Skip to main content
sharethis

ชมรมเพื่อนมหิดล จัดกิจกรรมรำลึก 100 วัน การจากไปของ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ภายใต้ชื่อ "หมอหงวน...ศรัทธา...สร้างสรรค์...ฝันเป็นจริง" โดยมีบุคลในวงการแพทย์ กลุ่มบุคลากรสาธารณสุข และตัวแทนองค์กรพัฒนาเอกชนเข้าร่วมงานคับคั่ง เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ณ ห้องราชเทวี โรงแรมเอเชีย


 


งานเริ่มต้นในเวลาประมาณ 18.00 น.โดย นพ.มงคล  ณ สงขลา เป็นผู้กล่าวเปิดงาน จากนั้นเป็นการเปิดใจถึงการจัดงานในครั้งนี้ โดย นายวิเชียร คุตตวัส ประธานชมรมเพื่อนมหิดล


 


"เราจะทำให้สังคมเป็นสังคมที่ดีที่เราใฝ่ฝันได้อย่างไร และเราจะส่งต่อภารกิจและความฝันให้คนรุ่นหลังๆ ของเราได้อย่างไร" นายวิเชียร กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อสานต่อความฝันของหมอหงวนในครั้งนี้


 


ต่อมาเป็นการแสดงดนตรีชุด "เรียงร้อยเส้นทาง..ศรัทธา..สร้างสรรค์..ฝันเป็นจริง" จากวงสลึง วงดนตรีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล สลับกับการบอกเล่าเรื่องราวในแต่ละช่วงชีวิตของ นพ.สงวน ตั้งแต่เป็นนักศึกษาแพทย์ โดย นพ.สุรพงษ์ อึ้งศรีวงศ์ ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลมหาชัย อดีตแกนนำนักศึกษาแพทย์ที่เคลื่อนไหวในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 และเป็นผู้ผลักดัน นพ.สงวน สู่การเป็นนายกสหพันธ์นักศึกษามหิดล ในชื่อช่วง "สั่งสมอุดมการณ์"


 


"ผมภูมิใจที่พี่สงวนเป็นคนดีที่ทำเพื่อประชาชนจนชั่วชีวิต" นพ.สุรพงษ์กล่าว


 


จากนั้น นพ.วิโรจน์ อภิสิทธิ์วิทยา ผอ.ฝ่ายบริหารโรงพยาบาลศุภมิตรเสนา และพญ.สุพัตรา ศรีวาณิชชากร ผอ.สำนักงานบริหารการพัฒนาระบบบริหารปฐมภูมิ ได้บอกเล่าเรื่องราวการ "สานฝันให้เป็นจริง" ในช่วงที่เริ่มเข้าสู่ชีวิตทำงานในฐานะนายแพทย์ และบทบาทหน้าที่ในระบบราชการ ตั้งแต่เมื่อครั้งทำงานที่โรงพยาบาลอำเภอราศีไศล จ.ศรีสะเกษ และได้ก่อตั้งกองทุนยา ซึ่งเป็นที่มาของกองทุนหลักประกันสุขภาพในปัจจุบัน


 


ช่วง "ทุกสิ่งสู่ประชาชน" ว่าด้วยอุดมการณ์และความใฝ่ฝันที่ได้บ่มเพาะจนนำไปสู่การผลักดันให้ประชาชนได้เกิดหลักประกันสุขภาพ โดย นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) คนที่ 2 ซึ่งกล่าวว่า นพ.สงวน เป็นผู้เปลี่ยนมุมมองของการบริการสาธารณสุขจาการสงเคราะห์เป็นสิทธิที่บุคคลควรได้รับ และเปลี่ยนการกระจายงบประมาณของรัฐให้เป็นไปเพื่อประชาชน นอกจากนั้นยังเป็นผู้ผลักดันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้มั่นคง แม้จะได้รับแรงต่อต้านจากคนทำวิชาชีพนี้ค่อนข้างมาก ทั้งนี้การคิด พูด เขียน ทำ ล้วนเจตนาให้เกิดประโยชน์กับประชาชน


 


ในตอนท้าย นพ.วิโรจน์ ได้กล่าวถึงการรับหน้าที่ เลขา สปสช. ต่อจาก นพ.สงวน ว่า จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำให้เจตนารมณ์ของ นพ.สงวน เป็นจริงและยั่งยืนต่อไป


 


การเสวนาหัวข้อ "หมอสงวน...จากอุดมการณ์สู่ความเป็นจริง" ดำเนินรายการโดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เริ่มต้นเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. มี นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ (สวสส.) รอ.ทพญ.อพภิวันท์ นิตยารัมภ์พงศ์ ภรรยาของนพ.สงวน และนางรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ ร่วมพูดคุย


 


นพ.วิชัยกล่าวว่า อุดมการณ์ของ นพ.สงวน คืออยากเห็นหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยเริ่มจากหลักประกันสังคม สู่หลักประกัน 30 บาทรักษาทุกโรค ไปจนถึงหลักประกันสุขภาพฯ เพราะในฐานะหมอไม่อยากให้เงินทองเป็นอุปสรรคที่ขวางกั้นการเข้าถึงการรักษาพยาบาล ทั้งนี้ความฝันในเรื่องหลักประกันสุขภาพฯ แห่งชาติของ นพ.สงวน เป็นความฝันที่ก้าวไปได้ไกลมากที่สุด เพราะรัฐบาลมีการนำไปปฏิบัติ อีกทั้งเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่มั่นคงเพราะมั่นใจว่าอะไรที่รัฐบาลได้ให้กับมวลชนแล้งรัฐบาลจะไม่กล้าเรียกคืน  


 


อย่างไรก็ตาม นพ.วิชัย ได้กล่าวต่อถึงสิ่งสำคัญ 3 ประการที่หลักประกันสุขภาพฯ ยังไปไม่ถึง คือ 1.ประชาชนได้รับหลักประกันสุขภาพอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และมีความเสมอภาค แต่ปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่าการประกันสุขภาพของข้าราชการที่ดีกว่าการกระกันสุขภาพประชาชนทั่วไปมาก 2.หลักประกันให้ประชาชนมีความสุข และผู้ดำเนินกิจการมีความสุขด้วย 3.ให้ชุมชนมีส่วนเป็นเจ้าของสถานบริการสาธารณสุข และมีความเชื่อมั่นในบริการของสถานบริการใกล้บ้าน


 


นอกจากนี้ นพ.วิชัย ได้แสดงความเป็นห่วงถึงแนวคิดการนำ "ระบบร่วมจ่าย" มาใช้กับสวัสดิการการประกันสุขภาพ จากแนวความคิดเดิมที่หักโดยใช้ระบบภาษี โดยให้เหตุผลว่าการที่ให้คนมีฐานะดีมาร่วมจ่ายด้วยจะทำให้เกิดระบบบริการหลายมาตรฐาน ซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้ระบบของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเสื่อมลงได้


 


ด้านนพ.โกมาตร กล่าวถึงอุดมการณ์ของ นพ.สงวน ว่า เป็นความต้องการสร้างสังคมที่มนุษย์มีสิทธิความเป็นคนเสมอกันที่ออกมาในรูปของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พร้อมกับการสร้างสังคมในมิติอื่นๆ เช่น การผลักดันเครือข่ายภาคประชาชนในการทำงานต่อสูเพื่อประชาชน โดยบุกเบิกการให้งบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐแก่องค์กรพัฒนาเอกชน ทั้งนี้การปฏิรูปเพื่อให้การรักษาพยาบาลถ้วนหน้าเกิดขึ้นได้ต่อไป ต้องมีการปฏิรูปการเงินการคลัง และสร้างระบบบริการใกล้บ้านให้แข็งแรง เข้าถึงได้ง่าย และทั่วถึง ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดว่า นพ.สงวน จะมุ่งเน้นหากยังมีชีวิตอยู่


 


"ถ้าแกมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ว่า 3 วัน 3 ปี 30 ปี สิ่งที่แกจะทำก็คือการทำงานเพื่อรับใช้เพื่อนมนุษย์" นพ.โกมาตรกล่าวถึงการทำงานของ นพ.สงวน


 


นพ.โกมาตร กล่าวต่อถึง นพ.สงวน ว่าเป็นคนที่มีอุดมการณ์ มีความรู้ และมีคนรัก จึงทำให้การทำงานต่างๆ ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลรอบข้าง นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ทำงานแล้วได้ใจคน ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น้อยคนจะสามารถทำได้


 


ส่วน รอ.ทพญ.อพภิวันท์ กล่าวว่า ความสำเร็จสูงสุดของ นพ.สงวน ผู้เป็นสามีคือ การรวมใจคน เหมือนทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ที่มาร่วมงาน แม้ว่า นพ.สงวน จะเสียชีวิตแล้วทุกคนก็ยังมีใจพร้อมที่จะทำงานสืบต่อความฝันต่อไป


 


"โครงการ 30 บาท ทำไม่ได้คนเดียว ตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่กระทรวงสาธารณสุข และการเดินหน้าทีละก้าว ทีละก้าว พี่หงวนไม่ได้ทำคนเดียวเลย" รอ.ทพญ.อพภิวันท์ กล่าว


 


นอกจากนี้ รอ.ทพญ.อพภิวันท์ เล่าถึงเหตุการณ์ในช่วย 4 สัปดาห์สุดท้ายก่อนการสูญเสีย หลังจากที่ได้ทราบว่าไม่มียารักษา ทั้งที่ นพ.สงวน ถือเป็นผู้ป่วยพิเศษที่ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดทางกายภาพ ทำให้รู้สึกช็อคกับสิ่งที่ได้รับรู้ ในตอนนั้นสิ่งที่ต้องการไม่ใช่การรักษา ไม่ต้องการยาราคาแพง เพียงแต่ได้รับมิตรภาพ ไมตรีจิตแม้จากคนที่ไม่ได้รู้จักเลยมาเป็นกำลังใจ ก็ทำให้รู้สึกดี และมันเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด เพราะส่วนหนึ่งที่มีในตอนนั้นคือความทุกข์ใจ สิ่งเหล่านี้ทำให้เข้าใจถึงความรู้สึกสูญเสียของคนอื่นๆ และได้เป็นที่มาของการก่อตั้ง "ศูนย์มิตรภาพบำบัด" ขึ้นมา


 


"คนเราตายช้า ตายเร็วก็ต้องเจอ แต่ตายอย่างสงบคือสิ่งที่ทุกคนควรจะได้มี" รอ.ทพญ.อพภิวันท์ กล่าวถึงสิ่งที่ นพ.สงวน ฝากไว้


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net