แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้ กองทัพเอธิโปเปียปล่อยเด็กจำนวน 41 คนที่ถูกกังขัง หลังจากการโจมตีในมัสยิดอัล ฮิดยา เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 51 ซึ่งทำให้มี 21 คนเสียชีวิต
เหตุการณ์การโจมตีมัสยิดอัล ฮิดยา เป็นการปะทะกันระหว่างกองทัพเอธิโอเปียและรัฐบาลชั่วคราวของโซมาเลีย ต่อกลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านสองกลุ่มนี้ การปะทะเกิดขึ้นต่อเนื่อง 2 วัน โดย เอลมาน องค์กรสิทธิมนุษยชน รายงานว่ามีจำนวนผู้เสียชีวิต 81 คน ผู้บาดเจ็บประมาณ 100 คน
พยานคนหนึ่งระบุว่า กองกำลังเอธิโอเปียจะปล่อยตัวเด็กๆ จากฐานทัพที่อยู่ทาง Mogadisshu ตอนเหนือ หลังจากสืบสวนว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหรือไม่ โดยแอมเนสตี้ได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา มีเด็กบางส่วนที่ถูกปล่อยตัว แต่ส่วนใหญ่ยังถูกกักขังตัวอยู่โดยกองกำลังเอธิโอเปีย
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ประณามต่อการโจมตีพลเมือง โดยมี 11 คน จาก 21 คนถูกฆ่าตายในมัสยิด ซึ่งรวมถึง อิหม่าม ชี้ค ซาอิด ญายา, ชี้ค อับดุลลาห์ โมฮาหมัด และนักวิชาการอิสลามทาบลิคอีกมากมาย โดยพยานผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า ผู้ที่ถูกฆ่าตายในมัสยิดไม่มีอาวุธและไม่ได้แสดงความเป็นศัตรูต่อกองทัพเอธิโอเปียแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังมี 7 คน จาก 21 คน ที่ถูกฆาตกรรมด้วยการปาดคอโดยกองกำลังเอธิโอเปียในโซมาเลีย ขณะที่โฆษกประจำรัฐบาลเอธิโอเปียออกมากล่าวว่า ทางรัฐบาลเอธิโอเปียไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าครั้งนี้
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า "คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องกระทำการเพื่อยุติเรื่องการนิรโทษกรรมทั่วทั้งโซมาเลีย โดยให้คณะกรรมาธิการไต่สวนกลาง หรือองค์กรที่ทำหน้าที่คล้ายกันเป็นผู้สืบสวนเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระหว่างการสู้รบ"
แอมเนสตี้เห็นว่า รัฐบาลเอธิโอเปียและรัฐบาลชั่วคราวของโซมาเลียต้องรับรองความเป็นอิสระของงานสืบสวนครั้งนี้ ทหารเอธิโอเปียที่มีส่วนรับผิดชอบต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสากลของการสืบสวนคดีอย่างเป็นธรรมต้องถูกดำเนินคดี โดยต้องไม่มีการลงโทษประหารชีวิต
"ความปลอดภัยและสวัสดิการของเด็กๆ สำคัญที่สุด" แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)