เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2551 นายเฮนรี่ แวกซ์แมน ประธานคณะกรรมาธิการกำกับดูแลการปฏิรูปรัฐบาล ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สหรัฐฯ อีก 26 คน ได้ทำหนังสือถึง นางซูซาน ชว็อบ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องให้สำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ คำนึงถึงพันธกรณีของสหรัฐฯ ที่จะต้องให้ความเคารพต่อมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยปรับปรุงการเข้าถึงยารักษาชีวิตในประเทศกำลังพัฒนา ประกอบการทบทวนสถานะประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ ประจำปีในด้านการให้ความคุ้มครองและบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญา
ทั้งนี้ เนื้อหาในหนังสือถึงผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้กล่าวถึงรายงานของสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เรื่องอุปสรรคการค้าและการลงทุนของประเทศคู่ค้าสำคัญฯ ของสหรัฐฯ (National Trade Estimate Report on Foreign Trade Barriers: NTE) ประจำปี 2551 ซึ่งเพิ่งตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ โดยระบุว่ารายงานดังกล่าวบรรยายลักษณะการประกาศใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิโดยรัฐของประเทศไทยอย่าง "ผิดพลาดคลาดเคลื่อน" และมีการปรับลดสถานะประเทศไทยให้อยู่ในบัญชี "ประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ" หรือ Priority Watch List หลังจากที่ประเทศไทยประกาศใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิฯ กับยา 3 รายการ
นายเฮนรี่ แวกซ์แมน และ ส.ส.ที่ลงนามในหนังสือฉบับดังกล่าวชี้แจงว่า ในรายงานของสำนักผู้แทนการค้่าสหรัฐฯ ได้ระบุถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์ และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ และมีการกล่าวถึงการประกาศใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิฯ ซึ่งดูเหมือนจะแสดงความวิตกกังวลว่า ประเทศไทยประกาศใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิฯ อย่าง "ขาดความโปร่งใสและชอบธรรม" ซึ่งการใช้ภาษาที่คลุมเครือเช่นนี้ อาจนำไปสู่การตีความว่า สำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ประณามการประกาศใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิฯ ของประเทศไทยว่าเป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นถึงความย่อหย่อนและไม่เคารพในสิทธิบัตร
ด้วยเหตุนี้ ผู้ลงนามในหนังสือดังกล่าวจึงได้เรียกร้องให้สำนักผู้แทนการค้าจัดทำรายงานฉบับต่อไป โดยจะต้องปฎิบัติตามพันธกรณีที่ประเทศสหรัฐฯ ได้ร่วมตกลงในปฏิญญาโดฮาอย่างเคร่งครัด ที่จะต้องเรื่องการให้ความเคารพต่อมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยปรับปรุงการเข้าถึงยารักษาชีวิตในประเทศกำลังพัฒนา แม้ว่าอาจจะมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจสุดท้ายในการจัดทำรายงาน 301 ก็ตาม
นอกจากนี้ เนื้อหาในหนังสือได้ระบุชัดเจนว่า ประเทศต่างๆ ไม่สมควรถูกกล่าวหาจากการใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิและมาตรการยืดหยุ่นต่างๆ
ที่มา http://www.waxman.house.gov/pdfs/letter_special_301_%2004-09-08.pdf
สภาคองเกรสแห่งสหรัฐฯ
กรุงวอชิงตัน ดีซี 20508
ท่านย่อมทราบดีว่า การประกาศใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิฯ โดยระบุค่า "ตอบแทนการใช้สิทธิอย่างเหมาะสมเพียงพอ" แก่เจ้าของสิทธิบัตรนั้น มีบัญญัติไว้ในความตกลงว่าด้วยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า (ความตกลงทริปส์) ขององค์การการค้าโลก ในปฏิญญาโดฮาปี 2544 ทั้งสหรัฐฯ และประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลกอีก 142 ประเทศ ได้ตกลงร่วมกันที่จะยึดมั่นตามพันธกรณีที่ให้ความเคารพต่อ "สิทธิของประเทศสมาชิกที่จะใช้มาตรการในความตกลงทริปส์ได้อย่างเต็มที่และสมบูรณ์" ซึ่งความตกลงดังกล่าวได้ให้ "ความยืดหยุ่น" แก่ประเทศสมาชิกในการนำมาตรการไปปฏิบัติเพื่อ "ปกป้องการสาธารณสุขของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการที่จะสนับสนุนและส่งเสริมการเข้าถึงยาของประชาชนโดยถ้วนหน้า" ทั้งนี้หนึ่งในมาตรการยืดหยุ่นที่สำคัญยิ่งคือการที่ประเทศสมาชิก "มีสิทธิที่จะใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิ และสามารถกำหนดเงื่อนไขหรือสภาวะการณ์ที่จะใช้มาตรการดังกล่าวได้อย่างเสรี"
THOMAS H. ALLEN
สมาชิกสภาคองเกรส
|