Skip to main content
sharethis

เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานว่า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนายเสรี อุมา ช่างภาพสถานีกองทัพบกช่อง 7 ถูกขวดแก้วปาเข้าบริเวณศีรษะต้องเย็บหลายเข็มและนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเปาโล ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างนายเสรีกำลังถ่ายภาพเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มต้านกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอยู่ในบริเวณป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อคืนวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมานั้น



         


ขณะเดียวกันเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ มีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรงได้เนื่องจากมีความพยายามยั่วยุด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การขว้างปาสิ่งของใส่กันระหว่างการชุมนุม การด่าทอและแสดงออกด้วยถ้อยคำและท่าทีหยาบคาย การปิดทางเข้า ทางออกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



         


องค์กรวิชาชีพสื่อประกอบด้วยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยมีความเป็นห่วงต่อแนวโน้มสถานการณ์ดังกล่าว จึงขอเรียกร้อง ดังนี้



         


1.ทุกฝ่ายต้องเคารพเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและสันติวิธี เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ให้ยอมรับความแตกต่างทางความคิดและ ต้องไม่ใช้เสรีภาพไปละเมิดสิทธิ เสรีภาพของผู้อื่น



         


2.ทุกฝ่ายต้องยุติการใช้ความรุนแรง ยั่วยุไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเพื่อให้เกิดความรุนแรง และขอประณามกลุ่มอันธพาลที่มีพฤติกรรมถ่อยเถื่อน ลามกอนาจาร ไม่เคารพสิทธิ เสรีภาพของฝ่ายที่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง



         


3.ขอเรียกร้องรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ปฏิบัติกับทุกฝ่ายด้วยความเป็นธรรม ไม่โอนเอียนเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะฝ่ายที่มีท่าทีสนับสนุนรัฐบาล หากมีการกระทำที่ผิดกฏหมายต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาเพราะมิเช่นนั้นอาจทำให้ฝ่ายที่นิยมใช้ความรุนแรงฉวยจังหวะก่อสถานการณ์ให้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดังตัวอย่างการชุมนุมที่สนามหลวงหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่เป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า แต่กลับไม่มีการดำเนินการกับผู้กระทำผิด



         


4.สำหรับสื่อมวลชนนั้น ต้องทำหน้าที่ในการรายงานข่าวอย่างรอบด้าน ขณะเดียวกันขอให้ใช้ความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย



         


ทั้ง 2 สมาคมฯ ขอเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งเพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์สาธารณะและระบอบประชาธิปไตย



         


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00น.ที่โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล สะพานควาย น.ส.นาตยา เชษฐโชติรส นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนางโสภิต หวังวิวัฒนา ผอ.สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้เข้าเยี่ยมและมอบเงินช่วยเหลืออาการของนายเสรี อูมา ช่างภาพทีวีช่อง 7 ที่ได้รับบาดเจ็บขณะบันทึกภาพข่าวกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการให้ความรู้ประชาชนในงานสัมมนายามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ 2 ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



         


น.ส.นาตยา กล่าวว่า เข้าใจการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่บางส่วนหละหลวมจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ถ้าเข้มงวดตั้งแต่ต้นก็จะสามารถเข้าห้ามปรามผู้ชุมนุมได้ โดยในช่วงเย็นวันนี้ (26 เม.ย.) ในฐานะสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ก็จะมีการออกแถลงการณ์ทางเว็บไซต์ต่อเหตุการณ์รุนแรงจนทำช่างภาพได้รับบาดเจ็บด้วย



         


"ในนามสมาคมขอประณามและคัดค้านการชุมนุมและการกระทำที่ก่อให้เกิดเหตุรุนแรงเช่นนี้ ซึ่งเราสนับสนุนการใช้สิทธิการชุมนุมโดยสงบมาโดยตลอด และต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว และลงโทษตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมไม่เลือกปฏิบัติ เพราะการกระทำเช่นนี้ถือเป็นการคุกคามเสรีภาพในการทำงานของสื่อมวลชน และขอเป็นกำลังใจให้กับนักข่าวทุกคนที่ทำหน้าที่ทำข่าวในการชุมนุม ซึ่งต่อไปคงมีการชุมนุมอีกมากก็ขอให้ทำหน้าที่ด้วยความอดทน" นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าว



         


ต่อมา ร.ต.ท.ประกอบ เย็นหลักร้อย ร้อยเวร สน.ชนะสงคราม เจ้าของคดีได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ท.สุเมธ จิตรพาณิชย์ รอง ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการและสอบปากคำนายเสรี โดย ร.ต.ท.ประกอบ กล่าวว่า เบื้องต้นนายเสรี สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ปาขวดถูกศรีษะแตกได้ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนจะแจ้งข้อหาได้เพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผลการตรวจของแพทย์ว่าบาดเจ็บมากน้อยเพียงไร โดยในเรื่องนี้ทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ให้ฝ่ายสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งหากมีภาพจากกล้องวงจรปิดก็จะทำการตรวจสอบใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดด้วย



         


ด้าน พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐ์ผล ผกก.สน.ชนะ กล่าวว่า นายเสรี ผู้บาดเจ็บ ได้แจ้งมาว่าขณะนี้แพทย์ต้องการให้พักฟื้นก่อนคาดว่าภายใน 2-3 วันน่าจะเดินทางมาให้ปากคำที่ สน.ชนะสงครามด้วยตนเองได้ อย่างไรก็ตามได้ให้ฝ่ายสืบสวนติดตามข่าวหาคนร้ายแล้ว เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านจะมาชุมนุมเป็นประจำที่บริเวณสนามหลวง ส่วนผู้ชุมนุมต่อต้านที่แสดงของลับนั้น ได้สั่งให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีด้วย ในข้อหาผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อธาระกำนัน โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอื่นๆ มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ซึ่งการตรวจสอบภาพถ่ายจากหนังสือพิมพ์ก็คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี เพราะชายทั้ง 2 คนที่พยายามจะโชว์ของลับในครั้งนี้ ก็พยายามทำเช่นนี้มาตั้งแต่การเรียกร้องครั้งที่แล้วแต่ไม่สำเร็จ



         


............................
ที่มา:
http://www.komchadluek.net

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net