Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


"แม้ว-อ้อ" จองตั๋วกลับไทย 10 ส.ค.นี้ กลบกระแสข่าวลี้ภัย เตรียมขอศาลฯบินไปอังกฤษอีก


มติชนออนไลน์- "การบินไทย" ยัน "แม้ว-อ้อ" จองตั๋วบินจากจีนกลับไทย 10 ส.ค.นี้ เตรียมรายงานตัวต่อศาลฎีกาฯพร้อมยื่นขออนุญาตเดินทางไปอังกฤษอีกครั้ง อ้างต้องไปดูแล "แมนฯซิตี้" ที่จะเริ่มเตะฤดูกาลใหม่ "เลี้ยบ" เองยังไม่รู้กลับไม่กลับ


 


เผย "สมัคร" สั่งหาบ้านใหม่สำรอง พปช.ส่อถูกยุบ


เว็บไซต์เดลินิวส์ - วันนี้ (8 ส.ค.) นายสมาน เลิศวงศ์รัฐ กรรมการบริหารพรรคและนายทะเบียนพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมหาพรรคการเมืองใหม่ ว่า เรื่องนี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคได้ย้ำถึงการดำเนินการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ให้กับคณะทำงานและฝ่ายสำนักทะเบียนพรรคว่า อะไรที่สามารถทำได้ เพื่อรักษาความเป็นพรรคการเมืองภายในกรอบของกฎหมายและขอให้รีบดำเนิน เพราะตอนนี้เขากำลังจะเผาบ้านเราอยู่ จะต้องรีบหาบ้านหลังใหม่ โดยพรรคได้ประเมินจากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เรียก นายสมัคร และนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค เข้าชี้แจงในวันที่ 13 ส.ค.นี้ และทราบว่าจะไม่ให้เลื่อนหรือขยายเวลาออกไปอีก ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างให้จัดการกับพรรคพลังประชาชน และที่ผ่านมาได้วิเคราะห์และประเมินจากหลายฝ่าย ต่างเห็นตรงกันว่า พรรคพลังประชาชนจะถูกยุบพรรคอย่างแน่นอน


 



"ในฐานะที่พรรคพลังประชาชน เป็นสถาบันการเมือง ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.จากประชาชนให้เข้ามาทำงาน จะอยู่เฉยไม่ได้ แม้พรรคจะอยู่ระหว่างการพิจารณากรณียุบพรรค ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนของ กกต.อัยการสูงสุด และศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะต้องใช้เวลาอีก 5-6 เดือนก็ตาม แต่ขณะนี้ได้จัดเตรียมพรรครองรับไว้แล้ว 2-3 พรรค เพียงแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อหรือรายละเอียดได้" นายสมาน ย้ำ


 



นายสมาน กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า พรรคที่ได้เตรียมสำรองไว้นั้น ได้ทำถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งการจัดตั้งสาขาพรรค สมาชิกพรรคและที่ทำการพรรค ดังนั้น ทุกอย่างต้องทำให้พร้อม หากมีการตัดสินประกาศยุบพรรคแน่นอน หรือมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้น เช่น นายสมัคร ประกาศยุบสภา หรือด้วยเหตุอื่นใด จะสามารถถ่ายเทสมาชิกพรรคไปอยู่ได้ทันที โดยในส่วนของหัวหน้าพรรคนั้น เชื่อว่าบุคคลในพรรคพลังประชาชน มีความเหมาะสมพร้อมที่จะเป็นหัวหน้าพรรคได้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อ เนื่องจากเกรงจะถูกขัดขวางสกัดกั้นได้


 


รัฐบาลเสียหน้า สภาเบรก3วาระ กฎบัตรอาเซียน


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองการดำเนินงานของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 36 คน พิจารณา 7 วัน หลังรัฐบาลขอพิจารณา 3 วาระรวด


 



ผู้พิพากษาชี้ทักษิณ-พจมานเสี่ยงถูกหมายจับไม่รายงานตัว


เว็บไซต์คมชัดลึก - จากที่มีกระแสข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จำเลยที่ 1-2 คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก อาจขอลี้ภัยยังต่างประเทศ และอาจไม่เข้ารายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันที่ 11 ส.ค.นี้ ตามที่ศาลกำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตให้ทั้งสองเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งมีข้อสงสัยตามมาว่ากระบวนการพิจารณาคดีจะต้องหยุดชะงักไปหรือไม่


 



เมื่อวันที่ 8 ส.ค.51 แหล่งข่าวผู้พิพากษา กล่าวว่า หากทั้งสองคนไม่เดินทางกลับมารายงานตัวต่อองค์คณะ ฯ ตามกำหนดนัด องค์คณะ ฯ อาจจะใช้ดุลพินิจมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสองมาดำเนินคดี และสั่งปรับนายประกัน ขณะที่องค์คณะฯ สามารถดำเนินกระบวนการพิจารณาไต่สวนพยานและพิพากษาคดีได้ ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ พ.ศ.2543 ข้อ 10 ที่ระบุว่า ศาลมีอำนาจพิจารณาและไต่สวนพยานหลักฐานลับหลังจำเลยได้ ซึ่งแม้ว่าจำเลยจะหลบหนีไปแล้วแต่ยังมีทนายความจำเลยทำหน้าที่แก้ต่างคดีให้อยู่ โดยทนายความอาจนำพยานจำเลยปากอื่นเข้าให้องค์คณะไต่สวนได้


 



 "ที่จริงแล้วคำให้การจำเลยไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับคดีมากนัก เพราะคดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธมาตั้งแต่ต้น ที่สำคัญอยู่ที่พยานหลักฐานและเอกสารที่ใช้นำสืบข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่ถูกฟ้องหรือไม่ต่างหาก" แหล่งข่าวผู้พิพากษากล่าว


 



18 ส.ค.ที่หัวหิน ไทยถกกัมพูชากรณีพิพาทอีก


เว็บไซต์เดลินิวส์ - กระทรวงต่างประเทศ เผยกำหนดการหารือไทย-เขมร กรณีพื้นที่พิพาทอีกครั้ง 18 ส.ค. ที่หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ยันจะทำหน้าที่รักษาดินแดนประเทศดีที่สุด ไม่หวั่นรมต.เขมรทำงานด้านชายแดนมานานกว่า 10 ปี ด้านกรมศิลปากร นำทัพสื่อมวลชนไทยลงพื้นที่บริเวณองค์ประกอบปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทสด๊อกก๊อกธม 8-10 ส.ค.นี้ ส่วน กมธ.กิจการชายแดนไทย ขอลงพื้นที่บริเวณพิพาทด้วย ส่วนร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองกฎบัตรอาเซียน ที่รัฐจะเสนอผ่าน 3 วาระรวด โดนเบรก สภาพพร้อมใจรับหลักการในวาระแรกเท่านั้น



 



เศรษฐกิจ


 


"สันติ" ฟุ้งแอร์พอร์ตลิงค์เสร็จสิ้นปี


บ้านเมือง - นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงค์ ว่าโครงการดังกล่าวขณะนี้มีความคืบหน้าในภาพรวมกว่า 90% โดยจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 51 และขั้นตอนต่อจากนั้นจะมีการทดสอบระบบ 6 เดือน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเปิดใช้บริการ คาดว่า ทั้งระบบจะมีความพร้อมสามารถเปิดให้บริการผู้โดยสารได้ภายในเดือนมิถุนายน 2552 สำหรับมูลค่าโครงการ 3 หมื่นล้านบาท


 


จับเข่าคุย "สมัคร" อาทิตย์หน้า "ไชยา" มั่นใจได้ข้าวคืนอ้อมอก


บ้านเมือง - นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 11 ส.ค.นี้ จะเข้าพบนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หารือถึงการขอเรื่องข้าวมาให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลเองทั้งหมด เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และต้องการให้นายกรัฐมนตรียุบรวม 3 คณะกรรมการข้าวให้เป็นคณะกรรมการเดียว โดยมีตน หรือคนในกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ซึ่ง 3 คณะกรรมการดังกล่าว ได้แก่ คณะกรรมการรับจำนำ มีนายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นประธาน คณะกรรมการการแปรสภาพและจัดเก็บข้าว มีนายสุทัศน์ สุทันกิตระ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และคณะกรรมการจัดจำหน่ายและระบายข้าว มีนายนที เปรมรัศมี รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน แต่ยังคงคณะกรรมการบริหารจัดการข้าวครบวงจร ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานไว้เหมือนเดิม


 


พลังงาน


 


ปิดฉากถก รมว.พลังงานอาเซียน ไทยเสนอตัวฮับเอทานอล


บ้านเมือง - พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงานการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 26 ว่า การประชุมครั้งนี้แบ่งการประชุมออกเป็น 3 ระดับ คือ 1.การประชุมอาเซียนบวก 6 ที่มีอินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เข้าร่วม ทั้งการขายและการผลิต ส่วนอินเดียได้เสนอเรื่องพลังงานชีวภาพ ซึ่งไทยจะพยายามผลักดันให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางเชื้อเพลิงชีวภาพ (ฮับ) ซึ่งไทยมีศักยภาพการผลิตเอทานอล


 


2.การประชุมอาเซียนบวก 3 ที่มีญี่ปุ่น จีน และเกาหลีเข้าร่วม จะเสนอเรื่องสต๊อกน้ำมันร่วมกัน รวมถึงพลังงานนิวเคลียร์ในภูมิภาค ส่วนเกาหลีก็ได้เสนอเรื่องพลังงานสะอาด 3.การประชุมระดับรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน เป็นการรายงานความคืบหน้าจากการประชุมครั้งที่แล้วที่สิงคโปร์ เช่น เรื่องปิโตรเลียม การเชื่อมโยงการวางระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เน้นทำแผนเก็บสต๊อกน้ำมันเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรอง


 


นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการประชุมอาเซียน กล่าวว่า กลุ่มประเทศอาเซียนมีความแข็งแกร่งด้านพลังงาน เชื่อว่าทุกฝ่ายคงอยากเห็นความร่วมมือในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการสำรองน้ำ มันร่วมกัน จะช่วยสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนได้ นอกจากนี้หากสามารถพัฒนาเขตอุตสาหกรรมในภาคใต้ของไทย (เซาเทิร์นซีบอร์ด) จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมพลังงานของไทยมากขึ้น


 


นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ให้ประเทศไทยใช้เวทีนี้ ทำตลาดเอทานอล โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ใช้วันละ 40 ล้านลิตร และญี่ปุ่นใช้วันละ 80-100 ล้านลิตร หากใช้เพิ่มอีก 1-3% จะเพิ่มการส่งออกเอทานอลล้นตลาด เพราะขณะนี้ไทยมีการผลิตเอทานอล 1.5 ล้านลิตร/วัน และจะเพิ่มกำลังเป็น 2.5 ล้านลิตร/วันในปลายปีนี้ สวนทางกับที่ไทยใช้เพียง 0.8-0.9 ล้านลิตร/วัน


 


ลาวขอขึ้นค่าไฟ4โครงการ เหตุค่าก่อสร้างพุ่ง


ผู้จัดการรายวัน/เว็บไซต์ข่าวสด - นายไสปะเสิด พิมสุพา อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาพลังงาน กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ สปป.ลาว เปิดเผยในงานประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ครั้งที่ 26 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ว่า ได้ส่งหนังสือมายังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อขอปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าใน 4 โครงการที่จะขายให้ไทย คือ โครงการน้ำเงี้ยบ น้ำเทิน 1 น้ำงึม 3 และน้ำอู


 


เนื่องจากค่าก่อสร้างปรับขึ้นมาก 25-30% และขณะนี้ต้องเลื่อนการจ่ายไฟฟ้าให้ไทยออกไปอีก 1 ปี ทั้งนี้ภาพรวมค่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ 7 เซ็นต์/หน่วย จากก่อนหน้านี้ตกลงค่าไฟฟ้ากับ กฟผ.ไว้ที่ 5.3-6 เซ็นต์/หน่วย หากต้องปรับขึ้นตามราคาที่แท้จริงจะอยู่ที่ 8 เซ็นต์/หน่วย แต่มีการช่วยเจรจากับผู้ลงทุนโดยเสนอสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีจึงสามารถกำหนดราคาใหม่ให้ต่ำกว่าความเป็นจริงได้ หากไม่เจรจาค่าไฟฟ้าใหม่ เอกชนคงไม่สามารถก่อสร้างได้เพราะขาดทุน



นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการกฟผ. กล่าวว่า ยอมรับว่าค่าก่อสร้างมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 25-30% จริง ซึ่งจะต้องมีการทบทวนราคาซื้อขายไฟฟ้ากันใหม่ โดยจะพยายามกำหนดราคาให้เหมาะสมที่สุด



 


คุณภาพชีวิต


 


แพทยสภาเผยข้อมูล รพ.อำเภอ 30 แห่งมีหมอคนเดียว


สำนักข่าวไทย - 8 ส.ค. นอ.(พิเศษ) นพ.อิทธพร คณะเจริญ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา กล่าวในการสัมมนาเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถึงสถานการณ์ขาดแคลนแพทย์ในภาพรวมของประเทศไทยว่า จากรายงานของ สธ.เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาล (รพ.) ชุมชนขนาด 30 เตียงในอำเภอต่างๆ ถึง 30 แห่ง ที่มีแพทย์ประจำอยู่เพียง 1 คน ซึ่งตามหลักเกณฑ์แล้วจะต้องมีแพทย์ประจำ 2-4 คน


 


ประกอบด้วย รพ.บ้านหลวง รพ.นาหมื่น รพ.บ่อเกลือ รพ.สองแคว และรพ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน รพ.แหลมงอบ รพ.เกาะกูด จ.ตราด รพ.เอราวัณ รพ.นาด้วง จ.เลย รพ.สหัสขันธ์ รพ.นามน จ.กาฬสินธุ์ รพ.เขาย้อย รพ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี รพ.แก่งหางแมว รพ.เขาสุกิม จ.จันทบุรี รพ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด รพ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ รพ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม รพ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม รพ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ รพ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี รพ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา รพ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี รพ.ห้วยเกิ้ง จ.อุดรธานี รพ.นาแห้ว จ.เลย รพ.บ้านตาขุด จ.สุราษฎร์ธานี รพ.ระอุ่น จ.ระนอง รพ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช และรพ.ลันตา จ.กระบี่ นอกจากนี้ ยังมี 1 รพ.ชุมชนที่ไม่มีแพทย์ประจำอยู่เลย คือ รพ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ


 


สตช.เตรียมประกาศผลสอบเข้าตำรวจพบทุจริตนับร้อยราย


เว็บไซต์สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 51 พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองโฆษก สตช.กล่าวว่า หลักสูตรการรับสมัครสอบแข่งขันบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรี เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นตำรวจชั้นประทวน ประจำปี 2551 เปิดรับสมัครสายป้องกันปราบปราม 1,500 อัตรา สายอำนวยการ และสนับสนุน 500 อัตรา ประการศรับสมัครตั้งแต่ 23 ม.ค. 2551 เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2551 ได้มีการประกาศผลสอบข้อเขียนทั้งหมดแล้ว แต่ต่อมีการร้องเรียนเรื่องการทุจริตในการสอบจึงเลื่อนการประกาศผลออกไป ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษาตั้งชุดสืบสวนส่วนกลาง ภ.5, ภ.7, ภ.8 และ ภ.9 ขณะนี้กำลังเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อสรุปผลให้ชัดเจน อย่างไรก็ตามผลปฏิบัติการเบื้องต้นพบว่า ในสายอำนวยการมีผู้เข้าสอบได้คะแนนซ้ำกันจนมีพิรุธ 167 ราย รับสารภาพว่ามีการทุจริต 54 ราย ส่วนสายป้องกันปราบปราม พบว่ามีการทุจริต 11 รายรับสารภาพ 2 ราย



 



ต่างประเทศ


 


แฉ! คลิปผู้ก่อการร้ายมุสลิมขู่วางระเบิดสนาม "โอลิมปิค"


มติชนออนไลน์ - กลุ่มก่อการร้ายในจีนขู่จะก่อการร้ายโจมตีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค โดยล่าสุดได้มีการแพร่ภาพวิดีโอชุดใหม่เตือนชาวมุสลิมในจีน ให้อยู่ห่างจากการจัดมหกรรมกีฬาในครั้งนี้ หลีกเลี่ยงการโดยสารรถประจำทาง รถไฟ เครื่องบิน และอย่าเข้าไปในอาคารบ้านเรือนของคนจีน


 


"ตลกชื่อดัง"พม่าถูกตั้งข้อหาที่ศาลลับในเรือนจำอินเส่ง


เว็บไซต์คมชัดลึก - (8ส.ค.) นายซากานาร์ ดาวตลกชื่อดังของพม่า ได้ถูกตั้งข้อหาที่ศาลที่เปิดการพิจารณาคดีที่ศาลลับแห่งหนึ่งพร้อมกับนักเขียนข่าวกีฬา และนักเคลื่อนไหวอีก 2 คน ในความผิดฐานส่งความช่วยเหลือด้านการบรรเทาทุกข์ไปให้ผู้รอดชีวิตจากพายุไซโคลนนาร์กิส โดยนายอ่อง เธียน ทนายของพวกเขา เปิดเผยว่า คนทั้ง 4 ถูกตั้งข้อหาเมื่อวันพฤหัสบดี ในศาลลับภายในเรือนจำอินเส่ง และอนุญาตให้เฉพาะสมาชิกในครอบครัวได้พบกับพวกเขาเท่านั้น ส่วนทนายก็ไม่มีอำนาจในการที่จะโต้แย้งในระหว่างพิจารณาคดีด้วยเช่นกัน


 


นายซากานาร์ และนายซอว์ เธ็ต ทะเว นักเขียนข่าวกีฬา ได้นำสิ่งของไปบริจาคให้บรรดาเหยื่อที่รอดชีวิตจากพายุไซโคลน ก่อนที่จะถูกจับกุม แต่ทางการยังคงไม่ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงว่าเหตุใดพวกเขาจึงถูกจับ ที่ทำให้นายซากานาร์ ถูกตั้งข้ออาชญากรรม 5 ข้อหา รวมทั้งปลุกระดมวลชนให้ก่อความไม่สงบและติดต่อสื่อสารกับองค์กรนอกกฎหมาย แต่ข้อหาที่รุนแรงที่สุดที่นายซากานาร์ และนายซอว์ เธ็ต ทะเว เผชิญคือ การละเมิดกฎหมายการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ ซึ่งเป็นอาชญากรรมที่มีบทลงโทษจำคุก 15 ปี


 


นายทิน หม่อง เอ นักเคลื่อนไหว วัย 23 ปี ถูกตั้งข้อหาว่าให้ความช่วยเหลือนายซากานาร์ แต่ข้อหาที่นายธันท์ เส่ง อ่อง นักเคลื่อนไหวอีกคนหนึ่งเผชิญ ยังไม่ชัดเจน แต่ทั้งหมดถูกจับกุมเมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งทางการได้ยึดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เกี่ยวกับวีดีโอจากพวกเขาด้วย


 


นายซากานาร์ ซึ่งเคยคิดคุกมาแล้ว 4 ครั้ง และนายซอว์ เธ็ต ทะเว ซึ่งเคยถูกจับเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2546 ฐานเผยแพร่บทความแสดงความสงสัยการทุ่มงบประมาณพัฒนาวงการฟุตบอล ได้ช่วยกันจัดการส่งการบรรเทาทุกข์ไปช่วยพายุไซโคลนนาร์กิส ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย 138,000 คน เมื่อต้นพฤษภาคม และรัฐบาลทหารถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า ขัดขวางการช่วยเหลือของนานาชาติต่อเหยื่อพายุประมาณ 2 ล้าน 4 แสนคน


 


ระทึกแผ่นดินไหวใน "อินโดนีเซีย" อาคารบ้านพังยับ


เดลินิวส์ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดรุนแรง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.6 ตามมาตรริคเตอร์ ที่ภาคตะวันออกของประเทศอินโดนีเซีย โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซียเผยว่า แรงไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.41น. ของเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 05.41น. ในประเทศไทย โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึก 10 กม.ในทะเลนอกชายฝั่งเกาะซุมบาวา เขตจังหวัดนูซาเตงการาตะวันตก ห่างจากกรุงจาการ์ตาเมืองหลวงไปทางตะวันออกราว 620 กม.


 


อย่างไรก็ตาม จากการตรวจจับของ สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ วัดแรงไหวสะเทือนครั้งนี้ได้ 5.7 ริคเตอร์ ด้านนาย รุสตัม ปากายา เจ้าหน้าศูนย์วิกฤติแห่งชาติอินโดนีเซีย กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานมีประชาชนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอย่างน้อย 5 ราย จากผนังอาคารและหลังคาบ้านพังถล่ม รวมทั้งสิ่งของตกหล่นจากที่สูง นอกจากนั้นยังมีบ้านเรือนที่พักอาศัย มัสยิด ร้านค้าและโรงเรียน พังเสียหายอย่างน้อย 1,200 หลัง โดย 500 หลังในจำนวนดังกล่าวอยู่ในสภาพเสียหายหนัก ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยากล่าวยืนยันว่า แรงไหวครั้งนี้ไม่ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิแต่อย่างใด


 


สมาคมธรณีวิทยาสหรัฐแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เกิดแผ่นดินไหววัดได้ 5.0 ริคเตอร์ ที่มณฑลเสฉวนทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเกิดแรงไหวติดตามหรืออาฟเตอร์ช็อกหลายครั้ง นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยแรงไหวครั้งใหม่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.15 น. ของวันพฤหัสบดี หรือตรงกับ 15.15 น. ตามเวลาในไทย จุดศูนย์กลางอยู่ลึกใต้ผิวดิน 10 กม. ห่างจากเมืองเหมียนหยางไปทางเหนือราว 87 กม. เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความสูญเสีย


 


รัฐบาลปากีฯ จ่อถอดถอนมูชาร์ราฟ


เดลินิวส์ - พรรคร่วมรัฐบาลของปากีสถาน ซึ่งนำโดยสามีของอดีตนายกรัฐมนตรีเบนาซีร์ บุตโต และอดีตนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ เห็นชอบร่วมกันให้ยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ออกจากตำแหน่ง โดยแหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวหลังจากเจรจากัน 3 วันระหว่างผู้นำพรรคร่วมว่า พรรคร่วมรัฐบาลเห็นชอบในหลักการในการยื่นญัตติต่อรัฐสภาเพื่อให้ดำเนินการพิจารณาถอดถอน หรืออิมพีชเมนต์ประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ


 


โฆษกของพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคในรัฐบาล กล่าวว่า การประกาศการตัดสินใจอย่างเป็นทางการจากการประชุมมีกำหนดในบ่ายวันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) นี้


 


ส่วนสมาชิกระดับสูงของพรรคสันนิบาตมุสลิมปากีสถาน-นาวาซ หรือพีเอ็มแอล-เอ็น ของนายชารีฟ กล่าวว่า มีความคืบหน้าครั้งสำคัญในการเจรจาเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พวกเราเห็นชอบร่วมกันที่จะให้มีการพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดีเปอร์เวซ ขณะที่เจ้าหน้าที่จากพรรค ประชาชนปากีสถาน ของนางบุตโต อดีตนายกผู้จากไป ซึ่งขณะนี้ นำโดยนายอาซิฟ อาลี ซาร์ดารี สามีม่ายของเธอ ก็ยืนยันการตัดสินใจดังกล่าว


 

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีมูชาร์ราฟได้เดินทางมุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี แม้ว่าจะมีรายงานข่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีมติเห็นชอบให้ถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายโมฮัมหมัด ซาดิก โฆษกกระทรวงต่างประเทศปากีสถาน เผยว่า ประธานาธิบดีมูชาร์ราฟได้ยกเลิกแผนการเยือนจีนกะทันหัน เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว แต่นายมูชาร์ราฟ เล็งเห็นถึงความสำคัญใกล้ชิดระหว่างปากีสถานกับจีน จึงตัดสินใจเดินทางไปร่วมพิธีเปิดการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net