Skip to main content
sharethis

ประมวลภาพเหตุการณ์


(จากสำนักข่าวต่างประเทศ)


 


 



 


(กดที่สัญลักษณ์กล่องข้อความ เพื่ออ่านคำบรรยายใต้ภาพ)


 


เอเอฟพีและรอยเตอร์ รายงานเหตุรุนแรงที่ปะทุขึ้นในเมืองลาซา นครหลวงของทิเบตเมื่อวานนี้ (14) โดย ที่กองกำลังรักษาความสงบของทางการจีนได้ยิงปืนเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่นำ โดยพระลามะ ขณะที่ฝ่ายประท้วงจุดไฟเผาร้านค้า ยานพาหนะ และตะโกนเรียกร้องเอกราช


 


ด้านสถานีวิทยุเรดิโอ ฟรี เอเชีย (อาร์เอฟเอ) รายงานว่า เหตุจลาจลในนครลาซาเริ่มขึ้นหลังจากพระสงฆ์ทิเบตเริ่มประท้วงด้วยการอดอาหาร ระหว่างที่กองกำลังของจีนเข้าปิดล้อมวัดหลายแห่ง เพื่อปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงการปกครองของจีนครั้งใหญ่สุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ


 


เหตุรุนแรงซึ่งทำให้มีผู้คนต้องเข้ารักษาอาการบาดเจ็บอย่างน้อยสิบรายคราวนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ชาวทิเบตหลายกลุ่มกำลังเปิดการรณรงค์ซึ่งดูจะใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ เพื่อท้าทายการปกครองของจีน ในช่วงเวลาที่เหลืออีกเพียง 5 เดือนก็จะมีการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงปักกิ่ง


 


พวกนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวทิเบตท้องถิ่นรายงานว่า ได้ยินเสียงยิงปืนในเมืองลาซา ขณะที่ตำรวจปราบจลาจลและทหารถูกส่งไปปราบปรามการลุกฮือ


 


"เวลานี้ที่ข้างนอกกำลังปั่นป่วนวุ่นวายกันมากเลย" ชาวทิเบตคนหนึ่งซึ่งพำนักอาศัยอยู่ในลาซาบอกกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ "ผู้คนกำลังเผารถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และรถโดยสาร มีควันไฟโขมงอยู่ทุกหนแห่ง และพวกเขากำลังขว้างก้อนหินและพังหน้าต่าง พวกเรากลัวกันมาก"


 


ขณะ ที่ศูนย์กลางชาวทิเบตเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ซึ่งบริหารโดยชาวทิเบตที่ลี้ภัยอยู่ในอินเดียกล่าวว่า แหล่งข่าวหลายรายยืนยันว่ากำลังมีการยิงปืนกันเพื่อขับไล่ฝูงชนที่ออกมา ประท้วง


 


ทางด้านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำจีนก็แถลงว่า ได้รับรายงานหลายชิ้นว่าเกิดการยิงปืนในเมืองลาซา และแนะนำชาวอเมริกันให้อยู่แต่ภายในอาคาร


 


สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ร้านค้าหลายแห่งถูกจุดไฟเผาในระหว่างเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในย่านใจกลางเมืองลาซาในช่วงบ่ายวานนี้ ซินหัวยังรายงานเพียงว่า ประชาชนบางคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยมีอาการบาดเจ็บ แต่ไม่ได้ระบุว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ทั้งนี้ พยาบาลจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ประชาชนหลายคนที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนั้น มีทั้งรอยถลอกและมีบาดแผล


 


สำนักข่าวซินหัวของจีนยังรายงานด้วยว่า ร้านค้าหลายแห่งของคนจีนถูกเผา ทำให้ร้านอื่นต้องปิดบริการ เจ้าหน้าที่ทิเบตเตือนข้าราชการให้อยู่ห่างจากบริเวณวัด ขณะที่จีนส่งกองกำลังออกตรวจตรารอบเมือง เพื่อค้นหาพระสงฆ์และแม่ชีที่หลบซ่อนตัว


 


ความ ตึงเครียดในนครลาซารุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่ลามะและชาวทิเบตตลอดจนผู้สนับสนุน ทั้งในลาซา อินเดีย และพื้นที่อื่นๆทั่วโลก จัดการชุมนุมประท้วงเนื่องในวาระครบรอบ 49 ปีของเหตุการณ์ที่ชาวทิเบตลุกฮือขึ้นก่อจลาจลต่อต้านการปกครองของจีนในปี 1959 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่งผลให้องค์ดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบต ต้องลี้ภัยออกมาอยู่ที่อินเดียในเวลาต่อมา ทั้งนี้ การประท้วงดังกล่าวเริ่มเมื่อวันจันทร์ (10 มี.ค.) และขยายวงไปยังวัดกานเดนเป็นแห่งที่ 3 โดยพระสงฆ์จากวัดกานเดนเริ่มประท้วงเมื่อวันพฤหัสบดี นับเป็นวัดสุดท้ายในบรรดา 3 วัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม "เสา 3 ต้นแห่งทิเบต" ที่เข้าร่วมการประท้วง


 


การประท้วงซึ่งมีพระสงฆ์เข้าร่วมหลายร้อยรูป สะท้อนความไม่พอใจต่อนโยบายที่จีนใช้กับทิเบต ขณะเดียวกัน ชาวทิเบตพลัดถิ่นก็ได้เดินขบวนประท้วงในเมืองธรรมศาลา ที่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบต บริเวณภาคเหนือของอินเดียด้วย


 


ในวันเดียวกัน มีรายงานว่า พระและชาวทิเบตราว 200 คนได้เดินขบวนประท้วงรัฐบาลจีนที่เมืองเซียะเหอ ในมณฑลกานซู โดยการชุมนุมเริ่มจากพระสงฆ์ ราว 15 รูปวิ่งโบกธงชาติทิเบตไปตามถนนสายหลักในเมือง จากนั้นก็มีประชาชนราว 200 คนเข้าร่วมอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ตำรวจปราบจลาจลได้เข้าสกัดการเดินขบวน ทำให้ต้องยุติการประท้วงโดยไม่มีรายงานการปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่าย


 


การประท้วงครั้งนี้แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความไม่พอใจอย่างลึกซึ้งของชาวทิเบต ต่อการปกครองในปัจจุบัน และมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุจลาจลครั้งนี้หลายสิบคน เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในนครลาซาเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตหลายคนในเหตุประท้วงครั้งนี้ รวมถึงมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล


 


ทั้งนี้ จีนเข้าปกครองทิเบตตั้งแต่ปี 1951 โดย 1 ปี ก่อนหน้านั้น จีนได้ส่งทหารไป "ปลดปล่อย" ทิเบตจากระบอบการปกครองที่ทางการคอมมิวนิสต์จีนเรียกว่า "ระบอบศักดินา"


 


กลุ่มสิทธิมนุษยชนทิเบตประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลจีนที่ปกครองทิเบตอย่างกดขี่ข่มเหง ในช่วงก่อนหน้าที่จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกเดือนสิงหาคมนี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนทั่วโลกจะจับตามองจีนมากเป็นพิเศษ


 


องค์ดาไล ลามะก็ได้ออกมาพูดเมื่อวันจันทร์ (10 มี.ค.) ว่ามี "การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและอย่างไม่อาจคิดจินตนาการกันได้" ในทิเบต โดยทางการจีน


 


การประท้วงคราวนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับแต่ปี 1989 ซึ่งสมัยนั้นนายหูจิ่นเทา ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของจีน ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนสาขาทิเบต


 


ที่มา : เรียบเรียงจากเว็บไซต์ผู้จัดการและเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net