Skip to main content
sharethis


กลุ่มต้านพันธมิตรฯ รวมตัวเคลื่อนจากสนามหลวงประชิดพันธมิตรฯ

เวลา 20.00 น. กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ นำโดย นพ.เหวง โตจิรากร นายวิภูแถลง พัฒนาภูมิไทย นายชินวัตร หาบุญพาด นายสิน ราศี นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ ดร.เมธาพันธุ์ โพธิธีระโรจน์ พร้อมผู้ชุมนุมประมาณ 1,200 คน เดินทางจากสนามหลวง เข้าสู่ ถ.ราชดำเนิน เพื่อไปยังสี่แยก จปร. ใกล้ที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ เพื่อเปิดปราศรัย โดยขบวนของฝ่ายต่อต้านพันธมิตรฯ มีรถจักรยานยนต์นำหน้าประมาณ 100 คัน รถ 6 ล้อพร้อมเครื่องกระจายเสียง 2 คัน ด้านหน้ามีป้ายผ้าสีแดงเขียนว่า "เอารัฐธรรมนูญ"40 คืนมา" โดยแกนนำกล่าวปราศรัยบนรถนำขบวนว่าการชุมนุมวันนี้เพื่อต่อต้านการใช้อำนาจนอกระบบ และคัดค้านการรัฐประหาร


 


นพ.เหวง กล่าวระหว่างการเคลื่อนขบวนเตือนให้ผู้ชุมนุมไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ไปเกะกะระรานฝ่ายพันธมิตรฯและบอกผู้ชุมนุมให้เห็นว่าผู้ชุมนุมฝ่ายพันธมิตรฯ คือมิตร วันนี้มาต่อต้านแกนนำพันธมิตร 6 คนเท่านั้น โดยขณะนี้จนถึงเวลา 00.30 น. ของอีกวันหนึ่ง ฝ่ายต่อต้านก็ยังชุมนุมอยู่ด้านหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใกล้กับแยก จปร. โดยห่างจากที่ชุมนุมของฝ่ายพันธมิตรฯ ซึ่งอยู่อีกฝั่งของแยก จปร. ราว 80 เมตร โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแถว 2 แถวกั้นทั้ง 2 ฝ่าย


 


 


ทีวีรายงานสถานการณ์เป็นระยะ


สำหรับการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์นั้น นายอาธิต พันธุ์ปิยะสิริ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย โทรศัพท์รายงานสถานการณ์ชุมนุม เข้าไปในรายการข่าวข้นคนข่าว ในเวลา 21.30 น. และรายการตาสว่าง ในเวลา 11.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นนายน์ทีวี โดยนายอาธิตเรียกผู้ชุมนุมต้านพันธมิตรฯ ที่อยู่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า "คือกลุ่ม นปก." ซึ่งมีวัตถุประสงค์การชุมนุมคือ "ขัดขวางไม่ให้พันธมิตรฯ ไปทำเนียบรัฐบาล" โดยนายอาธิตยังรายงานว่าเกิดการกระทบกระทั่งกับผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ที่นำรถยนต์มาจอดบริเวณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์


 


ขณะที่ในช่วงข่าวภาคดึกเวลา 11.30 น. สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสแพร่ภาพผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านพันธมิตรรายหนึ่งขว้างขวดน้ำใส่กล้องของผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสจนไฟหน้ากล้องได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังแพร่ภาพฝ่ายรักษาความปลอดภัยหรือการ์ดของพันธมิตรรายหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเนื่องจากพกอาวุธ แต่ถูกผู้ชุมนุมของพันธมิตรคนอื่นๆ พากันรุมแย่งตัวคืนจากตำรวจ


 


โดยเวลาประมาณ 11.40 น. น.ส.ธัญญธร สารสิทธิ์ รายงานเข้าไปในสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบกับผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายน้อยมากและมีจำนวนไม่พอ และยังรายงานว่าฝ่ายต่อต้านพันธมิตรที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นได้ขนอาวุธเข้ามาแล้ว อย่างไรก็ตาม น.ส.ธัญญธรอ้างว่ารายงานอยู่ภายนอกที่ชุมนุมของฝ่ายต่อต้านโดยไม่สามารถเข้าไปรายงานด้านในพื้นที่ชุมนุมได้ โดยตำรวจห้ามไว้เพราะเกรงว่านักข่าวจะถูกทำร้าย น.ส.ธัญญธร ยังรายงานอีกว่าผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสไม่ติดโลโก้ที่เสื้อและอุปกรณ์ระหว่างการรายงานข่าวได้ เพราะที่ผ่านมาถูกทำร้าย


 


 


"อมร" ประณาม "เหวง" ทรยศ พคท. ไม่มีอุดมการณ์ ลั่นขอเป็นศัตรูตลอด


ขณะที่ในเวลา 00.00 น. เศษของวันที่ 20 มิ.ย. บนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เชิงสะพานมัฆวาน นายอมร อมรรัตนานนท์ แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งอดีตเคยเป็นเลขาธิการศูนย์กลางนักเรียนแห่งประเทศไทย ปี 2519 และหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ได้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ที่เขตงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ปราศรัยโจมตี นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำฝ่ายต่อต้านพันธมิตรฯ ซึ่งอดีตเป็นนายกสหพันธ์นักศึกษามหิดล ปี 2517 ก่อนที่ในปี 2518 จะเข้าร่วมกับ พคท. เคลื่อนไหวในเขตเทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร


 


นายอมร ปราศรัยว่า นพ.เหวง มีพฤติกรรมพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เป็นคนหนักแผ่นดิน เป็นคนเนรคุณพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยซึ่งตัวเขาเคยเข้าร่วมด้วย โดยนายอมรกล่าวว่า นพ.เหวง ได้ออกจากป่ามาเขียนหนังสือโจมตีพรรคเพราะไม่พอใจที่ไม่ได้รับเลือกเป็นกรรมการกลาง พคท. นายอมรกล่าวว่าต่อนี้ไปขอเป็นศัตรูกันไปตลอด นพ.เหวงไปบัญชาการนักเลงอันธพาล พวกรับจ้างไม่มีอุดมการณ์ได้อย่างไร และนายอมรยังกล่าวว่า "ถ้าไม่ถอย มีเรื่อง"


 


นายสำราญ รอดเพชร กล่าวว่าหมอเหวงเคยมาด่า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พันธมิตรฯ ฟังเมื่อปี 2549 ก่อนที่จะไปร่วมกับ นปก. โดยบนเวทีได้มีการนำเทปที่ นพ.เหวงเคยปราศรัยต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ "ทักษิณขายชาติ" บนเวทีพันธมิตรฯ ก่อนที่จะไปเป็นแกนนำ นปก. และปราศรัยว่า "ผมรักทักษิณ" มาเปิดให้ผู้ชุมนุมชมและมีการโห่ นพ.เหวงเป็นระยะ ระหว่างเปิดเทปดังกล่าวด้วย


 


 


คนประมูลผลงานกวีซีไรต์ 4.1 ล้าน เอาเข้า ASTV ครึ่ง พันธมิตรฯ ครึ่ง


ต่อมาบนเวทีมีการประกาศว่าการประมูลงานศิลปะของนายอังคาร กัลยาณพงศ์ กวีซีไรต์ สิ้นสุดแล้ว โดยมีผู้ประมูลในราคา 4 ล้าน 1 แสนบาท เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของนายอังคาร จะมีการบริจาคให้ ASTV ครึ่งหนึ่ง และบริจาคให้กับการชุมนุมของพันธมิตรฯ อีกครึ่งหนึ่ง


 


 


อดีตสหายครวญเพลงปฏิวัติ ชูแนวทางต้านทุนสามานย์-เทิดทูนสถาบัน


ในเวลา 00.14 น. นายอมร อมรรัตนานนท์ แกนนำพันธมิตรฯ ปราศรัยต่อว่าพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ภัยร้ายคุกคามประเทศคือระบบทุนนิยมสามานย์ พวกเราอดีตสหาย วันนี้พร้อมจะจับมือพี่น้องประชาชนไทยทั้งประเทศ ก่อนที่จะเชิญชวนให้เครือข่ายพิทักษ์เจตนารมย์เดือนตุลา ซึ่งประกอบไปด้วยอดีตผู้เคยเข้าร่วมกับ พคท. ขึ้นมาบนเวที เพื่อประกาศเจตนารมณ์เคียงข้างประชาชน โดยระหว่างการเดินขึ้นเวทีของอดีตสหาย พคท. ได้มีการเปิดเพลง "มหาประชาชน" ซึ่งเป็นเพลงที่ประพันธ์โดยท่านกุหลาบ สายประดิษฐ์ นักหนังสือพิมพ์คนสำคัญ และต่อมากลายเป็นเพลงปฏิวัติของ พคท. โดยใจความสำคัญของแถลงการณ์โดยอดีตสหาย พคท. คือ ต่อต้านระบอบทักษิณอันเป็นทุนนิยมสามานย์ที่เข้ามาแย่งชิงทรัพยากรชาติไปปรนเปรอพวกตนเอง สร้างความแตกแยกในประเทศ อาศัยเงินซื้ออำนาจรัฐ ใช้อำนาจรัฐออกกฎหมายช่วงชิงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นของตนเอง


 


และหลังการอ่านแถลงการณ์ของเครือข่ายพิทักษ์เจตนารมย์เดือนตุลา ดังกล่าว บนเวทีพันธมิตรฯ ได้มีการเปิดเพลง ทหารประชาชน ซึ่งเป็นเพลงปฏิวัติของ พคท. ก่อนที่จะมีการตะโกนคำขวัญ "การต่อสู้ของประชาชนจงเจริญ จงเจริญ จงเจริญ รัฐบาลนอมินีจงพินาศ จงพินาศ จงพินาศ" โดยหลังจากการอ่านแถลงการณ์ของเครือข่ายดังกล่าว นายอมรได้ชี้แจงให้ผู้ชุมนุมว่าอดีตผู้เข้าร่วม พคท. กลุ่มนี้เป็นผู้รักชาติเหมือนกันต้องการมาขับไล่รัฐบาล และเทิดทูนสถาบันหลักอันเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติเช่นกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net