Skip to main content
sharethis

โสภณ พรโชคชัย


14 มีนาคม 2551


 


เช้านี้ผมได้อ่านการตอบโต้ของคุณรสนา โตสิตระกูล (สมาชิกวุฒิสภาจากการเลือกตั้ง) ต่อคำวิจารณ์ของ ม..ณัฐกรณ์ เทวกุล (คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์) เห็นว่า ข้อมูลที่คุณรสนา ชี้แจง ซึ่งถือเป็นประเด็นหลักในการตอบโต้ อาจมีความคลาดเคลื่อน อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ จึงขออนุญาตแสดงความเห็น เผื่อจะได้มองให้กว้างดังเจตนารมณ์ของคุณรสนาเอง


 


1. ที่ว่า กฟผ.มีสินทรัพย์มูลค่าสุทธิสูงถึง 3.8 แสนล้านบาท แต่รัฐบาลพยายามขายทรัพย์สินเหล่านี้ผ่านการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยมูลค่าเพียง 20,000 ล้านบาท ข้อมูลนี้อาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกโกรธทันทีว่าทำไมรัฐบาลจึงแย่ขนาดนี้ แต่หากคิดให้ดี ๆ จะเป็นไปได้หรือที่รัฐบาลจะโง่หรือกล้าทำร้ายชาติได้ถึงเพียงนี้ นี่เป็นเพียงข้อกล่าวหาที่มีมูลความจริงหรือ คุณทำให้คนเข้าใจว่าคุณรักชาติมากกว่าทักษิณ ชวน ชวลิต และอีกหลายท่านที่รับผิดชอบการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมาโดยตลอดหรือ


 


2. ที่ว่า "ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์อย่างรีบเร่ง . . . คณะรัฐมนตรีมีมติว่า ท่อส่งก๊าซ ยังคงเป็นสมบัติของรัฐ . . . รัฐบาลทักษิณ ยกเลิกมติ ครม.นี้ ทำให้ ปตท.ได้ครอบครองทรัพย์สมบัติของชาติ . . . นี่คือ การขโมยในรูปแบบหนึ่ง" คุณฟ้องศาลให้ยกเลิกการแปรรูปของ ปตท. แต่เดชะบุญ ศาลไม่ได้พิพากษาตามคำฟ้อง แต่สั่งให้แบ่งแยกสมบัติให้ถูกต้อง เรื่องนี้ไม่มีใครต้องคำพิพากษาว่า "ขโมย" เลย


 


3. ที่ว่า "ในการต่อสู้คดีคอร์รัปชันทางนโยบาย ดิฉันไม่เคยใช้การประท้วงบนท้องถนน มีแต่พึ่งพาศาลยุติธรรม" แต่คุณก็ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ แจกใบปลิว เคยให้สัมภาษณ์ส่งเสริมการเดินขบวน ประชุมกับแกนนำเดินขบวน และขบวนการที่ร่วมกันเรียกร้องก็ได้ก่อม็อบจนเหตุการณ์บานปลายก็มี


 


4. ที่ว่า "เมื่อเร็วๆ นี้ นักการธนาคารที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง ได้กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ได้มีแค่ตลาดหุ้น และอนาคตของชาติไม่ได้ขึ้นอยู่แต่กับ จีดีพีเท่านั้น" คุณอ้างอิงบุคคลเพียงคนเดียวมาโต้แย้งได้อย่างไร คุณจะว่าอย่างไรถ้าผมกลับเชื่อว่านักการธนาคารที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่อาจเห็นต่างจากคุณ


 


5. คุณไม่ควรยกเอาคำพูดบางคำของคุณพ่อของ ม..ณัฐกรณ์ หรือของ ดร.ป๋วย มาอ้างอิงการกระทำของคุณ เพราะเป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระ แต่แสดงให้สังคมเห็นว่า คุณใช้กลเม็ดอ้างอิงบุคคลสำคัญเพื่อเข้าข้างตัวเอง


 


6. คุณกล่าวถึง "การกระจายความมั่งคั่งให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า 70% ที่เป็นคนยากจน" นี่คงเป็นเรื่องพ้นสมัยไปแล้ว ประชาชนไทยที่ยากจนจริง ๆ มีเพียง 10% เท่านั้น อาจกล่าวได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ใช่คนจนมาตั้ง 20 ปีแล้ว คุณคงอ้างอิงผิดเวลาไป 50 ปี หรือยังมีมโนภาพแบบ 50 ปีก่อนที่ว่าคนไทยส่วนใหญ่ยากจน


 


7. ที่ว่า "เราไม่ควรพูดถึงประเทศอื่นในทางดูถูกเหยียดหยาม" หรือ "ดิฉันมีสิทธิที่จะปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง โดยการฟ้องคุณในข้อหาหมิ่นประมาท แต่ดิฉันเป็นคนไทยที่ได้รับการอบรมสั่งสอนด้วยคำสอนของขงจื๊อ ดิฉันระลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษของคุณ . . . "       ข้อนี้แสดงตัวตนของคุณในหลายแง่มุม เช่น การเป็นคนมีมธุรสวาจา ฉลาดที่รู้จักยกตนและเอาคืน และเป็นปุถุชนที่มีโทสะที่อยู่เบื้องลึกโดยไม่ละวางให้อภัย


 


การที่คุณได้รับเลือกตั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าผู้มีสิทธิออกเสียงในกรุงเทพมหานครเห็นด้วยกับคุณ สมัครก็ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าราชการที่มีคะแนนสูงสุด นิติภูมิก็เคยได้รับเลือกเป็น สว. ด้วยคะแนนสูงสุด แสดงว่าการสร้างภาพมีประสิทธิผลสูงมากในการได้คะแนน ถ้านิติภูมิที่ภาพลักษณ์ไม่ถูกทำลายและลงสมัคร สว. ได้ คุณก็คงไม่ได้รับเลือก


 


โดยสรุปแล้ว ผมเห็นว่าดีครับที่มีการวิวาทะระหว่างคุณกับ มล. ณัฐกรณ์ ไม่ใช่ดีในประเด็นการทะเลาะกัน หรือไม่ใช่ดีที่ได้เห็นการห้ำหั่นอย่างมีศิลปะที่มีเปลือกนอกเป็นสุภาพชน แต่ดีในการที่ประชาชนจะได้เห็นและมีข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ เพื่อร่วมกันส่งเสริมให้เกิด "สังคมอุดมปัญญา" และไม่มืดบอด ด้วยการตรวจสอบตรรกะและแนวคิดโดยไม่ติดกับการสร้างภาพหรือการพูดความจริงเพียงบางส่วน


 


 


อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :


หมัดต่อหมัด ปลื้ม VS รสนา วิวาทะว่าด้วย ส.ว. คนกรุงเทพฯ ทำแทนคนกรุงเทพฯ ไม่ได้


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net