Skip to main content
sharethis

 






การเมือง - สังคม


 


"สมัคร" ขอยุติไม่พูดเรื่อง 6 ตุลาฯ


เว็บไซต์คมชัดลึก - ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 20 ก.พ.51 - นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุม ครม.ถึงกรณีที่นายอดิศร เพียงเกษ อดีตคนเดือนตุลาฯ และอดีต 111 พรรคไทยรักไทย ออกมาเรียกร้องให้ขอโทษประชาชนจากเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ เพื่อทุกอย่างจะได้ยุติ ว่า "เรื่องนี้ขอให้ยุติมันจบแล้ว ขีดเส้นใต้ 2 เส้น มากพอเพียงแก่เหตุแล้ว มีคนบอกให้ผมทำงานเสียที" เมื่อถามว่าแต่เรื่องดังกล่าวยังเป็นข้อสงสัยและมีการเสนอให้ตั้งกรรมการกลางขึ้นมาศึกษาประวัติศาสตร์ดังกล่าว นายสมัคร กล่าวว่า ใครจะทำอะไรตนไม่ขัดข้อง แต่วันนี้นายสมัครได้บอกแล้วว่าเรื่องนี้ยุติแล้ว ไม่พูดอีกแล้วเรื่องนี้


 


เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะบานปลายหรือไม่เพราะยังมีคนออกมาวิจารณ์และพยายามตั้งเป็นประเด็นอยู่ นายสมัคร กล่าวว่า "มันเป็นยังไงถึงงอกงาม มันได้ปุ๋ยอะไรมาถึงได้บานปลาย เรื่องเหล่านี้ผมจะหยุดตอบและไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกแล้ว และเท่าที่เห็นก็ไม่ได้มีคนอื่นวิจารณ์มีเพียงสื่อมวลชนเท่านั้น วันนี้ผมบอกว่ายุติแล้วก็ยุติให้ถามเรื่องอื่น"


 


ต่อข้อถามว่าแต่ข้อมูลที่นายสมัครตอบกับคนร่วมเหตุการณ์ตอบไม่ตรงกัน จะให้หยุดตรงนี้ได้อย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า ก็ตกลงตนบอกว่าจบแล้วพวกคุณจะให้ปลายบานอีกหรือ เมื่อถามต่อว่าแสดงว่าท่านจะใช้ขันติไม่ตอบโต้ใครอีกใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า "ผมบอกไปแล้วว่ามีคนตั้งรางวัลไว้ให้ ใครทำให้ผมตบะแตกน้อยก็ให้หมื่นบาท ตบะแตกมากก็ให้ 5 หมื่น แต่รับรองไม่มีใครได้รางวัลหรอก ส่วนใครเป็นคนตั้งรางวัลนั้นไม่ขอบอก"


 


"เชาวริน" เล่าเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 เผยช่วย"ชวน-ดำรง"หลบหนี ย้ำตายมากกว่า 1 ศพ


เว็บไซต์แนวหน้า - ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 นั้นตนเป็นนายตำรวจติดตามนายดำรง ลัทธพิพัฒน์ รมว.พาณิชย์ ในขณะนั้น ซึ่งเหตุสังหารหมู่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตนได้พานายชวน  หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หนีออกจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2519 เพราะวันที่ 5 ต.ค. ตนได้ฟังวิทยุจากสถานีวิทยุยานเกราะซึ่งปลุกระดมประชาชนและเรียกร้องให้ลูกเสือชาวบ้านไปชุมนุมขับไล่รัฐมนตรี โดยมีการระบุชื่อนายชวน นายดำรง และนายสุรินทร์ มาศดิตถ์ ด้วย


 


ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวอีกว่า เมื่อถึงช่วงเช้าของวันที่ 6 ต.ค.  2519  ตนไปรับนายดำรงที่บ้านเพื่อไปส่งที่ทำเนียบรัฐบาล เสร็จแล้วจึงออกมาดูสถานการณ์ที่สนามไชย ลานพระบรมรูปทรงม้า จึงเห็นว่า สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจจึงกลับไปทำเนียบรัฐบาล จากนั้นช่วงเวลา 15.00 น.ครม.เลิกประชุมกันแล้ว มีคลื่นประชาชนเดินขบวนจากลานพระบรมรูปทรงม้าไปที่ทำเนียบรัฐบาล มีเสียงของประชาชนร้องตะโกนกึกก้องว่า ฆ่ามันๆมาตามถ.พิษณุโลก กระทั่งมาอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล และมีป้ายสีขาวยาวประมาณ 10 เมตรข้อความว่า กำจัดรัฐมนตรีคอมมิวนิสต์ "ชวน-ดำรง-สุรินทร์"  ตนจึงตัดสินใจไปห้องประชุมครม.เพื่อเชิญนายดำรงและนายสุรินทร์ แต่ไปรถคนละคันจึงพลัดหลงกัน  โดยรถคันของตนมีนายดำรงและนายชวน ซึ่งตัดสินใจไปที่บ้านของตนและพักอยู่หนึ่งคืน จากนั้นวันถัดมาก็ย้ายไปบ้านอีกหลังหนึ่ง ใช้วิธีนี้นานเป็นเดือน เนื่องจากสถานการณ์ขณะนั้นอันตรายมาก ถ้าไม่หลบอาจถูกฆ่าตายได้


 


ส่วนกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุว่า  มีผู้เสียชีวิตเพียงคนเดียวนั้น ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า  แต่ละคนอยู่คนละตำแหน่ง คนละจุด จึงเห็นไม่เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าจะจัดสัมมนาในเรื่อง 6 ตุลาคม 2519 เพื่อสังคายนาก็เห็นด้วย เพื่อจะได้รู้ข้อเท็จจริงให้กระจ่าง เพราะครั้งหนึ่งนายอาคม มกรานนท์ ก็เป็นโฆษกในสถานีวิทยุ และพูดว่า นายชวนและนายดำรง เป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งมาวันหนึ่งนายอาคมก็กลับมายกมือไหว้ขอโทษนายชวนเพราะได้ข้อมูลมาผิด  เนื่องจากขณะนั้นมีความพยายามชี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นคอมมิวนิสต์ โดยเฉพาะรัฐมนตรี 3 คน ซึ่งที่จริงแล้วเป็นการบิดเบือน



"ยุคนั้นใครไม่ชอบกันก็จะกล่าวหาว่าเขาเป็นคอมมิวนิสต์ ทำให้เสียคน ยุคนั้นโหดร้ายมาก เรื่องเหล่านี้มันน่าที่จะเอาคุยกัน  ส่วนเรื่องที่มีพุ่งเป้ากับนายกฯ นั้น ผมเฉยๆ เพราะบังเอิญนายกฯอาจอยู่ในจุดที่มองเห็นคนตายคนเดียวจริงๆ  เช่นเดียวกับร.ต.อ.เฉลิม (อยู่ยบำรุง รมว.มหาดไทย) ที่ก็ไม่น่าตำหนิท่าน เพราะท่านไม่ได้ขับรถตระเวนเหมือนผม  ผมเอาอาจารย์ดำรง ท่านชวนไปซ่อนที่บ้านแล้ว ผมยังเอารถออกมาตระเวนดู ฉะนั้นผมอาจจะเห็นมากกว่าคนอื่น" ร.ต.ท.เชาวรินทร์ กล่าว


 


"จักรภพ"วอน ครม.ตั้งโฆษกมาแบ่งเบางาน


เว็บไซต์แนวหน้า -  นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโฆษกประจำสำนักนาย รัฐมนตรี ว่า ยังไม่ได้รับการเสนอแต่งตั้ง แต่ที่นาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนหน้านี้หมายความว่าได้มีการคุยเรื่องนี้แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้นในคราวหน้าคงได้ประกาศให้ทราบ อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการเสนอชื่อหลายชื่อ ชื่อที่อยู่ในกระแสข่าวเป็นรายชื่อที่ได้รับการพิจารณาเกือบทุกชื่อ แต่ขณะที่ยังไม่มีคำสั่งชัดเจนขอยังไม่ให้ความเห็นเพิ่มเติมก่อน


 


"ผมได้แสดงจุดยืนชัดเจนแล้วว่าถ้าครม.กรุณาแต่งตั้งโฆษกประจำสำนักนายกฯที่แยกต่างหาก ก็จะมีประโยชน์ต่อการทำงานมาก แต่ในขณะที่ยังไม่มีก็จะทำหน้าที่ไปก่อนตามที่ได้รับมอบหมาย แต่หากตอบในทรรศนะส่วนตัวเห็นว่าหากแยกตำแหน่งกันจะทำงานมีประสิทธิภาพดีกว่ามาก" นายจักรภพ กล่าวและว่าถึงการทาบทามผู้มาช่วยงานในการจัดระบบสื่อ ว่า ในส่วนของตนมีส.ส.แสวง เลิศจรัญ ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์สูงในการทำงานท้องถิ่น ตนคาดว่าจะให้เข้ามาช่วยดูงานที่ต้องสัมผัสกับสื่อที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในระดับรากฐานโดยตรง โดยอาจขอร้องให้ช่วยดูเรื่องวิทยุชุมชนว่าจะเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับใช้สังคมได้อย่างไร


 


"บิ๊กสงค์"สับนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลเพิ่มหนี้


เว็บไซต์สยามรัฐ - ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้(20ก.พ.51)ว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวอภิปรายนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ไม่ตอบสนองนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง ยังคงเป็นเรื่องของประชานิยม ทั้งเรื่องของ กองทุนหมู่บ้าน ธนาคารประชาชนซึ่งไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาประชาชน แต่เป็นการยืดระยะเวลาออกไป รวมทั้งเป็นการเพิ่มหนี้สินให้กับประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้ในเรื่องของการประหยัด รัฐบาลยังเขียนนโยบายไว้กว้างๆ ไม่มีแนวคิดในการบริหารกองทุน เก็บเงินเข้ากองทุน เพื่อชดเชยสิ่งที่ประชาชนจ่ายเพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการขนาดใหญ่ อย่าง โครงการรถไฟฟ้า ที่ได้มีการศึกษาเส้นทางมาหมดแล้ว แต่รัฐบาลใหม่กลับมาเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะส่งผลให้ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการศึกษามากขึ้น


 


น.ต.ประสงค์ ระบุอีกว่า รัฐบาล ยังไม่มีนโยบายในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการเซ็นสัญญาการค้าเสรี การดูแลกฎหมายค้าปลีกและการดูแลชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากหนี้นอกระบบ


 


ครม.เห็นชอบ "ชัย ชิดชอบ" เป็น ปธ.วิป รัฐบาล


เว็บไซต์เดลินิวส์ - 20 ก.พ. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล ส่วนตำแหน่งเลขานุการ และที่ปรึกษารัฐมนตรี จะต้องรอฟังการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง


 


จักรภพยันไม่ย้ายอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์


เว็บไซต์สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 20 ก.พ.51 นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่มีข่าวจะปลด นาย ปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ว่า ไม่มีเจตนาแสดงอำนาจบาตรใหญ่กับข้าราชการประจำ และไม่คิดว่าการโยกย้ายข้าราชการประจำเป็นการแสดงการทำงานของฝ่ายการเมือง แต่ตนจำเป็นต้องพิจารณาว่าข้าราชการตำแหน่งใดที่สามารถวางตัวและสอดคล้องกับนโยบายใหม่ได้หรือไม่ ไม่ใช่เฉพาะตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เท่านั้น เป็นการปรับคนกับงาน หากจะมีเกิดขึ้น จะดำเนินการตามผลการประเมินว่า สามารถทำตามนโยบายได้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เรื่องอดีต เรื่องปัจจุบัน แต่ปัจจัยเรื่องการสนับสนุนเผด็จการ เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการพิจารณา เพราะรัฐบาลนี้เป็นประชาธิปไตย มีหน้าที่สำคัญที่ต้องล้างเชื้อโรคเหล่านั้น เพียงแต่อะไรคือหลักเกณฑ์ หรือผลการประเมิน ว่าตรงไหนคือเชื้อโรค คงใช้เวลาประมาณ 1 เดือน


 


ปลัด ก.ยุติธรรม เตรียมค้านบางรายชื่อ ส.ว.สรรหา


เว็บไซต์แนวหน้า -  นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวที่กระทรวงยุติธรรมถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรายชื่อสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มาจากการสรรหา 74 คน ว่า มีสัดส่วนความเหมาะสมตามเจตนารมณ์ของอดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะมีการกระจายสัดส่วนไปยังหลายอาชีพ แต่อยากให้มีสัดส่วนตัวแทนจากองค์กรผู้หญิงมากกว่านี้ รวมทั้งตัวแทนจากผู้พิการ โดยมีบางรายชื่อที่รู้สึกว่าคุณสมบัติไม่เหมาะสม เนื่องจากเคยทำงานด้วยพบว่า มีประวัติถูกตั้งกรรมการสอบวินัย สมัยรับราชการ จึงรู้สึกแปลกใจว่า บุคคลดังกล่าวผ่านขั้นตอนการตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติอย่างไร ถ้าหากมีช่องทางในการคัดค้าน ตนจะส่งเรื่องไปยัง กกต.เพื่อขอให้พิจารณาคุณสมบัติบุคคลดังกล่าวอีกครั้ง


 


"สปอร์ตทีวี24ชั่วโมง" อีก6เดือนคลอดแน่


เว็บไซต์สยามรัฐ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาวันนี้(20ก.พ.51) ได้มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบายการจัดตั้งโทรทัศน์การกีฬา "สปอร์ตทีวี 24 ชั่วโมง" โดยนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวจะเน้นเพื่อส่งเสริม เผยแพร่ สาระความรู้ด้านกีฬาให้กับเยาวชน และประชาชนให้มาสนใจกีฬา รัฐบาลจึงมีแนวความคิดที่จะเพิ่มทีวีช่องกีฬาขึ้น ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ส่วนจะเป็นช่องใดนั้นจะมีการหารือกันอีกครั้ง


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ได้มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบายการจัดตั้งโทรทัศน์การกีฬา "สปอร์ตทีวี 24 ชั่วโมง" ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวจะเน้นเพื่อส่งเสริม เผยแพร่ สาระความรู้ด้านกีฬาให้กับเยาวชน และประชาชนให้มาสนใจกีฬา รัฐบาลจึงมีแนวความคิดที่จะเพิ่มทีวีช่องกีฬาขึ้น ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ส่วนจะเป็นช่องใดนั้นจะมีการหารือกันอีกครั้ง


 


เสธ.แดงฟ้อง"เสรีพิศุทธ์"ฐานฟ้องเท็จ-เบิกความเท็จ


เว็บไซต์คมชัดลึก - (20 .พ.) พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่ง ชาติ (ผบ.ตร. ) เป็นจำเลย ในความผิดฐานฟ้องเท็จ และเบิกความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 175 และ 177


 


โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2549 จำเลย ได้ยื่นฟ้องโจทก์ ในคดีอาญาหมายเลขดำที่อ.1491/2549 ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่โจทก์ให้สัมภาษณ์ ในหนังสือพิมพ์แนวหน้าเกี่ยวกับการจับกุมบ่อนลอยฟ้า ย่านปิ่นเกล้า ซึ่งในวันดังกล่าว จำเลยยังได้แยกฟ้องโจทก์ ในความผิดฐานเดียวกันอีก 2 คดี ในคดีหมายเลขดำที่ อ.1492 และ 1493/2549 กรณีที่ให้สัมภาษณ์ใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และไทยโพสต์ โดยคดีที่แยกฟ้องนั้นเป็นการนำเอาความผิดเดียวกันมายื่นฟ้องโจทก์ ซึ่งถือว่าจำเลยมีเจตนาฟ้องเท็จ เพื่อให้โจทก์ได้รับโทษทางอาญาแรงกว่าความเป็นจริง โดยมีเจตนาปกปิดข้อความจริงที่ควรแจ้งให้ศาล


 


ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2549 จำเลยยังได้เบิกความ และส่งพยานเอกสารต่างๆ ชุดเดียวกับที่เคยฟ้องโจทก์ในคดีหมายเลขดำที่ อ.1491/2549 ต่อศาลอาญา มาใช้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดีดำหมายเลขที่ อ.1492/2549 ด้วย ซึ่งต่อมาศาลอาญามีพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์คดี อ.1492 และ 1493 /2549เนื่องจากเห็นว่า เป็นการฟ้องซ้ำ ดังนั้นการกระทำของจำเลย จึงเป็นเบิกความเท็จเพื่อให้ศาลหลงเชื่อว่าคำเบิกความของจำเลยเป็นจริง ศาลรับฟ้องไว้เป็นคดีดำหมายเลขที่ อ.692/2551 เพื่อนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 12 พ.ค.นี้เวลา 09.00


 


 


 






เศรษฐกิจ


 


'ไชยา' ยันยังไม่เลิกซีแอลยา


เดลินิวส์ - ที่รัฐสภา นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว. สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มเอ็นจีโอออกมาคัดค้านการยกเลิกทำซีแอลยาว่า วันนี้เรายังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว และตนก็ไม่เคยบอกว่าจะยกเลิก เพียงแต่มีความไม่ชอบมาพากล ของรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่ไม่ได้ทำงานประสานกัน เมื่อ รมว.สาธารณสุข ออกมาประกาศ ทาง รมว. พาณิชย์ ก็ออกหนังสือมาให้ทบทวน ดังนั้นตนในฐานะที่เป็นรัฐบาลใหม่ เมื่อมีหนังสือท้วงติงมาเราก็ประกาศทบทวน แต่ยังไม่ได้บอกแม้แต่คำเดียวว่าจะให้ยกเลิก เพราะหากเราจะดำเนินการอะไรก็ต้องคิดถึงประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะสิทธิของผู้ป่วยที่กลัวว่าจะเข้าไม่ถึงยา ต้องทำให้ชัดเจน อย่างไรก็ตามเราไม่ได้เข้าไปแตะต้องกรณีโรคเอดส์ หรือโรคหัวใจเลย เพราะกระบวนการ ได้จบลงในรัฐบาลที่แล้ว แต่สิ่งที่เราหยิบยกขึ้น มาพิจารณาคือกรณีที่นายเกริกไกร จีระแพทย์  รมว.พาณิชย์ ของรัฐบาลชุดที่แล้วทำหนังสือมาถึงกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้รัฐบาลใหม่พิจารณาทบทวน เราจึงได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ ครม. และหลังจากแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จสิ้นเราก็คงจะต้อง หารือกันระหว่าง 3 กระทรวงหลัก คือกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข โดยให้ระดับรัฐมนตรีเข้าไปพูดคุยกัน


        


"ขอให้ใจเย็นนิด อย่างน้อยผมเป็น เจ้ากระทรวงสาธารณสุข ประชาชนจะต้องมีสุข เพราะฉะนั้นให้สบายใจได้ ไม่ว่าทางออกจะซ้ายหรือขวา ผู้ป่วยก็ต้องเข้าถึงยาอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรผมก็ต้องคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นหลัก อยาก จะให้ได้ยาที่มีคุณภาพ และมีความสบายใจเรื่องการสั่งยาเข้ามา ประชาชนจะต้องได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งเรื่องนี้คงไม่ถึงขนาดจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจ เมื่อเราเช็กตามมาตรา 51 แล้วถ้าอะไรเข้าสู่วิกฤติที่เรารับไม่ไหวแล้ว และจำเป็นต้องประกาศซีแอลเราก็ต้องประกาศ แต่ถ้าไม่ถึงวิกฤติขนาดนั้นก็ต้องหาทางอื่นที่ไม่ให้ทุกฝ่ายได้รับ   ผลกระทบทั้งหมด เรื่องเหล่านี้ผมได้ชี้แจงไปทางกลุ่มเอ็นจีโอแล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มีการพูดคุยกันระหว่าง 3 กระทรวงเราก็ให้ผู้แทนเอ็นจีโอ และผู้ป่วยบางท่านเข้าไป ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นพ้องต้องกันว่าให้ยึดตามแนวทางที่ปลัดทั้ง  3 กระทรวงได้พูดคุยกัน" รมว.สาธารณสุข กล่าว เมื่อถามว่าเท่าที่ฟังความเห็นของกลุ่มผู้คัดค้านมีแนวโน้มที่จะทบทวนการทำซีแอลยาหรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ตอนนี้ต้องรอให้ทุกฝ่ายรวบรวมตัวเลขทั้งหมด


 


 


 






ต่างประเทศ


 


 


พรรคฝ่ายค้านปากีสถานกวาดชัยชนะเลือกตั้ง


เดลินิวส์ - ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปากีสถานเมื่อวันจันทร์ที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า พรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย เหนือพรรคพันธมิตรของประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ซึ่งนัก   วิเคราะห์มองว่า อาจส่งผลต่อชะตากรรมการบริหารประเทศของประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ เพราะอาจถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้


         


สถานีโทรทัศน์เอกชนรายงานเมื่อวันอังคารว่า พรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งเหนือพรรคพันธมิตรของประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ เป็นการชนะที่มีเสียงมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นภัยคุกคามต่อการบริหาร   ประเทศที่ดำเนินมา 8 ปีของพันธมิตรใกล้ชิดในสงครามก่อการร้ายของสหรัฐ โดยนายชอดรี ชู จาต ฮุสเซน ประธานพรรคที่สนับสนุนมูชาร์ราฟ ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้วเมื่อวันอังคาร ซึ่งกล่าวกับเอพี เทเลวิชั่น นิวส์ว่า เรายอมรับผลการเลือกตั้งด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง และจะนั่งเป็นฝ่ายค้านในรัฐสภาชุดใหม่


 


แผ่นดินไหวอินโด7.6 ริกเตอร์ สะเทือนตึกสีลม-กทม.รู้สึกได้


เว็บไซต์คมชัดลึก - 20 ก.พ. 51 สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ รายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.08 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับในประเทศไทย มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองเมดาน เมืองเอกของจังหวัดสุมาตราเหนือ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 312 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้ทะเล 34 กิโลเมตร ส่วนสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซีย รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ มีขนาด 6.6 ริกเตอร์ และมีศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งเมืองสินาบังในจังหวัดอาเจะห์ ไปทางตะวันตะวันตกเฉียงเหนือ 42 กิโลเมตร


 



พม่าสั่งปิดท่าเรือ20แห่งป้องกันระเบิด


เว็บไซต์สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 20 ก.พ.51 มีรายงานข่าวจากชายแดนไทย-พม่า จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง  ด้านตรงข้าม อ.แม่สอด-องแม่ระมาด- อ.ท่าสองยาง  อ.พบพระ จังหวัดตาก  แจ้งว่า รัฐบาลทหารพม่า หรือ SPDC ได้มีคำสั่งให้ปิดท่าเรือขนส่งสินค้า ริมแม่น้ำเมย เกือบ 20  แห่ง ทั้งหมด โดยห้ามพ่อค้าชาวไทยและชาวพม่า นำสินค้าไปข้ามบริเวณจุดดังกล่าว  โดยมีข้อยกเว้นให้ไปข้ามบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า จุดผ่านแดนถาวรแม่สอด-เมียวดี เพียงจุดเดียว ส่งผลทำให้การค้าชายแดนตามท่าเรือเงียบลงทันที และทหารพม่าประกาศมาตรการเด็ดขาดผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด  การปิดท่าเรือขนส่งสินค้าของฝ่ายพม่า น่าจะมาจากข่าวการที่ชนกลุ่มน้อยฝ่ายต่อต้านรัฐบาล(กะเหรี่ยง เคเอ็นยู.-เคเอ็นพีพี.-กลุ่มไทยใหญ่ SSA-และกลุ่มว้าเพื่อประชาธิปไตย ฯลฯ เป็นต้น) จะรวมตัวกันเพื่อก่อวินาศกรรมหัวเมืองชายแดนและเมืองหลักสำคัญในพม่า ซึ่งล่าสุดได้มีการลอบวางระเบิดในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ถึง 4 ครั้ง และมีข่าวชนกลุ่มน้อยเตรียมวางระเบิดก่อวินาศกรรมในจังหวัดเมียวดี ทำให้ทหารพม่าต้องมีการวางกำลังป้องกันเมืองเมียวดีอย่างเข้มงวด เพราะหวั่นจะถูกระเบิดเหมือนจังหวัดท่าขี้เหล็ก   และอีกสาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากฝ่ายพม่า อาจจะไม่พอใจต่อการที่มีการยิงสังหารนายปาโด้ มานชา อดีตเลขาธิการ KNU ในฝั่งไทย  ในเขต อ.แม่สอด เมื่อ 5-6 วันก่อน



 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net