Skip to main content
sharethis

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการร่วมหารือข้อราชการทวิภาคีกับ พล.อ.เต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรีสหภาพพม่า ว่า ทางพม่าทำท่าเหมือนจะเปิดประตู คิดว่าไม่น่าเป็นปัญหา ต่อไปนี้ไม่ได้หมายความว่าจะทำงานร่วมกันระหว่างไทยกับพม่าเฉยๆ แต่จะมีจีน ไทย พม่า และ ลาว ร่วมมือกัน โดยเฉพาะท่าเรือน้ำลึกที่ ทวาย ด้านทิศเหนือเป็นเมืองที่สวยงาม อยากจะเปิดเป็นที่ท่องเที่ยว ด้านทิศใต้จะเป็นท่าเรือน้ำลึก ด้านฝั่งไทยจะสร้างถนน 230 กม. จากชายแดน 20 กม. ก็จะถึงเส้นทางรถไฟของเรา


         


ทั้งนี้ มีทั้งท่อก๊าซที่จะลอดไปมาบตาพุด ในการขนส่งน้ำมัน จริงๆ เป็นความร่วมมือของทั้ง 4 ประเทศ โดยเห็นว่า จีน ซึ่งเป็นประเทศอยู่ในอนุภูมิภาค ซับรีเจนส์ โดยเฉพาะ 2 มณฑล คุนหมิง และกวางสี จาก 40 ล้านบาท เป็น 90 ล้านบาท ขณะที่ทางเวียดนามลงทุน 83 ล้านคน ลาว 7 ล้านคน ไทย 63 ล้านคน และพม่า 53 ล้านคน ความร่วมมือในอนุภูมิภาคนี้ จึงร่วมมือกันใน 4 ประเทศ


 


นายกฯ กล่าวต่อว่า ขณะที่ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ตนจะพบปะกับประธานาธิบดีจีน นายหู จิ่นเทา เพื่อหารือถึงการสร้างทางรถไฟใหม่ โดยจะไม่รื้อของเก่า เส้นทางวิ่งจากคุนมิงไปหลวงพระบาง เวียงจันทน์ และวิ่งลงมาถึงปราจีนบุรี ไปจนถึงกาญจนบุรี เป็นโครงการใหญ่ที่จะไม่รีรอชักช้า


 


ขณะเดียวกันเรื่องเขื่อนที่เหลือ 2 เขื่อน จะดำเนินการลงมือก่อสร้างทันที เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เขื่อนหนึ่งจะผลิตไฟฟ้า 1,300 เมกะวัตต์ อีกส่วนหนึ่ง 7 พันเมกะวัตต์ ซึ่งทางพม่าจะเปิดนิคมอุตสาหกรรม โดยขอความร่วมมือทางไทยให้ผลิตอีก 600 เมกะวัตต์


 


ในทางทิศใต้จะปลูกพืชหลายอย่างทดแทน โดยทางไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงนำพืชเมืองหนาวปลูกทดแทน ในวันที่ 1 พ.ค. นายกรัฐมนตรีพม่าจะไปเยี่ยม ดอยตุง เพื่อนำไปพัฒนาประเทศของเขา


        


 เมื่อถามว่าจะผลักดันเรื่องเขื่อนพลังน้ำให้คืบหน้าอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า ดันทันที เพราะเขาจะยกเลิกเอ็มโอยู ครบ 10 ปี มีปัญหาเพียงอย่างเดียวตรงที่ผู้ก่อการร้ายไปโยนระเบิด เราต้องเปลี่ยนทีมใหม่ พูดจากันเข้าใจกันได้เรียบร้อย ด้านท่าซางกับฮัดยี ที่จะดำเนินการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ จะลงมือทันที ซึ่งใช้เวลาไม่กี่ปี ทุกอย่างเริ่มต้นทันที


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า กระบวนการประชาธิปไตยในพม่าในการออกเสียงประชามติ ได้มีการนำมาหารือหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ได้คุยกันแบบโฟร์อาย เขาลำดับความให้ฟัง ยืนยันให้เห็นว่า เขาก็รักประชาธิปไตย แม้นประชาธิปไตยของเขาจะไม่เต็มใบ ฉะนั้นจึงลงประชามติ ส่วนคนจะเกลียดไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ต้องการเวลา 2 ปี ตั้งพรรคการเมือง ต่อไปทหารจะไม่ยุ่งเกี่ยว กี่พรรคก็แล้วแต่ ภายในเวลา 2 ปี จะมีการเลือกตั้ง เราก็เลยบอกว่า เอาอย่างนี้เดือนธันวาคมมาตั้งวงกันอีกหน เล่าให้ฟังว่า ไปประชุมกัน 6 คน 6 ประเทศ มีจีนด้วย คราวนี้ไทยเป็นประธาน ประชุมกัน 10 คนเลย คนที่ตำหนิติเตียนอีก 9 ประเทศจะได้เข้าใจ เมื่อถามว่า จะมีการหารือถึงข้อเสนอของ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ที่จะให้จีนและอินเดีย เข้าร่วมในการหารือด้วยหรือไม่ นายสมัคร กล่าวยอมรับว่า มี เขาจะมีอาเซียนเพิร์ท 1-3


        


 อย่างไรก็ตาม ไทยยังไม่มีการพูดคุยกับพม่าในเรื่องนี้ แต่จะหารือกันในเดือนก.ค.นี้ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งขณะนี้ประเทศ สิงคโปร์ เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมอยู่


 


เมื่อถามอีกว่า ทางพม่าได้มีการพูดการปลดปล่อย นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน นายสมัคร กล่าวว่า เขาไม่ได้ปล่อยอะไร เขาจะไว้บนหิ้ง เขาบอกว่า ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรเลย ที่คนต่างชาติมายุ่งเรื่องนี้ เราเห็นว่า เขาไว้บนหิ้งไม่เห็นเป็นอะไร เมื่อถามว่า ถ้าหากพรรคฝ่ายค้านพม่าจะมาเล่นการเมืองต่อ นายสมัคร กล่าวว่า กฎหมายเขาเขียนกันไว้แล้ว บอกว่าใครมีสามีต่างชาติ ไม่ให้ลงเลือกตั้ง นี้แหละคือประชาธิปไตยแบบครึ่งใบ


 


จัดฉลองความสัมพันธ์ 60 ปี


นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังต้อนรับนายกรัฐมนตรีพม่า ว่า ได้มีการคุยกันหลายเรื่องและสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องแรงงานพม่า 54 คน ที่เสียชีวิต เราได้แสดงความเสียใจ ทางเราจะได้มีการจัดส่งแรงงานที่เป็นผู้ใหญ่และเด็กที่ถูกจับกุมกลับไปในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ดูการสืบสวนกระบวนการค้ามนุษย์ก็จะส่งกลับไป และเราก็ต้องจัดระเบียบแรงงาน นอกจากนี้ นายกฯได้พูดประเด็นสำคัญคือ เรื่องการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ครบ 60 ปี ในวันที่ 24 ส.ค. ซึ่งเราก็จะมีกิจกรรมดำเนินการหลายเรื่อง ทั้งนี้การเดินทางมาของพล.อ.เต็ง เส่ง สะท้อนให้เห็นถึงจุดสูงสุดความสัมพันธ์ไทย-พม่า ซึ่งไม่เคยดีอย่างนี้มาก่อน โดยเฉพาะ การร่วมมือ ทวาย เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ พม่าจะเซ็นเอ็มโอยู กับไทย และจะเข้า ครม.สัปดาห์หน้า ระยะเวลาเอ็มโอยู 5 ปี ตนคิดว่าจะขยายไปเป็น 10 ปี เพราะว่าการสร้างท่าเรือน้ำลึก ถนน เป็นเวลานาน หลังจากเซ็น จีทูจี เรื่องท่าเรือน้ำลึกทวาย และก็จะเซ็นจีทูจี เรื่องคอนเทคฟาร์มมิ่ง


 


หลังจากพม่าก็จะไปเซ็นกับผู้รับเหมาไทยต่อไป พัฒนาท่าเรือน้ำลึก ปิโตรเคมี ถนน นิคมอุตสาหกรรม เป็นโปรเจกต์ มหาศาลร่วมหลายแสนล้านบาท เป็นความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมทั้งรถไฟรางคู่


         


นายนพดล กล่าวว่า ได้มีการเซ็นความคุ้มครองนักลงทุนเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และให้เปิดด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งพม่าก็จะพิจารณา และขอให้ยกเลิกมาตรการห้ามนำสินค้าเข้า 15 รายการ และนำออก 32 รายการ ซึ่งเป็นประโยชน์ของไทย เราค้าขายแสนล้านบาทเศษ แต่ขาดดุลการค้าเพราะเราซื้อแก๊สหลายหมื่นล้าน นายนพดล ระบุถึงกระบวนการสร้างประชาธิปไตยในพม่าว่า ประเทศไทยอยากจะให้พม่าร่วมมือกับสหประชาชาติ และอยากให้พม่าทำตามโรดแมป ทางสหประชาชาติก็ขอให้ประเทศไทยพูดคุยกันหลายเรื่อง ประเทศไทยเสนอแค่แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำประชามติ แต่เรายังไม่ได้ส่ง กกต.เข้าไป


 


ทั้งนี้ ก็หวังว่าการลงประชามติของพม่าครั้งนี้จะเป็นการลงประชามติต้องน่าเชื่อถือ ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วม และเสรีเป็นธรรมตามเป้าหมายของเขาที่วางไว้


 


"พม่ามีวัฒนธรรมที่ไม่ให้ใครไปชี้นิ้วสั่งเขา ประเทศไทยเป็นประเทศที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้น แต่พม่าอยากจะตัดสินใจอนาคตของเขาเอง เราก็เห็นใจเขา เราจะประเมินหลังอีกครั้งหลัง 10 พ.ค. ว่าการออกเสียงประชามติของเขาเป็นอย่างไร ไทยก็พร้อมที่จะทำงานพม่าต่อไป ซึ่งพม่ามีมุมมองว่าในวันลงประชามติของเขาจะเรียบร้อย และภายในสองปีก็พร้อมที่จะมีการเลือกตั้ง" นายนพดล กล่าว


 


ที่มา : ผู้จัดการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net