรือไม่ โดยให้ระยะเวลาตรวจสอบ 1 เดือน
นอกจากนี้ ทางจังหวัดพัทลุงจะส่งคืนเอกสาร สค. 1 ที่เจ้าหน้าที่เรียกเก็บไปจากชาวบ้าน โดยอ้างว่าจะนำไปออกโฉนดที่ดิน ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2550
สำหรับคณะกรรมการประกอบด้วยตัวแทน 3 ฝ่าย ดังกล่าวนั้น ได้มีการประชุมมาแล้วหลายครั้ง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง มีนาย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)