Skip to main content
sharethis

 


วันนี้ (29เม.ย.51) รายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์ในพื้นที่ ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรณีโครงการก่อสร้างโรงถลุงเหล็กในเครือสหวิริยา ร้อนระอุขึ้นอีกครั้งเนื่องจากมีการปล่อยข่าวอย่างกว้างว่าแกนนำกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ซึ่งคัดค้านการสร้างโครงการมีการรับเงินเพื่อยุติการเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการ โดยแกนนำในพื้นที่ได้ปฏิเสธและแสดงความเป็นห่วงว่าอาจเกิดความรุนแรงกว่าเดิมในอนาคต


ทั้งนี้ โครงการโรงถลุงเหล็กของเครือสหวิริยานั้นมีมูลค่าประมาณ 5 แสนล้านบาท เป็นอุตสาหกรรมเหล็กครอบวงจร ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกลุ่มผู้สนับสนุน และชาวบ้านที่คัดค้านการก่อสร้างโรงถลุงเหล็กจนเคยเกิดการปะทะกันและมีผู้สียมาแล้ว และขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างความพยายามในการถมที่ดิน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีปัญหาขัดแย้งเรื่องการออกเอกสารสิทธิเพราะทับพื้นที่สาธารณะและป่าพรุซึ่งเป็นแหล่งรองรับน้ำตามธรรมชาติ


จากการสอบถามนายสุพจน์ ส่งเสียง รองประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงระบุว่า น่าจะมีการจ่ายเงินกันจริง เนื่องจากเจอกับประสบการณ์ตรงในวันนี้ เวลาประมาณ 16.00 น. มีผู้นำชุมชนคนหนึ่งเข้ามาขอพบ แต่ไม่ได้พบโดยตรงเพราะตนให้ภรรยาคุยแทน ผู้นำคนดังกล่าวได้ยื่นข้อเสนอที่จะสนับสนุนโครงการปลูกป่า และการจัดตั้งศูนย์ศึกษาป่าชุ่มน้ำแม่รำพึงเป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านบาท โดยแลกกับการหยุดคัดค้านการก่อสร้างโรงถลุงเหล็ก และทราบมาว่าผู้นำคนดังกล่าวได้รับค่าตอบแทนในการไกล่เกลี่ยกว่า 5 ล้านบาท


"ให้สร้างภาพว่าดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้วให้เอามลพิษมาไว้ข้างๆ บ้าน คงรับไม่ได้" นายสุพจน์กล่าว


นายสุพจน์กล่าวต่อว่า แกนนำกลุ่มหลายคนก็คงจะได้รับการติดต่อและยื่นข้อเสนอเช่นเดียวกัน แต่เชื่อว่าความสัมพันธ์ของกลุ่มมีความเข้มแข็ง และมีความชัดเจนที่จะไม่ให้เอามลพิษมาไว้ในพื้นที่ การปล่อยข่าวว่ามีแกนนำรับเงินเพื่อปั่นทอนความรู้สึกของชาวบ้านนั้นไม่เป็นผล แต่ยิ่งทำให้ชาวบ้านฮึกเหิมมากขึ้นที่จะเคลื่อนไหวเพื่อยืนยันว่ากลุ่มชาวบ้านยังคงเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านโครงการต่อไป


นายสุพจน์ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 เม.ย.) พันธมิตรจังหวัดประจวบฯ ทั้ง 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติบ้านกรูด กลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก-อ่าวน้อย กลุ่มรักษ์บ้านเกิดอ่าวน้อย จะรวมตัวกันใช้รถกระบะออกให้ข้อมูล และแจกเอกสารแก่ชาวบ้านในย่านชุมนุมชนของบางสะพาน และคาดว่าจะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป


ในส่วนของความรุนแรงในพื้นที่ นายสุพจน์กล่าวว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีกลุ่มคนเข้าไปข่มขู่ชาวบ้านให้รื้อเพิงพัก ซึ่งตั้งศูนย์เฝ้าระวังอยู่ใกล้พื้นที่ป่าพุ และมีรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและรถป้ายแดงจำนวนมากผิดปกติมาเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณใกล้ๆ บ้านแกนนำกลุ่มอนุรักษ์ นอกจากนี้ทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ ยังมีความกังวลว่าอาจเกิดความรุนแรงกับบรรดาแกนนำ


 "เรากันเอง ก็ต้องดูแลกันเองอย่างเต็มที่" นายสุพจน์กล่าวก่อนแสดงความเห็นว่าการต่อสู่ที่ผ่านมาเหมือนไฟไหม้ฟาง เพราะหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างเข้ามาในพื้นที่ตามกระแสข่าว แต่ในที่สุดก็ไม่ได้มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงอะไร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net