การเมือง

ลือหึ่ง พล.อ.เปรม ลื่นล้มในห้องน้ำ  พะจุณณ์ แจงไม่ได้ลื่นล้ม เพียงแค่ไปตรวจร่างกายปะจำปีเท่านั้นเอง

แนวหน้า - ในช่วงเย็นมีกระแสข่าวว่าพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เกิดลื่นล้มในห้องน้ำและนำตัวเข้ารับการรักษาที่รพ.พระมงกุฎเกล้านั้น ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามไปที่พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีบ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ และนายทหารที่ใกล้ชิดพล.อ.เปรม ถึงกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่งพล.ร.ท.พะจุณณ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าได้ข่าวมาจากไหน เพราะข่าวดังกล่าวไม่ใช่ ความจริงแล้วพล.อ.เปรม ท่านเดินทางไปตรวจร่างกายประจำปีเท่านั้นเอง ไม่ได้ลื่นหกล้มอย่างที่เป็นข่าว ส่วนการที่ไปตรวจร่างกายในช่วงเย็น เพราว่าคนไม่พลุกพล่าน โดยพล.อ.เปรมจะต้องนอนค้างที่ รพ. 1  คืน จากนั้นในวันพรุ่งนี้จะเดินทางกลับ ซึ่งท่านไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่มาตรวจร่างกายตามวงรอบเท่านั้นเอง

รายงานข่าวเปิดเผยว่า พล.อ.เปรม ลื่นล้มในห้องน้ำจริงแต่ล้มไปเมื่อวานนี้ จากนั้นจึงเพิ่งจะมาตรวจร่างกายในเย็นวันนี้ โดยทางรพ.ได้ทการตรวจร่างกายและเอกซ์เรย์อย่างละเอียด ซึ่งจากการตรวจร่างกายไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ แต่ขอให้นอนรอดูอาการและตรวจร่างกายไปพร้อมกันก่อน ส่วนจะออกจากรพ.วันไหนนั้นคงต้องรอดูอาการท่านอีกครั้ง แต่หากไม่มีอะไรมากอาจจะสามารถออกได้ในวันพรุ่งนี้ แต่ทั้งนี้คงต้องแล้วแต่ดุลย์พินิจของแพทย์อีกครั้ง

 

ยงยุทธ ไขก๊อกประธานสภาฯส.ว.-นักวิชาการชี้แผนแก้รธน.

คมชัดลึก - หลังมีข่าวออกมาล่วงหน้าว่า จะยื่นใบลาออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฏร ปรากฎว่าเมื่อเย็นวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา นายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งแล้ว

นายยงยุทธ ได้เดินทางเข้ามาที่สภาเมื่อเวลา 16.45 น. เพื่อประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานรัฐสภา โดยทันทีที่มาถึงนายยงยุทธ ได้เข้าสักการะอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา จากนั้นได้ไปสักการะพระสยามเทวาธิราช

 

เวลา 17.00 น. นายยงยุทธ แถลงว่า เหตุผลที่ลาออกเนื่องมาจาก ต้องการจะต่อสู้คดีในชั้นศาล ไม่มีนัยใดๆทั้งสิ้น การลาออกของไม่มีผลต่อรูปคดีที่ถูกฟ้องร้องเรื่องทุจริตการเลือกตั้งว่าจะได้รับประโยชน์จากคดีเมื่อลาออก โดยปราศจากตำแหน่งทางการเมืองใดๆ มาเกี่ยวข้อง เพราะอยากออกไปต่อสู้ในชั้นศาลต่อสู้คดีเพื่อความสง่างามของสภาก่อนจะต้องขึ้นศาลในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้

 

จักรภพ ลั่นแก้ พรบ.กทช. หยามล้าหลังไม่รับสื่อใหม่

โพสต์ทูเดย์ - นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งของการสัมมนา "สื่อ... ความหวังของเด็ก เยาวชน และครอบครัว" ว่า มีความต้องการที่จะแก้ไข หรือยกเลิก พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กทช.) พ.ศ. 2551 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 มี.ค. เพราะกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายที่ไม่ยอมรับการมีอยู่ของสื่อใหม่ทั้งหมด ไม่ยอมรับว่าโลกนี้มีวิทยุชุมชน มีวิทยุดาวเทียม มีเคเบิลท้องถิ่น ซึ่งส่วนตัวคิดว่าคนที่คิดกฎหมายกับคนคิดกรอบของรัฐธรรมนูญในตอนแรกกับคนที่คิดกฎหมายนี้ในตอนหลัง เป็นคนที่มองกันคนละโลกโดยสิ้นเชิง มีความแตกต่างกันจนแทบปฏิบัติไม่ได้

 

แจ้งจับทักษิณลบหลู่ธงชาติ หมัก ชี้แค่เห็นก็ขนลุก

คมชัดลึก - ภายหลังมีการตีพิมพ์ข่าวและภาพถ่ายธงชาติไทยมีชื่อ "ทักษิณ" เป็นภาษาอังกฤษ ถูกนำไปติดบนอัฒจันทร์สนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิพระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้กับทีมฟูแล่ม  เมื่อวันที่26 เมษายน ซึ่งในการแข่งขันนัดดังกล่าวมีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานสโมสรแมนฯ ซิตี้ เข้าชมการแข่งขันด้วย ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมตามมาอย่างมาก

 

นายสมัครสุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่สมควร และกระทรวงการต่างประเทศของไทยก็ต้องทักท้วงไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เชื่อว่าคงมีการแก้ตัวว่า "ฝรั่งทำ" แต่สำคัญที่สุดคือ เมื่อมีคนเห็นก็ต้องเอาออกทันที เป็นไปไม่ได้ที่เรื่องนี้จะปล่อยไป อย่างไรก็ตาม จะถามเป็นการภายใน โดยจะฝากคนไปถาม ถ้าวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคมนี้รู้เรื่อง ก็จะชี้แจงให้ฟังว่าเกิดเหตุอย่างนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าในการแข่งขันนัดดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณก็นั่งชมอยู่ด้วยนานถึง 2 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีย้อนถามว่า "แล้วไม่มีใครเตือนเลยหรือ"

 

"พ.ต.ท.ทักษิณช่วงที่นั่งชมได้แหงนหน้าขึ้นไปดูหรือเปล่าว่ามีธงดังกล่าวอยู่ข้างบน คิดว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณเห็น เขาต้องท้วงแน่ เป็นคนไทย คงเป็นไปไม่ได้ถ้าเห็นแล้วไม่ท้วง ถ้าเป็นธงของสโมสรหรือธงอื่นๆ จะเขียนอะไรลงไปก็ได้ แต่ธงชาติเขาไม่ทำกัน เรื่องแบบนี้ผมไม่มีทางเข้าข้าง" นายกรัฐมนตรีกล่าว

เมื่อถามว่าเบื้องต้นกระบวนการตรวจสอบจะเป็นอย่างไรนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ต้องมีกระบวนการตรวจสอบอย่างน้อยที่สุดอดีตนายกฯ ทักษิณกลับมา ท่านต้องชี้แจงว่ามันเกิดเหตุขัดข้องอย่างไรถึงเป็นเช่นนี้ และต่อไปจะเกิดเหตุเช่นนี้อีกไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องดีกับตัวท่าน แล้วท่านจะไปยืนยันว่าเป็นเรื่องดีมีชื่อของท่านอยู่ในธงได้อย่างไร แค่เห็นก็ตกใจแล้ว

 

ต่อข้อถามว่ากฎหมายในเรื่องธงชาติมีอยู่แล้วไม่ใช่หรือนายสมัครกล่าวว่า ใช่ แต่ปัญหาอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณเห็นหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม รู้กันหรือไม่ว่ากฎหมายธงชาติอเมริกันเขาระบุชัดเจนว่า รูปธงอเมริกันไปทับรูปอื่นไม่ได้ ซึ่งมันประหลาด สมัยก่อนธงอเมริกันไม่มีความหมายเลย ต่อมาอเมริกันคบกับคนทั่วโลก ซึ่งเขารักธงชาติกันทั้งนั้น อเมริกันจึงออกกฎหมายธงชาติขึ้นมา โดยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุช ตนรู้จากเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยว่า ธงชาติอเมริกาอยู่ใต้ธงชาติไทยไม่เป็นไร แต่ไปทับธงอื่นไม่ได้ สมัยก่อนธงอเมริกันถูกเผา ถูกปัสสาวะรดก็ไม่ว่าอะไร มีการเอาไปทำถุงเท้า กางเกงชั้นในได้ แต่ปัจจุบันห้ามหมด

 

ส่วนรัฐบาลมีแนวทางจัดการเรื่องนี้อย่างไรนายสมัครกล่าวว่า "แค่เห็นก็ขนลุกแล้ว ก็ต้องจัดการแก้ไขเรื่องนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก"

 

สินบนเลือก ปธ.วุฒิล่ม จวกสื่อไม่ตรวจหลักฐาน

คมชัดลึก - คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาสอบสวนเรื่องข่าวให้ค่าตอบแทนในการเลือกประธานวุฒิสภา ที่มี พล.ท.กมล ประจวบเหมาะ ส.ว.สรรหาเป็นประธาน ได้พิจารณาสอบสวนเรื่องดังกล่าวเสร็จแล้ว ซึ่งจะนำเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 2 พฤษภาคม

 

รายงานดังกล่าวระบุว่าจากการสอบสวนพยานบุคคลซึ่งเป็น ส.ว.ทั้งหมดเช่น นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ชี้แจงว่านักการเมืองใหญ่ใน จ.บุรีรัมย์ ติดต่อเพื่อให้สนับสนุนนายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์เป็นประธานวุฒิสภา แต่ไม่ได้เสนอสิ่งตอบแทน เช่นเดียวกับนายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครราชสีมา และนายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทราที่ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเสนอสิ่งตอบแทนในการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาแต่อย่างใด

 

ส่วนนายสมชายแสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า อดีต ส.ส.ขอนแก่นขอให้สนับสนุนน้องชาย เป็นรองประธานวุฒิสภา แต่ไม่ได้ระบุเรื่องเงิน 1 ล้านบาท และรถเบนซ์ ขณะที่นายคำนูณ และนายวรินทร์ ชี้แจงว่าทราบจากนายสมชายและข่าวที่ออกมา

 

ทั้งนี้คณะกรรมาธิการสรุปผลสอบสวนว่า ไม่พบพยานหลักฐานตามที่ปรากฏข่าว แต่เชื่อว่ามีอดีตนักการเมืองเข้ามาแทรกแซงและให้เป็นดุลพินิจของนายสมชาย และนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหาในฐานะผู้เสียหาย ไปแจ้งความต่อตำรวจเอง ส่วนสื่อและส.ว.ที่ให้ข่าวต้องรับผิดชอบต่อการเสนอข่าวที่ทำให้สถาบันวุฒิสภาเสียหาย

 

คุณภาพชีวิต

ป้าอุ ยาหอมขึ้นค่าจ้าง 2 พ.ค.

โพสต์ทูเดย์ - นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน กล่าวว่า เห็นใจผู้ใช้แรงงานในกรุงเทพมหานคร ที่ได้รับค่าจ้างเดือนละ 4,966 บาท ขณะที่มีค่าใช้จ่ายเดือนละ 5,010 บาท หวังว่าผู้ใช้แรงงานจะได้ฟังข่าวดีหลังการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างในวันที่ 2 พ.ค.นี้ ที่จะพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ

 

"เชื่อว่าในวันที่ 2 พ.ค.นี้ คณะกรรมการค่าจ้างจะสามารถมาร่วมประชุมไตรภาคีครบ 3 ฝ่าย เพื่อพิจารณาตามข้อเรียกร้องขอขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 9 บาททั่วประเทศ" รมว.แรงงาน กล่าว

 

ตบหน้าลูกจ้างล้มถกค่าแรงน้ำตาลขึ้นกิโลละ5บาทอัดลมจ่อ

คมชัดลึก - ภาวะข้าวยากหมากแพงเริ่มส่งผลกระทบต่อปากท้องชาวบ้านมากขึ้นทุกวันหลังราคาน้ำมันและราคาข้าวสารพุ่งไม่หยุด ล่าสุดรัฐบาลอนุมัติให้ขึ้นราคาน้ำตาลหน้าโรงงานอีกกิโลกรัมละ 5 บาท ขณะที่ค่าแรงงานยังไม่ได้ข้อสรุปเมื่อนายจ้างไม่ยอมเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง

 

เมื่อวันที่29 เมษายน นายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ซึ่งมีวาระเร่งด่วนเพื่อพิจารณาข้อเสนอของผู้ใช้แรงงานให้มีการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ 9 บาททั่วประเทศ ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันแรงงานแห่งชาติ เมื่อถึงเวลาประชุม ปรากฏว่า ผู้แทนคณะกรรมการฝ่ายนายจ้างที่มีด้วยกัน 5 คน เข้าร่วมประชุมเพียง 1 คนเท่านั้น คือ นายอรรถยุทธ ลียะวณิช เลขาธิการสภาองค์การนายจ้างผู้ค้าและบริการเครื่องอุปโภคบริโภค ขณะที่คณะกรรมการฝ่ายลูกจ้างและราชการ ต่างมากันพร้อมเพรียง

 

ภายหลังการประชุมกว่า2 ชั่วโมง นายจุฑาธวัชแถลงว่า จริงๆ แล้วในวันนี้จะไม่มีการประชุม แต่คณะกรรมการเห็นว่าเป็นวาระเร่งด่วนต้องพิจารณาด้านภาวะเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของลูกจ้าง จึงเรียกประชุมเร่งด่วน ทั้งๆ ที่การนัดประชุมปกติ คือ วันที่ 2 พฤษภาคม การประชุมครั้งนี้ไม่สามารถหาข้อยุติได้ เนื่องจากกรรมการฝ่ายนายจ้างส่วนใหญ่มีภารกิจจึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ โดย 3 คนเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วทราบว่านายจ้างเองก็ต้องการให้มีการปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบจึงไม่สามารถพิจารณาได้ เพราะตามกฎหมายระบุว่า การลงมติค่าจ้างต้องมีคณะกรรมการฝ่ายละ 2 คนขึ้นไป และหากคณะกรรมการที่ประชุมวันนี้ฝืนลงมติอาจทำให้มีการฟ้องร้องได้

 

เศรษฐกิจ

ธปท.ห่วงเงินเฟ้อพุ่งสูงเกินคาด ชี้เสี่ยงกว่าศก.ชะลอ-รัฐต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น

คมชัดลึก - ดร.ธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อของไทยจะเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ และมีความเสี่ยงมากกว่าความเสี่ยงเศรษฐกิจจะชะลอตัว ซึ่งภาวะเศรษฐกิจไทยยังสามารถเติบโตได้จากการกระตุ้นของรัฐบาลผ่านนโยบายการคลัง โดยตั้งแต่ไตรมาส 3-4 เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ ดังนั้น ความกังวลในเรื่องดังกล่าวจึงมีมากนัก

 

การที่อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการบริโภค การลงทุน และการส่งออก ดังนั้น ทางการจึงต้องมีหน้าที่สร้างความมั่นใจให้คนในประเทศเชื่อมั่นได้ว่าสามารถดูแลเงินเฟ้อได้ เพื่อดูแลผลของเงินเฟ้อที่จะปรับเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์เงินเฟ้อของคนในประเทศ อย่างไรก็ตาม หากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นเป็นปัจจัยชั่วคราวจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนราคาสินค้าและน้ำมัน ซึ่งสามารถปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมในระยะปานกลางได้ ก็ไม่ถือว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นปัญหา

 

ต่างประเทศ

ฮิลลารีตีตื้นโอบามาชี้โอกาสเป็นปธน.เริ่มสดใส

คมชัดลึก - การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้เริ่มเข้มข้นขึ้นอีกครั้ง เมื่อสำนักข่าวเอพีเผยเมื่อวันจันทร์ (28 เม.ย.) ถึงผลสำรวจความเห็นของชาวอเมริกัน 1,001 คน ช่วงวันที่  23-27 เมษายน ที่จัดทำร่วมกับอิปโซ โพลล์ ซึ่งชี้ว่าวุฒิสมาชิกฮิลลารี คลินตัน หนึ่งในผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต มีคะแนนนิยมร้อยละ 50 หรือสูงกว่าวุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันถึง 9 จุด โดยได้คะแนนเพิ่มมากขึ้นจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ไม่สังกัดพรรคใด รวมทั้งจากคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ

ในส่วนของผลสำรวจคะแนนนิยมภายในพรรคเดโมแครต ปรากฏว่านางฮิลลารีมีคะแนนนิยมตีตื้นจนเท่ากับนายบารัก โอบามา วุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์แล้ว ขณะที่นายโอบามามีคะแนนนิยมไล่เลี่ยกับนายแมคเคน คือร้อยละ 46 และ 44 ตามลำดับ เทียบกับผลสำรวจเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ที่ผู้สมัครทั้ง 2 คนมีคะแนนไล่เลี่ยกับนายแมคเคน

 

นักวิเคราะห์หลายคนแสดงความกังวลว่า คะแนนนิยมที่พลิกไปนี้อาจส่งผลกระทบทางลบในระยะยาว เพราะร้อยละ 30 ของผู้สนับสนุนนางฮิลลารี กับร้อยละ 21 ของผู้สนับสนุนนายโอบามา ให้ความเห็นว่า ถ้าผู้ที่ตัวเองสนับสนุนแพ้ก็จะหันไปเลือกนายแมคเคนเป็นประธานาธิบดี แทนที่จะเลือกผู้สมัครพรรคเดียวกัน ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ผู้หนึ่งมองว่า ปัจจุบันผู้มีสิทธิ์ออกเสียงได้ก้าวข้ามจากขั้น "หลงรัก" ซึ่งเป็นขั้นที่แต่ละคนจะเลือกตัวผู้สมัครที่ชอบมากที่สุด ไปเป็นขั้น "ตัดสินใจ" ซึ่งทุกคนจะตัดสินใจโดยมองว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุด

 

จีนจำคุก17ตัวการประท้วงทิเบต ต้องโทษจำคุก 3 ปีถึงตลอดชีวิต

คมชัดลึก - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานเมื่อวันอังคาร (29 เม.ย.) ว่า ศาลกรุงลาซาได้ตัดสินจำคุกประชาชน 17 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีนในกรุงลาซา ทิเบต เมื่อวันที่ 14 มีนาคม จนเป็นเหตุให้เกิดการนองเลือดตามมา โดยคนเหล่านี้ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ไปจนถึงจำคุกตลอดชีวิต นับเป็นครั้งแรกที่มีการตัดสินโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วง ที่ทำให้รัฐบาลจีนได้รับความอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก เพราะอยู่ในช่วงที่จีนกำลังจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกพอดี

 

กษัตริย์มาเลย์เปิดประชุมรัฐสภาอันวาร์กลับเข้าสภาครั้งแรกในรอบ 10 ปี

คมชัดลึก - สมเด็จพระราชาธิบดีตนกู มิซาน ไซนัล อบิดิน แห่งมาเลเซีย ทรงมีกระแสพระราชดำรัสขณะทรงเปิดประชุมรัฐสภา เมื่อวันอังคาร (29 เม.ย.) เรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทำเพื่อประโยชน์สุขของประเทศ มิใช่ทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง ทั้งยังทรงแสดงความหวังด้วยว่า บรรดา ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ จริงใจ และซื่อสัตย์

 

องค์พระประมุขของมาเลเซียยังทรงเรียกร้องให้ ส.ส.รักษาความสงบสุขทางเชื้อชาติเอาไว้ โดยตรัสว่า หัวใจแห่งความสำเร็จของประเทศ ก็คือ การมีเสถียรภาพทางการเมือง และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางเชื้อชาติ พระองค์จึงทรงขอให้ทุกฝ่ายแบกรับภาระหน้าที่ในอันที่จะรับประกันว่า ทุกเชื้อชาติมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และต่อสู้กับความพยายามใดๆ ที่จะแบ่งแยกประชาชนออกจากกัน

 

การประชุมสภาครั้งนี้ถือเป็นนัดแรกหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งพรรคฝ่ายค้านตบเท้าเข้ามาเป็น ส.ส. มากถึง 82 คน จากทั้งหมด 222 คน จนเป็นเหตุให้พรรคร่วมรัฐบาลที่ปกครองประเทศมานับตั้งแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 2500 ต้องสูญเสียการครอบครองเสียงข้างมากเป็นครั้งแรกในรอบ 51 ปี นอกจากนี้ การประชุมสภาครั้งนี้ยังถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำฝ่ายค้านเป็นผู้หญิง ซึ่งได้แก่ นางวัน อซิซาห์ วัน อิสมาอิล ผู้นำพรรคยุติธรรมเพื่อประชาชน ภรรยาของ นายอันวาร์ อิบรอฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีและขุนคลังผู้อื้อฉาว

 

ในส่วนของตัวนายอันวาร์ซึ่งเพิ่งพ้นโทษเว้นวรรคทางการเมืองเมื่อวันที่ 15 เมษายน ได้เข้าร่วมการประชุมสภาครั้งนี้ด้วย ซึ่งนับเป็นการกลับมาเหยียบรัฐสภาเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีของเขา แต่นายอันวาร์ต้องนั่งในส่วนของประชาชนทั่วไป เพราะไม่ได้มีตำแหน่งเป็น ส.ส. แต่ได้กล่าวว่าการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ทางการเมืองของตัวเองหลังจากที่เผชิญกับความวุ่นวายมาถึง 10 ปี ซึ่งเมื่อได้เข้ามาแล้วก็จะไม่ออกไปอย่างเด็ดขาด