Skip to main content
sharethis

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ช่วงเช้า ได้พังแผงเหล็กและเคลื่อนพลมาที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่สามารถทำการป้องกันแต่อย่างใด โดยจำนวนของผู้ชุมนุมคาดว่า มีประมาณ 1 หมื่นคน เดินทางมา 2 ด้านคือฝั่งตึกแดง และสะพานชมัยมรุเชษฐ์ มารวมกันที่ด้านหน้าประตู 1 รอที่จะบุกเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล


 


สถานการณ์ล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหลายพันคนเข้าไปชุมนุมอยู่หน้าบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู้ฟ้า แต่เจ้าหน้าที่ปราบจลาจลที่ประจำอยู่ในตัวอาคารมีการเจรจาไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปในตึกไทยคู่ฟ้าโดยให้เหตุผลว่าเกรงข้าวของเสียหาย อย่างไรก็ตามการเจรจาเป็นไปด้วยดีไม่มีเหตุการณ์ปะทะใดๆ เกิดขึ้น


 


โดยเจ้าหน้าที่ได้รักษาความปลอดภัยได้เปิดประตู 5 ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปยังสนามทำเนียบรัฐบาล หลังจากที่ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้พยายามปีนเข้าทำเนียบผ่านด้านหน้าประตูที่ 1 ส่วนภายในทำเนียบเจ้าหน้าที่ได้หยุดทำงานและออกไปจากตัวอาคารแล้ว ด้านการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ย้ายไปประชุมยังกองบัญชาการกองทัพไทย


 


รายงานข่าวระบุด้วยว่า กลุ่มผู้ชุมนุมหลายพันคนกำลังเดินเท้าจากสะพานมัฆวาน และถนนพิษณุโลกเข้ามาสมทบเพิ่มเติมอีก


 


ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เตรียมแถลงข่าวในวันนี้หลังการประชุมครม. จากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้แยกย้ายกระจายกำลังก่อเหตุบุกเข้ายึดหน่วยงานสำคัญของทางการหลายแห่ง อาทิ ทำเนียบรัฐบาล, สถานีโทรทัศน์ NBT, กระทรวงการคลัง, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์


 


เมื่อเวลา 15.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่หน้ากระทรวงคมนาคมราวหมื่นคนเดินเท้าไปสมทบที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังจากมีการประสานมาว่าสามารถยึดภายในทำเนียบรัฐบาลได้แล้ว


หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเสร็จสิ้น นายสนธิได้ประกาศชัยชนะของประชาชนที่บริเวณบันไดหน้าตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมยืนยันจะไม่ออก และจะปักหลักชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบฯ จนกว่ารัฐบาลจะลาออก และเป็นวันประวัติศาสตร์ที่ประชาชนได้เข้ามาในทำเนียบรัฐบาล แต่ยืนยันจะไม่เข้าไปยังภายในตึกไทยคู่ฟ้า หรือทำลายสิ่งของอย่างแน่นอน เพราะได้รับปากกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว


 


ก่อนหน้านี้ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. ได้ออกหนังสือเวียน ด่วนที่สุด สั่งการให้รองปลัด กทม. ผู้อำนวยการสำนัก หัวหน้าส่วนราชการในสังกัด กทม. ทุกหน่วยงาน ปฏิบัติงานเป็นกรณีพิเศษ โดย ให้ทุกหน่วยงานรัดระบบการติดต่อสื่อสารให้สามารถประสานงานกันได้ระหว่างหัวหน้าหน่วยงาน กับผู้บังคับบัญชา ตลอด 24 ชั่วโมง และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์เครื่องมือเพื่อพร้อมใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมาย


 


ทั้งนี้เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน รวมไปถึงให้ความช่วยเหลือประชาชนกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วนในพื้นที่กทม. ทั้งนี้ให้ปฏิบัติตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 ส.ค.


 


ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.จึงได้สั่งปิดการเรียนการสอนในวันนี้ จำนวน 14 โรง ประกอบด้วย ร.ร.วัดมกุฎกษัตริยาราม ร.ร.วัดอินทรวิหาร ร.ร.วัดใหม่อมตรส และ ร.ร.วัดตรีทศเทพในเขตพระนคร ร.ร.วัดคณิกาผล ร.ร.วัดดิสานุการาม ร.ร.วัดพระพิเรนทร์ และ ร.ร.วัดสิตารามในเขตป้อมปราบฯ ร.ร.วัดสมณานัมบริหาร และ ร.ร.เบญจมบพิตรในเขตดุสิต ร.ร.วิชูทิศ ร.ร.วิชากร และ ร.ร.สามเสนนอกในเขตดินแดง และ ร.ร.วัดไผ่ตันในเขตพญาไท


 


ทั้งนี้ ขอให้ผู้อำนวยการแต่ละโรงเรียนประเมินสถานการณ์ หากมีความรุนแรงและยืดเยื้อ ให้ทำเรื่องเสนอไปที่ผู้อำนวยการเขตในพื้นที่นั้นๆพิจารณาประกาศยุติการเรียนการสอนได้ทันที เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียนในสังกัด กทม.ทุกคน


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net