Skip to main content
sharethis

พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  ยังคงตกเป็นเป้าความสนใจของสื่อมวลชนในอังกฤษอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน หน้ากีฬาฉบับวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาลงบทความวิเคราะห์วิจารณ์อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยในฐานะเจ้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี ในชื่อเรื่องว่า "How Thaksin turned from savior to sinner in a single season" (ทักษิณเปลี่ยนจากพระผู้ไถ่กลายเป็นคนบาปได้อย่างไรภายในฤดูกาลเดียว) บทความที่เขียนโดยเดวิด คอนน์ เกริ่นหัวเรื่องว่า มาตอนนี้พวกแฟนบอลสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ไม่เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับอดีตของเจ้าของทีมชาวไทยต่างช็อกที่เห็น พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเผด็จการได้ถึงเพียงนี้



 


คอนน์กล่าวว่า เมื่อครั้งที่เจ้าของหุ้นเตรียมจะขายสโมสรให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว ผู้บริหารของแมนฯ ซิตีต่างไม่ใส่ใจต่อความวิตกกังวลที่ว่า สองมือของ พ.ต.ท.ทักษิณที่เข้ามาโอบอุ้มนั้นเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับสโมสรจากเมืองแมนเชสเตอร์แห่งนี้หรือไม่ การค้นหาข้อมูลทางเว็บไซต์กูเกิลน่าจะช่วยให้พวกเขาได้รู้ว่าเจ้าของสโมสรรายนี้ถูกกล่าวหามาเนิ่นนานเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงการวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติด ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย และใช้อำนาจเผด็จการแบบอื่นๆ ระหว่างที่เขามีอำนาจ กระนั้น พ.ต.ท.ทักษิณยังได้รับความนิยมจากคนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนยากคนจนในชนบท กระทั่งเขาถูกกองทัพรัฐประหารโค่นอำนาจเมื่อปี 2549 และกำลังถูกดำเนินคดีฐานคอรัปชั่น รัฐบาลที่กองทัพแต่งตั้งได้อายัดทรัพย์สินของเขาเป็นจำนวน 900ล้านปอนด์ ก่อนหน้าการทำสัญญาซื้อสโมสร ทำให้ที่ปรึกษารายหนึ่งของสโมสรกล่าวว่า แม้ พ.ต.ท.ทักษิณจะมีเงินซื้อสโมสรแน่ๆ ก็จริง แต่ไม่แน่ใจว่าเขาจะมีเงินสำหรับใช้ลงทุนในสโมสรมากเท่าใดหลังจากเป็นเจ้าของแล้ว



 


สโมสรแมนฯ ซิตี ถูกขายให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณด้วยราคา 21.6 ล้านปอนด์เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว โดยที่บรรดาผู้อำนวยการสโมสรหรือสองผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ จอห์น วอร์เดิล และเดวิด มาคิน ที่กู้หนี้ยืมสิน 19.2 ล้านปอนด์มาให้สโมสรในยุคของเควิน คีแกน ผลาญซื้อนักเตะ ต่างไม่นำต่อปัญหากวนใจข้างต้น พ.ต.ท.ทักษิณตกลงจ่ายหนี้จำนวน 17.5 ล้านปอนด์แก่ผู้ถือหุ้นทั้งสอง และซื้อหุ้นด้วยราคาหุ้นละ 40 เพนนี ซึ่งเป็นราคาที่มากกว่ามูลค่าในตลาดขณะนั้น แต่ก็ทำให้บรรดาผู้ถือหุ้นเดิมของสโมสรตั้งแต่ปี 2542 ขาดทุนกันระนาว จากที่พวกเขาเคยถูกขอให้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนหุ้นละ 90 เพนนีเมื่อครั้งที่สโมสรเพิ่งเลื่อนชั้นจากดิวิชั่นสาม



 


ปีที่แล้ว แม้แมนฯ ซิตีได้กลับขึ้นมาอยู่ในพรีเมียร์ลีก แต่สโมสรยังคงขาดทุนอยู่ 11 ล้านปอนด์ และเป็นหนี้ถึง 68 ล้านปอนด์ ผลงานที่ย่ำแย่ภายใต้การทำทีมของสจวร์ต เพียร์ซ ทำให้ยอดขายตั๋วปีของสโมสรลดฮวบ สโมสรแห่งนี้จึงถูกขายด้วยราคาแสนถูกหรือแค่  1 ส่วนใน 40 ส่วนของเงินที่ตระกูลเกลเซอร์ทุ่มซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมเมือง ด้วยราคา 800 ล้านปอนด์



 


แฟนซิตีส่วนใหญ่บอกว่าพวกตนไม่สนใจพื้นเพหรือประวัติของทักษิณในเมืองไทยเลยแม้แต่น้อย และมีจำนวนเพียงเล็กน้อยที่คัดค้านการซื้อสโมสร ผู้บริหารสโมสรคำนวณได้แม่นยำว่า แฟนบอลสนใจก็แต่การได้เห็นทีมมีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้น และช่วง 3 สัปดาห์แรกก็ช่วยให้พวกเขาชนะใจแฟนบอลได้ด้วยการแต่งตั้งสเวน โกรัน อีริกส์สัน เป็นจัดการทีม และตามด้วยการเซ็นสัญญาซื้อผู้เล่นหลายราย ทั้ง มาร์ติน  เปตอรฟ, เวดรัน ชอร์ลูกา, โรลันโด เบียงคี, เกลสัน เ ฟร์นันเดส, ฮาเวียร์ การ์ริโด, วาเลรี  โบคินอฟ และเอลาโน ดาวเตะชาวบราซิลที่ทำให้ทีมสร้างผลงานได้ดีช่วงต้นฤดูกาล



 


หลังจากซื้อสโมสร พ.ต.ท.ทักษิณได้แสดงน้ำใจด้วยการจัดเลี้ยงบุฟเฟต์แบบไทยและจัดการแสดงสร้างความบันเทิงแก่แฟนบอล 9,000 คนที่ด้านหน้าศาลาประชาคมของเมือง ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น คลิป 2  คลิปแรกเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ถูกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ YouTube คลิปแรกเป็นภาพเขาร้องเพลงบลูมูน และอีกคลิปเป็นภาพข่าวการชุมนุมต่อต้านทักษิณในกรุงเทพฯ ก่อนเกิดรัฐประหาร อย่างไรก็ดี ในสายตาแฟนบอลซิตี การขับเคี่ยวกับแมนฯ ยูไนเต็ด อยู่เหนือกว่าความวิตกกังวลอื่นใด และอีริกส์สันกับทักษิณยังครองใจแฟนบอลได้เหนียวแน่นขึ้นเมื่อทีมเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดได้เป็นครั้งที่สองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และเป็นการชนะยูไนเต็ดทั้งเหย้า-เยือนครั้งแรกในรอบ 38 ปี หลังชัยชนะ 2-1 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด แฟนบอลได้พบว่าพวกตนอยู่กันลำพังบนอัฒจันทร์โดยที่ครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณนั่งอยู่ที่บ็อกซ์ของผู้บริหาร และพากันร้องประสานเสียง "แฟรงก์ ซิเนตรา มีเพียงคนเดียวเท่านั้น" โดยพาดพิงถึงชื่อเล่นที่แฟนบอลเรียกขาน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร



 


แต่เหมือนถูกคำสาปเล่นงาน ฤดูกาลนี้ที่พวกเขาชนะยูไนเต็ดได้ถึง 2 นัดกลับจบลงที่ยูไนเต็ดได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกและยังได้เข้าชิงถ้วยแชมเปียนส์ลีก แต่ซิตีกลับพ่ายแพ้ต่อมิดเดิลสโบรห์ถึง 8-1 กลายเป็นปัญหาขัดขวางความพยายามของแฟนบอลที่ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณปลดอีริกส์สัน



 


ตอนนี้บรรดาแฟนบอลที่ไม่สนใจจะทำความคุ้นเคยกับลักษณะนิสัยของ พ.ต.ท.ทักษิณรู้สึกช็อก สยดสยอง ที่พบว่าเขามีความเป็นเผด็จการน้อยๆ ในการปฏิบัติต่อผู้จัดการทีมของพวกเขา สำหรับแฟนบอลที่ต้องการคำอธิบายว่าเหตุใดการหารือระหว่างทั้งคู่ที่โรงแรมเรดิสสันเอ็นวาร์เดียนในแมนเชสเตอร์เมื่อเดือนที่แล้วจึงดูเหมือนจะเป็นจุดสิ้นสุด คำตอบมีอยู่ง่ายๆ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณคาดหวังให้ทีมทำผลงานได้ดีกว่านี้



 ที่ปรึกษาคนหนึ่งที่ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เจ้าของทีมไม่ได้ตอบโต้อีริกส์สันด้วยดีนัก ขณะที่คนอื่นๆ แนะนำ พ.ต.ท.ทักษิณว่า แม้ฟอร์มของทีมจะตกต่ำนับแต่เดือนมกราคม แต่โดยรวมซิตีได้แสดงให้เห็นความก้าวหน้าอย่างมากของทีมทั้งที่ขาดผู้เล่นคนสำคัญหลายคนจากอาการบาดเจ็บ แต่ยังไม่มีใครสามารถชักจูงใจ พ.ต.ท.ทักษิณที่ว่ากันว่าโกรธเป็นฟืนไฟหลังจากเห็นทีมพ่ายต่อฟูแลม 3-2 ทั้งที่ทำประตูขึ้น 2-0 เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ทั้งที่อัตราต่อรองนั้นซิตีเป็นต่อถึง 400-1



 


ในเมืองไทย มีรายงานกันว่าระบอบการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นเขาต้องการให้ทีมงานระดับอาวุโสต้องแสดงผลงานที่ดี เรียกร้องให้มีการปรับปรุงอย่างฉับไว และเขาปลดรัฐมนตรีไปหลายรายหลังจากเพิ่งทำงานได้ไม่นานแหล่งข่าวในสโมสรรายหนึ่งกล่าวว่า ที่จริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้สโมสรประสบความสำเร็จและพวกผู้อำนวยการชาวไทยที่ได้รับแต่งตั้งมาก็มีความจริงจังและอยากเรียนรู้ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณรู้น้อยมากเกี่ยวกับฟุตบอล โดยเชื่อว่าสามารถปลดผู้จัดการทีมคนหนึ่งได้ง่ายดายและจะหาคนมาแทนได้โดยเร็ว



 


พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เข้าชมเกมของซิตีครบทุกเกม เพราะเขาวุ่นกับการสู้คดีคอรัปชั่น 2 คดีที่เขาถูกฟ้อง และยุ่งกับการช่วยให้พรรคพีพีพี (พลังประชาชน) ชนะการเลือกตั้ง การเป็นเจ้าของสโมสรแมนฯ ซิตี สำหรับเมืองไทยที่มีเกมถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกเกลื่อนจอ ถือเป็นเครื่องมืออันหาค่ามิได้ซึ่งช่วยให้ภาพของเขาปรากฏสู่สายตาสาธารณะและว่ากันว่าการประชุมครั้งสุดท้าย ที่อีริกส์สันจะได้รู้ชะตากรรมของตนเองนั้น จะมีขึ้นระหว่างที่ซิตีมาทัวร์ที่เมืองไทย



 


เข้าใจกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้บอกต่อบรรดาที่ปรึกษาของเขาว่า โฮเซ มูรินโญ คือตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่เขาอยากให้ทำทีม ส่วนหลุยส์ ฟิลิเป สโคลารี ที่เคยทำทีมคว้าแชมป์โลกมาแล้ว อาจรับพิจารณาซิตีเป็นตัวเลือกแรกเมื่อเขาเสร็จสิ้นการคุมทีมชาติโปรตุเกสสู้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป



นอกเหนือจากการเมืองและธุรกิจในไทยที่คำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณใกล้เคียงกับเผด็จการ พ.ต.ท.ทักษิณจะได้พบว่า ในโลกของฟุตบอลที่กว้างใหญ่กว่า การเจรจากับพวกผู้จัดการทีม และการได้ชื่อเสียงว่าเป็นผู้ปลดอีริกส์สัน อาจไม่ใช่ลางที่ดีสำหรับการมองหาคนมาแทนอีริกส์สัน นอกจากนี้ยังไม่มีความชัดเจนด้วยว่าผู้จัดการทีมคนใหม่จะมีเงินไว้ใช้จ่ายเท่าไร



 


พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่คุณพ่อใจดีแบบโรมัน อบราโมวิช อย่างที่แฟนซิตีหวังว่าเขาจะเป็นเมื่อพวกเขาตอบรับ "แฟรงก์" มาเป็นเจ้าของสโมสรโดยมีคำถามเพียงไม่กี่ข้อ คาดกันว่าการทบทวนผลงานช่วงปิดฤดูกาลจะรวมถึงการแต่งตั้งประธานบริหารคนใหม่ ซึ่งมีรายงานว่าคือ แกร์รี คุก จากไนกี คุมแทนหัวหน้าคณะบริหาร อลิสแตร์ แม็กอินทอฟ เพื่อสร้าง "แบรนด์" ซิตีไปทั่วโลก แต่งานแรกของคุกน่าจะเป็นงานพื้นๆ เช่น การคุ้ยโลกเพื่อค้นหาผู้จัดการทีมคนใหม่เสียมากกว่า



 


บทความได้ขุดคุ้ยค่าใช้จ่ายที่ซุกซ่อนไว้ โดยระบุว่าการเข้ามาซื้อแมนฯ ซิตีของ พ.ต.ท.ทักษิณเริ่มต้นด้วยการเซ็นสัญญาซื้อนักเตะ 7 ราย  มีมูลค่ารวม 50.6 ล้านปอนด์ แต่เข้าใจกันว่าข้อตกลงเหล่านี้จะเป็นแบบผ่อนชำระ จึงยังไม่ชัดเจนว่าแท้จริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณได้ทุ่มเงินของเขาแก่สโมสรไปแล้วเท่าใด เงิน 21.6 ล้านปอนด์ค่าสโมสรนั้นชำระไปแล้ว ส่วนหนี้ของวอร์เดิลและมาคิน 19.2 ล้านปอนด์ บริษัท ยูเคสปอร์ตส์อินเวสต์เมนต์สของ พ.ต.ท.ทักษิณรับเป็นภาระ


 


อย่างไรก็ตาม จนกว่าซิตีจะเปิดเผยตัวเลขบัญชีสโมสรครั้งต่อไปในเดือน ม.ค. 2552 จะยังไม่มีการประกาศฐานะการเงินของสโมสร  ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ใช้เงินของเขาเองหรือไม่ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวกับผู้สื่อข่าวในฮ่องกงว่า การบริหารซิตีมี  "ราคาแพงมาก" และว่าเขากำลังจะต้องแปลงสินทรัพย์เป็นทุน



 


น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยว่า สำหรับภารกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณในช่วงนี้ที่กลับมาอยู่ในประเทศไทย ในวันที่ 16 พฤษภาคม จะเป็นประธานเปิดร้านขายของที่ระลึกของสโมสรฟุตบอลแมนฯ ซิตี ที่บริเวณชั้น 2 อาคารชินวัตร 3 โดยคาดว่าจะมีผู้จัดการทีมคือ นายสเวน โกรัน อีริกส์สัน และบรรดานักฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลแมนฯ ซิตี มาร่วมงาน จากนั้นในวันที่ 17 พฤษภาคม จะไปชมการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสโมสรฟุตบอลแมนฯ ซิตีกับทีมรวมดาราไทยลีก ที่สนามฟุตบอลราชมังคลากีฬาสถาน


 


ที่มา : ไทยโพสต์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net